อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน

                          (https://upic.me/i/9e/20140304_170325_resize.jpg) (https://upic.me/show/49948220)

                   หลวงพ่อทวดวัดยะหาประชาราม  อำเภอยะหา  จังหวัดยะลา


     เปิดหัวข้อขึ้นมา  เพื่อเพื่อน ๆ  นักสะสมพระเครื่องท่านใดที่มีเวลาว่าง ๆ  ได้นำพระดี ๆ  แต่มักจะถูกมองข้าม  มาลงบันทึกไว้เพื่อประกาศเกียรติคุณของหลวงพ่อ  ให้เป็นที่รู้จักกันกว้างขวางยิ่งขึ้น  เพราะเท่าที่ตระเวณดูตามกระทู้ต่าง ๆ  มักจะมีแต่พระราคาแพง ๆ  ซึ่งสังคมนักนิยมพระเครื่องส่วนมากมักจะมองว่า  พระดีคือพระที่มีราคาแพง ๆ  ส่วนพระราคาถูก ๆ มักจะเป็นพระที่ไม่ดี  ทั้ง ๆ ที่พระจะดีหรือไม่ดีไม่ได้อยู่ที่ราคาเป็นเกณฑ์     ราคาไม่ใช่เป็นตัวตัดสินพุทธคุณของพระ  เพราะราคาพระนั้นความจริงแล้วเป็นเพียงธุรกิจที่พ่อค้าเขากำหนดขึ้นมาเท่านั้น

     เปิดกระทู้ด้วยพระดีที่น่าเลื่อมใสศรัทธา   แต่ราคาเบาหวิวเหมือนปุยนุ่น

     พระเนื้อว่านหลวงพ่อทวดวัดยะหาประชาราม  อำเภยะหา  จังหวัดยะลา  พระองค์ที่นำลงมาให้ชมนี้เป็นพิมพ์พิเศษ  แก่ว่าน  สร้างน้อยมาก  เนื้อหาจึงสุดสวย  มีคราบว่านไหลซึมอาบทั่วองค์พระอย่างเป็นธรรมชาติ
ว่านที่นำมาสร้างพระองค์นี้ก็เป็นว่านเดียวกับที่สร้างพระหลวงพ่อทวดวัดช้างให้  2497  เนื้อหาของพระองค์นี้จึงมีมวลสาร และคราบว่านเหมือนหลวงพ่อทวด 2497  ที่สามารถจะนำไปเป็นองค์ครูศึกษาหาหลวง
พ่อทวดวัดช้างให้  2497  ที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบันนี้   ได้เป็นอย่างดี

     ตามความเป็นจริง   หลวงพ่อทวดวัดยะหาประชาราม  เป็นที่รู้จักกันแล้วอย่างกว้างขวางในหมู่นักสะสมพระเครื่องทั่วประเทศ  แต่ค่านิยมอาจจะยังไม่หวือหวาเหมือนวัดอื่น ๆ  พระเครื่องรุ่นนี้สร้างขึ้นเมื่อปี
พ.ศ. 2503  ห้าสิบกว่าปีมาแล้ว  โดยหลวงพ่อเซี่ยง  เจ้าอาวาสวัดยะหาประชารามสมัยนั้นได้ดำริให้มีการสร้างขึ้น  หลวงพ่อเซี่ยงเป็นพระเกจิอาจารย์ที่คนในท้องถิ่นให้ความเคารพนับถือมาก  การพุทธาภิเษก
พระในสมัยก่อน   แถวจังหวัดยะลา ปัตตานี  นราธิวาส  และจังหวัดสงขลา  หลวงพ่อเซี่ยงจะเป็นเกจิรูปหนึ่งที่ขาดเสียมิได้  จะต้องมีท่านไปร่วมในพิธีทุกครั้งไม่ว่าวัดใดจะจัดพิธีขึ้น  ความศักสิทธิ์ของท่านยังมี
อยู่ตลอด   แม้หลังจากท่านมรณภาพแล้ว   ดังจะเห็นได้จากทางวัดได้จัดทำเหรียญที่ระลึก  เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพขึ้น    ปรากฏว่าเหรียญดังกล่าวเป็นที่แสวงหากันมากสำหรับคอไก่ชน  เป็นที่ฮือฮา
ว่าถ้าอยากจะให้ไก่ชนของตนชนะ   ต้องอาราธนาเหรียญดังกล่าวติดตัวไปด้วย  จนคนทั่ว ๆ ไปเรียกท่านว่า "หลวงพ่อไก่ชน"

    ก่อนจะจัดสร้างหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ขึ้น  หลวงพ่อเซี่ยงได้จัดสร้างพระอื่น ๆ มาแล้วตั้งแต่ปี 2490  กว่า ๆ  หลายแบบพิมพ์  แต่ไม่ได้บันทึกไว้ชัดเจนจึงสืบเสาะไม่ได้  ที่ยังปรากฏหลักฐานอยู่ก็เป็นพระพุทธชินราช
เนื้อดินผสมข้าวก้นบาตร  องค์เล็ก ๆ ซึ่งสร้างเมื่อปี 2496  ปัจจุบันพระรุ่นนี้ไม่มีที่วัดอีกแล้ว  ตกไปอยู่ในมือของผู้ที่เคารพศรัทธาในองค์หลวงพ่อหมดสิ้น  อยู่ในมือใครต่างก็หวงแหนเก็บไว้เป็นสมบัติของตระกูล
พระเครื่องรุ่นนี้จึงไม่มีหมุนเวียนในท้องตลาด  กลายเป็นพระเครื่องที่ถูกลืมไปโดยปริยาย

    พระเครื่องหลวงพ่อทวด ปี 2503  สร้างขึ้น  2  พิมพ์   คือพิมพ์ใหญ้่ (ตามภาพข้างบน)  และพิมพ์เล็กรูปสามเหลี่ยมทรงสูง  แต่พิมพ์เล็กสร้างน้อยกว่าพิมพ์ใหญ่มาก  พระเครื่องรุ่นนี้สร้างจากว่านที่เหลือ
จากการสร้างหลวงพ่อทวด ปี 2497  บางส่วน  และว่านที่หามาเพิ่มเติม  ก็เป็นว่านชนิดเดียวกัน   เพราะคนที่จัดหาว่านก็คือพ่อท่านแสง  แห่งวัดตาชี  อำเภอยะหา  จังหวัดยะลา  เจ้าตำหรับว่านที่มีความ
รอบรู้เรื่องว่านสารพัดชนิด  และเป็นผู้หาว่านสร้างหลวงพ่อทวดที่วัดช้างให้ด้วย

    นอกจากว่านแล้ว  ก็ยังนำน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์และดอกไม้บูชาพระจากวัดต่าง ๆ เกือบทั่วประเทศ  รวมทั้งวัดดัง ๆ ในกรุงเทพ ฯ  กดพระเสร็จแล้วก็ทำพิธีพุทธาภิเษก  4 วัน 4 คืน  มีเกจิอาจารย์ดัง ๆ เข้าร่วม
พิธีมากมาย  เช่น หลวงพ่อทิม  วัดช้างให้  หลวงพ่อดำ วัดตุยง  หลวงพ่อฉิ้น  วัดเมืองยะลา  เป็นต้น

    จึงนับได้ว่าพระรุ่นนี้  เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่อาจจะถูกเรียกว่า  พระดี ๆ ที่มักจะถูกลืม  ใครที่มีอยู่แล้วก็ขอให้เก็บไว้ให้ดี  พุทธคุณของท่านยอดเยี่ยมแน่นอน

                                   (https://upic.me/i/2l/20140305_130928_resize.jpg) (https://upic.me/show/49950599)


      หลวงพ่อทวดวัดยะหาประชาราม    ปี  2503  พิมพ์เล็ก   เป็นพิมพ์ที่ผสมดินดำกากยายักษ์มากกว่าว่าน   เนื้อแข็งตึง  ไม่เหี่ยวย่น
ดินดำกากยายักษ์ถือเป็นดินที่ศักดิ์สิทธิ์  มีอยู่แห่งเดียวคือที่ตำบลลำพยา  อำเภอเมือง  จังหวัดยะลา  การสร้างพระเครื่องเนื้อว่านให้ศักดิ์ศิทธิ์
จะขาดดินดำกากยายักษ์ไม่ได้โดยเด็ดขาด

                         (https://upic.me/i/5l/20140305_131035_resize.jpg) (https://upic.me/show/49950828)

                   หลวงพ่อทวดวัดตานีสโมสร  จังหวัดปัตตานี


    พระดี ๆ ที่มักจะถูกมองข้ามอีกแหล่งหนึ่ง   คือหลวงพ่อทวดวัดตานีสโมสร  เป็นหลวงพ่อทวดที่จัดสร้างขึ้นเมื่อปี  2505   หลากหลายแบบพิมพ์เหมือนกัน
แต่สำหรับเนื้อว่านจะมีสามพิมพ์  ใหญ่ กลาง เล็ก  พิมพ์ที่นำลงนี้เป็นพิมพ์ใหญ่  สมัยนั้นเขาลือกันว่าทางวัดตานีสโมสร  จะจัดสร้างพระรุ่นนี้ขึ้น    แล้วจะนำไปเข้าพิธี
พุทธาภิเษกที่วัดช้างให้ด้วย  แต่ตอนหลังมีปัญหาบางประการ จึงเปลี่ยนความตั้งใจ  มาจัดพิธีพุทธาภิเษกที่วัด  มีอาจารย์ดัง ๆ เข้าร่วมพิธีคับคั่ง  รวมทั้งหลวงพ่อทิม
วัดช้างให้  และที่ขาดไม่ได้คือหลวงพ่อเซี่ยง  แห่งวัดยะหาประชารามด้วยเช่นกัน  

    พระรุ่นนี้สร้างด้วยเนื้อว่าน  เป็นประเภทแก่ว่าน แต่ก็แกร่งด้วยปูน  โดยมีว่านบางส่วนจากวัดช้างให้มาเป็นส่วนผสม  เนื้อพระจึงดูหนึกนุ่ม  คราบไขว่านที่ไหล
อาบองค์พระทั้งด้านหน้าและด้านหลัง  จะเป็นลักษณะฟองสบู่  ผุดคลักขึ้นมาแล้วแตกตัวออก  ทำให้เหลือเกาะจับอยู่ทีองค์พระสวยงาม  ส่องดูแล้วชื่นใจจริง ๆ
เพราะเก่า ๆ แบบนี้หาดูได้ยากอีกแล้ว   โดยเฉพาะพระรุ่นนี้ถ้าใครมีโอกาสและชอบพระเนื้อว่าน   ก็น่าจะเสาะแสวงหาไว้ศึกษาเป็นต้นแบบพระเนื้อว่านได้เป็น
อย่างดี

    ที่สำคัญพุทธคุณไม่ด้อยกว่าสำนักใด ๆ เลยทีเดียวละ

              

                                           (https://upic.me/i/o2/20140305_143153_resize.jpg) (https://upic.me/show/49952489)


                          พระขุนแผนพิมพ์สดุ้งกลับ  วัดหลักห้า อำเภอเมือง  จังหวัดยะลา

    ของดี ๆ อีกวัดหนึ่งซึ่งมักจะถูกมองข้าม  คือพระพิมพ์ของวัดหลักห้า  อ.เมือง  จ.ยะลา  จัดสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503  ด้วยความพิถีพิถัน  และผ่านการ
ปลุกเสกและพุทธาภิเษกมาอย่างเต็มที่   เรียกว่าบรรจุพลังกันอย่างเต็มเปี่ยมทีเดียว

     วัดหลักห้า  จังหวัดยะลา  เดิมทีเป็นสำนักสงฆ์  ตั้งอยู่ใจกลางของชุมชนชาวมุสลิม    เป็นวัดชนบท  ห่างจากตัวเมืองประมาณ  10  ก.ม.  เป็นวัดที่ได้รับการพัฒนา
มาตลอด  และสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนชาวมุสลิมได้เป็นอย่างดี  ยิ่งในสมัยอาจารย์ทองเป็นเจ้าอาวาส  พุทธกับสมุสลิมจะอยู่กันแบบพี่น่้อง   อาจารย์ทองเป็นเกจิอาจารย์
ที่มากด้วยวิทยาคม   เป็นที่เลื่อมใสศรัทธา  ไม่เฉพาะแต่ชาวพุทธ  แม้ชาวมุสลิมก็จะเดินเข้าไปหาท่านถึงกุฎิ  เจ็บไข้ ไม่สบาย  มีปัญหาเดือดร้อนก็จะเข้าไปหา พูดคุย
ขอคำปรึกษา  สนิทสนมกลมเกลียว  แม้มีงานวัดก็จะมีมุสลิมเข้ามาช่วยงาน  อาจารย์ทองเองก็สร้างวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่แสวงหาของผู้เลื่อมใสศรัทธาหลาย
รายการเช่นกัน

     สำหรับพระที่นำลงให้ชมในวันนี้  เป็นพระที่สร้างสมัยที่วัดนี้ยังเป็นสำนักสงฆ์  มีหลวงพ่อแดง  เป็นเจ้าอาวาส  และผู้สร้างพระรุ่นนี้ก็คือหลวงพ่อดำ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
จัดทำขึ้นหลายพิมพ์   เช่น พิมพ์ขุนแผน  พิมพ์พระเจ้าห้าพระองค์ พิมพ์พระสมเด็จ  เป็นต้น  จะได้นำพระพิมพ์ต่าง ๆ ให้ชมในโอกาสต่อไป

     พระรุ่นนี้มีส่วนผสมของคราบไคลเจดีย์ที่ดัง ๆ ทั่วประเทศ  ผงศักดิ์สิทธิ์จากเกจิอาจารย์ต่าง ๆ  ในจังหวัดสงขลา พัทลุง ปัตตานี  รวมทั้งผงว่านจากการสร้างหลวงพ่อ
ทวดวัดช้างให้  และยังมีดินเหนียวสมัยศรีวิชัย  ซึ่งได้มาจากพระพิมพ์ดินดิบในถ้ำวัดถ้ำ(วัดคูหาภิมุข) จังหวัดยะลา  (พระในถ้ำวัดถ้ำยะลา  สร้างสมัยศรีวิชัย เก็บไว้ในถ้ำลึก
ไม่ผ่านการเผา  เมื่อนำขึ้นมากระทบอากาศภายนอก  จึงละลายแตกหักใช้การไม่ได้)  เนื้อหาของพระจึงแกร่ง  สีน้ำตาลเข้ม เกือบดำ (เป็นสีผสมระหว่างว่านสีดำ  กับดิน
เหนียววัดถ้ำสีน้ำตาล)  พระพิมพ์นี้ไม่มีน้ำว่าน และไม่ขึ้นรา  เพราะแก่ดินมากนั้นเอง

     ส่วนการประกอบพิธี   ก็ได้อาจารย์ชุม ไชยคีรี   เจ้าตำหรับอาจารย์ที่สร้างพระหนังเหนียว  ท้าพิสูจน์โดยการใช้ดาบฟันตามร่างกายให้เห็นกันจะจะ  จะเห็นเพียงรอยจ้ำ
เท่านั้น  พระที่อาจารย์ชุมสร้างจึงเป็นที่เสาะแสววงหากันมาก

     พิธีพุทธาภิเษก   มีถึง  4  ครั้ง  ดังนี้

           1.  ปี  2504   พ่อท่านคล้าย  วัดสวนขัน  ปลุกเสกให้ที่วัดเมืองยะลา
           2.  ปี  2505   นำเข้าพิธีปลุกเสกพิธีใหญ่  ร่วมกับหลวงพ่อทวดพิมพ์เตารีดที่ดังสนั่นอยู่เวลานี้  ที่วัดช้างให้
           3.  ปี  2506   นำเข้าพิธพุทธาภิเษกร่วมกับหลวงพ่อทวด  วัดเมืองยะลา
           4.  ปี  2507   นำเข้าร่วมในพิธีปลุกเสกหลวงพ่อไกร  วัดลำพยา

     แทบไม่ต้องกล่าวถึงความขลังของพระรุ่นนี้  ที่เข้าร่วมพิธีใหญ่ ๆ ร่วมกับพระดัง ๆ ทั้งนี้น  แล้วยังมีหลวงพ่อระดับเกจิอาจารย์ชั้นยอด เข้าร่วมปลุกเสก
เช่น  หลวงพ่อทิม  วัดช้างให้  หลวงพ่อดำ  วัดหนองจิก  หลวงพ่อฉิ้น  วัดเมืองยะลา  พ่อท่านคล้าย  อาจารย์ชุม   ฯลฯ

     นี่เป็นพระดี ๆ อีกพิมพ์ซึ่งคนมักจะมองข้าม   ใครยังไม่มีก็เสาะแสวงหามาเก็บไว้  พระดี ๆ อย่างนี้หายากสุด ๆ จริง ๆ
 

                         (https://upic.me/i/xr/ybzaxa.jpg) (https://upic.me/show/49958799)


        ภาพนี้นำมาจากเว็บไซด์แห่งหนึ่ง  ขอขอบคุณเจ้าของภาพและเว็บไซด์ไว้ ณ ที่นี่ด้วย

                                (https://upic.me/i/o3/20140306_091412_resize.jpg) (https://upic.me/show/49964314)
                                (https://upic.me/i/6l/20140306_091436_resize.jpg) (https://upic.me/show/49964316)


                                         เหรียญหลวงปู่แสง  วัดตาชี  อำเภอยะหา  จังหวัดยะลา

     บันทึกความดีของพระผู้อยู่เบื้องหลัง  และมักจะไม่ได้รับการกล่าวขาน  หลวงปู่แสง  วัดตาชี  ผู้เชี่ยวชาญเรื่องของว่านยาสารพัด  เป็นผู้จัดหาและคัดเลือกว่านส่วนหนึ่ง
ที่นำไปใช้สร้างหลวงพ่อทวด  ปี 2497  และหลวงพ่อทวดวัดยะหาประชาราม  ปี 2503  เพื่อให้พระเนื้อว่านที่จัดสร้างมีความเข้มขลังจากความศักดิ์สิทธิ์ของว่าน  ซึ่งว่าน
แต่ละชนิดมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเอง  เมื่อนำมาผสมรวมกันก็จะเพิ่มความเข้มขลังยิ่งขึ้น  รวมทั้งยังสามารถนำไปใช้เป็นยาได้ด้วย  ซึ่งปรากฏว่าหลวงพ่อทวดว่าน ปี 97
ถูกชาวบ้านนำไปฝนกับน้ำทำเป็นยาเสียจำนวนมาก

           ........ภาพทุกภาพที่ใช้ประกอบในบทความกระทู้นี้  ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ  จึงไม่คมชัดเท่าที่ควร.....  

                        (https://upic.me/i/0o/20140306_111745_resize.jpg) (https://upic.me/show/49965930)

          พระพุทธเจ้าห้าพระองค์  วัดหลักห้า  จังหวัดยะลา  สร้างปี  2503  พิธีเดียวกันกับพิมพ์ขุนแผน


    พระพิมพ์นี้สร้างจากดินเหนียวสมัยศรีวิชัย  จากวัดถ้ำยะลา  ผสมว่านบางส่วน  เนื้อออกสีน้ำตาลอ่อน ๆ    และมีคราบว่านปรากฏให้เห็นบ้าง
ตามซอกองค์พระ  ขนาดใกล้เคียงกับพระพิมพ์สมเด็จ   เป็นอีกพิมพ์หนึ่งที่มีความสวยงาม และเข้มขลังด้วยพิธีกรรม

                                                       (https://upic.me/i/im/20140306_103447_resize.jpg) (https://upic.me/show/49966501)
                                                       (https://upic.me/i/zr/20140306_103435_resize.jpg) (https://upic.me/show/49966556)
                                                       (https://upic.me/i/fk/20140306_103753_resize.jpg) (https://upic.me/show/49966581)


                                    เหรียญหลวงปูทอง  วัดหลักห้า  จังหวัดยะลา  สร้างที่ระลึกอายุครบ  95  ปี  เมื่อปี  2542 

       หลวงปู่ทองเป็นเจ้าอาวาส  และเป็นผู้สร้างวัดหลักห้าขึ้นมา  ในที่ดินที่ท่านได้บริจาคด้วยตนเอง  วัดหลักห้าเป็นที่รวมใจของไทยพุทธและมุสลิมมาเนิ่นนาน
แต่หลังจากเสียงปืนแตกที่ตากใบ  ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป  ไทยพุทธ ไทยมุสลิม ที่เคยสนิทสนมกลมเกลียวกัน  ก็ถูกยุยงส่งเสริมสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นแก่กัน
มุ่งแต่จะเข่นฆ่าประหัตประหารกันไม่เว้นแต่ละวัน  ทุกวันนี้วัดหลักห้จึงเป็นเพียงฐานที่มั่นของกองกำลังทหารเท่านั้น

       หลวงปู่ทองมีอายุยืนยาวถึง  108  ปี  มีวิทยาคมเข้มขลัง  เสกสร้างวัตถุมงคลเป็นที่เลื่องลือทั่วไป  แต่หลวงปู่ก็ไม่ได้สร้างชื่อเสียงตนเองให้โด่งดัง  มีชีวิต
สมถะแบบพระบ้านนอก  เหรียญรุ่นนี้ไปรับกับมือหลวงปู่มาตั้งแต่ปี  2542 โดยท่านแจกให้ฟรี ๆ  ที่วัดหลักห้านี้เท่าที่จำได้  ไม่ปรากฏว่ามีที่จำหน่ายวัตถุมงคลของ
วัดแต่อย่างใด (หรืออาจจะจำผิดก็ได้)  แต่เท่าที่ได้มาครอบครองหลายพิมพ์ หลายแบบ  ได้มาฟรี ๆ จากวัดทั้งสิ้น  จึงเป็นวัตถุมงคลที่มีเจตนาการสร้างดี  ไม่มี
พุทธพานิชย์เข้ามาเกี่ยวข้อง  จึงขอบันทึกเกียรติคุณของหลวงปู่ให้แพร่หลายต่อไปสืบนานเท่านาน

                                                (https://upic.me/i/o2/20140306_124804_resize.jpg) (https://upic.me/show/49968596)
                                                (https://upic.me/i/y8/20140306_130640_resize.jpg) (https://upic.me/show/49968607)

                               พระหลวงพ่อทวดวัดเมืองยะลา  สร้างปี  2505   พระอีกสำนักหนึ่งที่หลายคนมักจะมองข้าม


    พระทั้งสององค์ที่นำลงให้ชมนี้  เป็นพระที่ได้รับจากมือของหลวงพ่อฉิ้น  เจ้าอาวาสวัดเมืองยะลา   เมื่อปี พ.ศ. 2506  หลังจากไปช่วยวัดตั้งโต๊ะขนพระหลวงพ่อทวดรุ่นนี้ออกมา
ให้สาธุชนได้เช่าหาบูชา  เพื่อหาเงินพัฒนาวัด  ในราคาองค์ละ  10  บาท  เนื่องในวันที่วัดจัีดงานอะไรสักอย่างหนึ่ง  จำไม่ได้แล้วเพราะเนินนานมาก  หลังจากเสร็จงานหลวงพ่อฉิ้น
ก็กำพระให้เต็มกำมอบให้  นับได้ประมาณ 10 องค์กว่า  ได้มาแล้วก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่  เพราะเห็นว่าเป็นพระใหม่  ประกอบกับยุคนั้น  เป้าหมายในการเล่นพระก็จะมุ่งไปที่พระกรุ
รองลงมาก็ต้องหลวงพ่อทวด  ปี 2497  นอกนั้นจะถูกเมินไปหมด

    พระที่ได้รับมาก็ถูกวางไว้บนโต๊ะ  ใครไปใครมาก็อ้อนวอนให้เลือกหาไปคนละองค์สององค์  บางคนขัดใจไม่ได้ก็หยิบเอาไปแบบไม่เต็มใจ  ได้ไปแล้วก็ทิ้งขว้างหรือให้คนอื่นต่อไป
บางคนก็เอาไปขายต่อองค์ละ 1-2  บาท จนสุดท้ายเหลืออยู่ 2  องค์นี้เท่านั้น  เป็นประเภทพระเหลือเลือก  เลยต้องจำใจเก็บเอาไว้

    และสุดท้ายจริง ๆ  พระหลวงพ่อทวด 1 ใน 2 องค์  คือองค์ที่เลี่ยมกรอบสวยงามนั้น   ได้กลายเป็นพระประจำตัว  และจะแขวนพระเพียงองค์เดียวเท่านั้นติดกาย
จะนั่งรถ นั่งเรือ ขึ้นเหนือล่องใต้  ขึ้นเขาลงห้วย  มีเพียงหลวงพ่อทวดวัดเมืองยะลา  รุ่นปี 2505  องค์เดียวโดด  ๆ   ปลอดภัยไร้กังวลด้วยประการทั้งปวง

    หลวงพ่อทวดเป็นที่เคารพศรัทธาของคนใต้เป็นอย่างมาก  ทุกบ้านทุกช่องจะต้องมีหลวงพ่อทวดไว้บูชา   ไม่รุ่นใดก็รุ่นหนึ่ง  จะขึ้นบ้านใหม่  จะเกษียณอายุราชการ  หรืองานศพ
ก็จะใช้หลวงพ่อทวดนี่แหละแจกเป็นของที่ระลึก  ซึ่งผู้รับจะชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง

    แต่สำหรับคนเล้่นหาพระเครื่องก็ต้องหลวงพ่อทวดรุ่น 2497 อยู่ในหัวใจ  ช่วงปี พ.ศ. 2500 - 2520  หลวงพ่อทวดรุ่นนี้ยังพอหาได้ไม่ยาก  ในสนนราคา1,000-3,000 บาท
แต่ขณะเดียวกัน  ข้าราชการชั้นตรี  เงินเดือน ๆ ละ  750  บาท  พอมาเทียบกับราคาหลวงพ่อทวดยังห่างไกลกันเหลือเกิน

    ความที่อยากจะได้หลวงพ่อทวดเนื้อว่าน (เหตุผลเพราะน้ำหนักเบา แขวนแล้วสบายคอ) แต่สุดเอื้อมหลวงพ่อทวดรุ่นเนื้อว่าน  2497  ก็เลยหันมาพิจารณาพระวัดเมืองยะลา
ก็พบความจริงว่า  จริง ๆ แล้วพระหลวงพ่อทวดวัดเมืองยะลา  เหมาะสมสำหรับเป็นพระติดตัวเป็นอย่างยิ่ง

    เหคุผลสำคัญในการเลือกพระหลวงพ่อทวดวัดเมืองยะลา   เป็นพระประจำกาย

         1. ถือว่าเป็นพระเครื่ององค์แรกที่รับจากมือของพระผู้สร้างพระโดยตรง  ไม่ต้องส่องว่าแท้หรือไม่  พระอื่น ๆ ส่วนมากได้มาจากสนามพระ  นั่งส่องแล้วส่องอีก
             ก็หาความมั่นใจไม่ได้  จะใช้ก็ต้องแขวนกันยกพวงหลาย ๆ องค์  ก็ไม่มั่นใจอยู่ดี  แถมหนักคออีกต่างหาก

         2. พระรุ่นนี้จัดสร้างมาอย่างดีมาก  การใช้พระรุ่นนี้ก็เหมือนกับการใช้พระของวัดช้างให้  ไม่ว่าจะเป็นพระปี 97 หรือปี 2505 เพราะพระวัดเมืองยะลา  ได้รวบรวม
             ของวัดช้างให้ทั้งหมดมาไว้แล้ว  ผู้สร้างพระก็คือหลวงพ่อทิม  วัดช้างให้  และหลวงพ่อฉิ้น  วัดเมืองยะลา พระทั้งสองรูปคือผู้เปิดตำนานแห่งวัดช้างให้  และ
             ร่วมกันเปิดตำนานของวัดเมืองยะลาในปี 2505 ด้วยกัน  พระวัดเมืองยะลา  ผสมมวลสารเนื้อว่านที่เหลือจากการสร้างหลวงพ่อทวดปี 97 จำนวนมาก  พระ
             วัดเมืองยะลา  ปลุกเสกโดยหลวงพ่อทิม  วัดช้างให้   พระวัดเมืองยะลา  นำเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกที่วัดช้างให้  ในพิธีใหญ่เมื่อปี  2505  พระวัดเมือง
             ยะลา  ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้ง  ในปี 2506  พระวัดเมืองยะลาบางส่วน  อาจารย์ทิมได้นำไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่ไปเยี่ยนเยียนท่านที่วัดช้างให้

    เหตุผลสองประการหลัก  จึงได้นำพระวัดเมืองยะลามาเป็นพระประจำกายด้วยความเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน    โดยไม่มีข้อกังขาใด ๆ ทั้งสิ้น  (ตรงนี้เป็นเพียง
ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น)

    พระวัดเมืองยะลา  มีเนื้อหาที่ค่อนข้างแตกต่างกันในบางองค์  องค์ที่แก่ว่าน  จะปรากฏว่าเนื้อเหนียวนุ่ม ออกไปทางสีช็อคโกเลต  แต่บางองค์ที่แก่ดินเหนียวสมัย
ศรัวิชัยที่เอามาจากวัดถ้ำยะลา  มาเป็นส่วนผสมมาก  ก็จะออกไปทางสีน้ำตาลซึ่งเป็นสีของดินเหนียว  เนื้อจะไม่แน่นแกร่งแบบองค์ที่เป็นสีช็อคโกเลต

    หลังจากพระรุ่นนี้หมดจากวัด  แต่ยังมีผู้ต้องการพระรุ่นนี้อยู่อีก  ทางวัดจึงได้จัดสร้างรุ่นหลัง ๆ ขึ้นอีกหลายครั้ง  โดยใช้แม่พิมพ์เดิม  รูปร่างขององค์พระจึงเหมือน
ปี 2505  ทุกประการ   แต่ให้สังเกตที่เนื้อหาของพระจะไม่เหมือนกัน  พระที่สร้างรุ่นหลัง ๆ จะแก่ว่านมาก  บางองค์จะมองเห็นว่านเป็นเสี้ยน  เนื้อพระก็จะไม่แกร่ง
แต่จะยุ่ย  และแตกหักได้ง่าย  ผิวก็แข็งกระด้าง  ไม่เป็นมันเหมือนรุ่นปี  2505  ผู้ที่อยากจะได้พระรุ่นนี้จึงต้องสังเกตที่เนื้อหาพระให้ดีก็แล้วกัน

    พระวัดเมืองยะลารุ่นนี้   สร้างขึ้น 4  พิมพ์  คือพิมพ์จัมโบ้  พิมพ์ใหญ่  พิมพ์กลาง  (สร้างน้อย) พิมพ์เล็ก  หรือที่นิยมเรียกกันว่าพิมพ์เอ็กคิวซัง   พิมพ์เล็กจะ
เป็นที่นิยมมากที่สุด  มีว่าน 97  ผสมมากที่สุด   และเป็นพิมพ์ที่หายากที่สุดด้วย    ส่วนพระที่วัดสร้างรุ่นหลัง ๆ จะเป็นพิมพ์ใหญ่เป็นพื้น 

    เสนอบทความเกี่ยวกับพระพื้น ๆ  ที่ไม่ค่อยมีราคาค่างวดมาแล้ว  4-5  ตอน  ไม่รู้ว่าจะตรงเป้าของทางเว็บหรือเปล่า
แต่ก็ถือว่าเป็นการเข้ามาคุยเล่น ๆ  ไม่มีสาระอะไร  เป็นการใช้เวลาว่างที่เผื่อว่าอาจจะเป็นประโยชน์บ้างเท่านั้น

    ผู้เขียนบทความก็อายุมากแล้ว  เข้าเกณฑ์ที่เขาเรียกว่าชราภาพ  เพื่อนฝูงที่เคยตระเวณเล่นหาพระมาด้วยกัน  ก็ล้มหาย
ตายจากไปหมดสิ้นแล้ว  การเล่นหาพระก็เพลา ๆ มือลงไป  ประกอบกับปัจจุบันนี้  การส่องพระหรือการซื้อหาพระ  เขา
ใช้อินเตอร์เน็ตกัน   ก็เลยหันมาใช้ตรงนี้กับเขาด้วย

    สมัยก่อนการเล่นพระต้องพึ่งพาเซียนพระเท่านั้นเป็นคนตัดสิน  เพราะไม่มีแหล่งความรู้ที่ไหน  แม้แต่หนังสือก็ไม่มี
แถมเซียนพระจริง ๆ มีน้อย  มีคนแต่คนที่พอจะดูพระเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง  ได้พระมาแต่ละองค์ก็ต้องแห่ไปหาคนโน้น
คนนี่  และสุดท้ายมักจะปรากฏว่า  พระองค์ที่แท้ ๆ ชัวร์  ที่เราได้มา  จะถูกเซียนประเภทนี้ตีไปว่าเป็นพระเก๊  และจะ
ถูกเป่าหูด้วยนิทานต่าง ๆ  จนเราต้องปล่อยพระแท้ ๆ นั้นไป   เพื่อแลกเปลี่ยนกับพระปลอมของเซียน

    เล่นพระไป 4-5  ปี  เมื่อความรู้มีมากขึ้น ก็พบว่าพระที่บรรดาเซียนแลกเปลี่ยนมากองเต็มที่บ้านนั้น  99 %
เป็นพระปลอม

     นี่คือความเจ็บช้ำน้ำใจของคนเริ่มเล่นพระใหม่ ๆ  ในสมัยก่อน

(https://upic.me/i/ne/20140306_133426.jpg) (https://upic.me/show/49982190)


แถมความรู้ตรงนี้   กับรูปพระที่ขยายเต็ม ๆ   (ยืมเขามาถ่ายรูป  เขาให้โชว์ได้เฉพาะส่วนนี้เท่านั้น)

     วิธีสังเกตพระหลวงพ่อทวดวัดช้างให้  ปี  2497  ว่าแท้หรือเปล่า   ได้ไปพบบทความของคุณ "แพะ  สงขลา"  ได้ใช้
หลักวิทยาศาสตร์  และการวิเคราะห์บนพื้นฐานของความจริง  โดยอาศัยข้อมูลจากการสร้างพระรุ่นนี้ว่าสร้างมาจากส่วนผสม
อะไรบ้าง  ผลจึงปรากฏว่าพระหลวงพ่อทวดรุ่นปี  97  ทุกองค์จะต้องมีส่วนประกอบ ดังนี้

     หลวงพ่อทวดว่าน  ไม่ว่าจะแก่ดินหรือแก่ว่าน  จะมีมวลสารที่ประกอบให้เห็นชัดเจนทุกองค์  ว่าจะต้องประกอบไปด้วย
เม็ดดำ  เม็ดแดง (สีอิฐเผา) และเม็ดขาว

     ส่วนเม็ดแร่ที่มีมาก ๆ หลังพระหลวงพ่อทวดเนื้อว่านนั้น  เป็นแร่ที่ท่านคหบดีอนันต์  คณานุรักษ์  นำมาจากเหมืองของท่าน
ท่านเรียกแร่นี้ว่า  "แร่กิมเซียว"  แปลว่าทองน้อย หรือทองอ่อน  เมื่อพิจารณาสีของเม็ดแร่  ก็ปรากฏว่าจะมีสีทองอ่อน ๆ และ
เมื่อส่องให้กระทบแสงไฟ  ก็จะส่งประกายเป็นสีโครเมี่ยม

     นี่คือข้อความของคุณแพะ สงขลา  ที่ยกมาให้ดู  ขอบคุณคุณแพะ สงขลา  ที่ได้ให้ข้อมูลที่ยอดเยี่ยมมาก

      อีกอย่างหนึ่งในการพิจารณาหลวงพ่อทวด  ก็คือคราบน้ำว่าน   ต้องดูให้เป็นด้วย  พระที่แก่ว่านจะมีคราบมาก  บางองค์
ปกคลุมทั้งองค์  ส่วนพระที่แก่ดินและปูน  ก็จะมีคราบน้ำว่านน้อยกว่า  คราบน้ำว่านจะต้องเป็นธรรมชาติ  คือไหลซึมออกมา
จากองค์พระแล้วแผ่อาบบาง ๆ ไปตามองค์พระ  หนาบ้างบางบ้างแล้วแต่สภาพ  บางแห่งก็จะปุดขึ้นมาเป็นฟอง  แล้วแตกออก
มองดูเป็นเม็ดเล็ก ๆ  ส่วนของปลอมจะนำไปแปะทาไว้  สังเกตให้เป็นจะมองเห็นได้

     องค์ที่เอามาโชว์เข้าเกณฑ์ทุกข้อตามข้อความข้างต้น   เจ้าของจึงมั่นใจวาเป็นของแท้  ก็นำลงให้ดูเล่น ๆ  ใครมีพระ
หลวงพ่อทวดเนื้อว่าน   ก็พิจารณาดูเอาเองแล้วกัน  ผู้เขียนบทความนี้ก็ดูไม่ชำนาญเหมือนกัน

                                  (https://upic.me/i/le/20140306_150530_resize.jpg) (https://upic.me/show/49986628)
                                  (https://upic.me/i/zn/20140307_125944_resize.jpg) (https://upic.me/show/49986635)

                         พระสังกัจจายน์  วัดเมืองยะลา  สร้างปี  2505  เนื้อโลหะ  และเนื้อว่าน

           วัดเมืองยะลามีความประสงค์ที่จะสร้างองค์พระสังกัจจายน์  ให้เป็นพระุทธรูปองค์ใหญ่  ให้สาธุชนได้สักการะบูชา   เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
จึงได้จัดสร้างพระพิมพ์ต่าง ๆ ขึ้นหลายพิมพ์ในปี  2505   เพื่อหาทุนมาจัดสร้างดังกล่าว

           นอกจากพิมพ์หลวงพ่อทวดวัดเมืองยะลาแล้ว  ยังมีพิมพ์พระสังกัจจายน์ทั้งเนื้อโลหะ  และเนื้อว่าน   อันเป็นพิมพ์ที่น่าสนใจอีกพืมพ์หนึ่ง
เฉพาะที่เป็นองค์เนื้อว่าน   ได้จัดสร้างขึ้นโดยมีมวลสารต่าง ๆ มาผสมจำนวนมาก  โดยเฉพาะองค์หลวงพ่อกัจจายน์พิมพ์เนื้อว่าน  ได้ผสมว่านที่เหลือ
จากการสร้างหลวงพ่อทวด ปี 97  ซึ่งอาจารย์ทิมมอบให้  และเพิ่มเติมว่านที่คัดสรรแล้วว่าสามารถป้องกันเขี้ยวงาและศัตราวุธได้เป็นอย่างดีมาเป็นส่วนผสม
รวมทั้งได้นำดินสมัยศรีวิชัยมาเป็นส่วนผสมด้วย  ตลอดจนจัดพิธีการที่เข้มขลังตามตำรับโบราณอย่างแท้จริง

          และที่สำคัญได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดช้างให้  พร้อม ๆ กับหลวงพ่อทวดพิมพ์เตารีดเนื้อกลับที่ลือลั่นด้วย  พุทธคุณจึงหายห่วงจริง ๆ
พระพิมพ์สังกัจจายน์วัดเมืองยะลา  มักจะเป็นพระที่ถูกมองข้าม  อาจจะเป็นเพราะไม่รู้จัก  หรือไม่รู้ประวัติการสร้าง  หรือไม่อาจจะหาพระมาบูชาได้
เพราะคนในท้องถิ่นมักเก็บไว้  ทำให้ปริมาณพระหมุนเวียนมีน้อยก็อาจเป็นได้

                                         (https://upic.me/i/nf/20140308_083852_resize.jpg) (https://upic.me/show/49995496)
                                         (https://upic.me/i/88/20140308_084810_resize.jpg) (https://upic.me/show/49995499)


                           เหรียญหัวโต  วัดช้างให้  ปี 2530  พิมพ์นิยม  ว.แตก



       เหรียญหลวงพ่อทวดวัดช้างให้  พิมพ์หัวโต  ย้อนยุครุ่นแรก ปี 2500  ออกให้เช่าบูชาเมื่อปี  2530  เป็นเหรียญที่พิถีพิถันในการสร้างเป็นอย่างมาก  ออกแบบและจัดทำ
โดยกองกษาปณ์  ผิวเหรียญออกไปทางสีน้ำตาล (แต่องค์ที่นำมาถ่ายรูปเก็บไม่ดี  สีจึงเพี้ยนไปทางสีดำ) ตามข่าวว่าบางส่วนจะนำขึ้นทูลเ้กล้า  บางคนจึงเรียกเหรียญรุ่นนี้ว่า
เหรียญรุ่นทูลเกล้า

       จากการทำที่พิถีพิถัน  และจัดพิธีพุทธาพิเศกที่ยิ่งใหญ่ถึงสองครั้ง  ครั้งแรกจัดที่วัดบวรนิเวศวิหาร  โดยสมเด็จพระสังฆราชมาเป็นประธานในพิธี  มีพระเกจิอาจารย์
ภาคกลางเข้าร่วมพิธีสายสิบรูป หลังจากนั้นได้นำกลับมาเข้าพิธีที่อุโบสถวัดช้างให้  มีพระเกจิดัง ๆ ภาคใต้เข้าร่วมอย่างคับคั่ง  ล้วนเป็นอาจารย์สายหลักที่ปลุกเสกพระหลวง
พ่อทวดมาแล้วทั้งสิ้น  พระรุ่นนี้จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

       ใหม่ ๆ พระรุ่นนี้ก็เหมือนพระพิมพ์อื่น ๆ  ที่วางให้เช่าบูชาในวัด  มีคนเช่าหาบูชากันเป็นปกติ  สักพักใหญ่ ๆ  ถัดมาประมาณ 1-2 ปี จำไม่แน่ชัด  เมื่อไปที่วัดช้างให้
ครั้งนั้น  เจ้าหน้าที่ที่ให้เช่าบูชาพระบอกว่า  ถ้าอยากได้เหรียญรุ่นนี้ก็ให้รีบเก็บไว้เสียตั้งแต่วันนี้  เพราะขณะนี้มีพระเหลืออยู่เฉพาะในพานที่วางไว้ให้บูชานี้เท่านั้น  ส่วนที่
ที่เก็บไว้เป็นลัง ๆ  เพื่อรอการเช่าบูชานั้น  ถูกเซียนพระมาเหมายกลังเกลี้ยงวัดไปแล้ว

      พอทราบข่าวดังนั้น  หลายคนที่ยืนตรงนั้นก็คิดได้ว่าพระรุ่นนี้ต่อไปจะมีอนาคตดีแน่นอน  การที่เซียนพระเหมากันแบบหมดวัดเช่นนี้  ต่อไปจะต้องนำไปปั่นราคาหา
กำไร  ราคาก็จะพุ่งขึ้นแน่นอน  หลายคนจึงเข้าไปแบ่งกันเช่าบูชา  ก็ได้มาคนละ 1-2 องค์  แบ่ง ๆ กันไปเท่านั้น  พระรุ่นนี้ก็หมดจากวัดไปโดยสิ้นเชิง

     ก็เป็นอย่างที่คาด  จากที่หลาย ๆ คนคลางแคลงใจว่าพระที่ทำขึ้นย้อนยุคพระรุ่นที่โด่งดังมักจะไม่ค่อยดังตาม  ประกอบกับออกหลังจากอาจารย์ทิมมรณภาพด้วยแล้ว
เหรียญรุ่นนี้ก็คงจะงั้น ๆ  จึงไม่อยากสนใจเก็บไว้มากนัก  แต่ก็ลืมคิดไปว่า  เมื่อพระรุ่นเก่า ๆ มีราคาแพงขึ้น  แถมหายากขึ้นคนที่ต้องการพระที่ออกมาจากวัดช้างให้โดยตรง  
ยังมีอยู่อีกมาก   พระรุ่นหลัง ๆ ก็จะมีโอกาสได้รับความนิยมขึ้นได้

     วงการพระนี่ก็แปลก   พระที่สวยสมบูรณ์  ไม่มีตำหนิ  มักจะไม่ค่อยได้รับความนิยม  แต่พระพิมพ์ไหนมีริ้วมีรอย  มีเส้น มีขี้กลาก  จะกลายเป็นพิมพ์นิยม  เล่นหา
กันราคาแพง อย่างพระรุ่นนี้ก็เช่นกัน  มีอยู่บางองค์ที่มีเส้นแตกจากตัว ว.แหวน ลากยาวไปจดข้อศอกหลวงพ่อทวด  จะถูกวงการจำแนกเป็นพิมพ์นิยม  และมีราคาแพง
บางที่จะเล่นหากันสองหมื่นขึ้นไป  นัยว่าพระมีลักษณะเช่นนี้  เป็นพระที่หายาก

     จากข้อสังเกตของผู้เขียนบทความนี้  เท็จจริงไม่ขอยืนยัน ถ้าจะหาพระพิมพ์ ว.แตกนี้  ต้องไปหาตามชาวบ้านแถวยะลา ปัตตานี  เชื่อว่าจะเก็บไว้มาก  เพราะพระ
พิมพ์นี้จะออกวางให้เช่าบูชาครั้งแรก ๆ  เมื่อปี 2530  ส่วนพระที่วางให้เช่าบูชาปีหลัง ๆ  จนถึงวันพระหมดวัด  ล้วนเป็นพิมพ์ปกติทั้งสิ้น

     เหมือน ๆ กับพระพิมพ์กลีบบัวหลวงพ่อทวด พิมพ์ รศ 200  หน้ารุ่นหนึ่ง  ที่เสาะหากันราคาแพง  นี่ก็ออกวางให้เช่าบูชาครั้งแรก ๆ เช่นกัน  

                                             (https://upic.me/i/tt/20140307_130633_resize.jpg) (https://upic.me/show/49997293)

                 หลวงพ่อทุ่งคา  วัดบูรพาราม  อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี  เนื้อว่าน  สร้างปี 2505   สุดยอดแห่งความศักดิ์สิทธิ์
                                             (https://upic.me/i/6u/25431-8.jpg) (https://upic.me/show/49997344)
                                             (https://upic.me/i/8d/25431-9.jpg) (https://upic.me/show/49997346)
                                             (https://upic.me/i/br/25431-13.jpg) (https://upic.me/show/49997351)
                                             (https://upic.me/i/zj/808641-5a434.jpg) (https://upic.me/show/49997372)
                                             (https://upic.me/i/sp/808641-46917.jpg) (https://upic.me/show/49997377)

    เอกสารอ้างอิง ได้มาจาก "เว็บพระ" และเว็บ "คนรักพระ"  ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ตรงนี้  เพื่อช่วยกันประกาศกิตติคุณของหลวงพ่อให้แพร่หลายสืบไป



      พระเก่า ๆ  ที่มีอายุการจัดสร้างนานถึง  50  ปีกว่า ๆ อีกสำนักหนึ่ง  ซึ่งหลายคนอาจจะมองข้าม  แต่ขอบอกว่าหลวงพ่อวัดทุ่งคา  เนื้อว่านองค์นี้  เป็นพระ
ที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง  เนื้อหาของหลวงพ่อทุ่งคา  ตลอดจนคลาบไขว่าน  ก็คล้ายคลึงกับหลวงพ่อทวดวัดช้างให้เป็นอย่างมาก

      หลวงพ่อทุ่งคาเป็นพระพุทธรูปประจำวัดบูรพารามมาหลายร้อยปี  เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านเป็นอย่างมาก  มีประวัติเล่าขานมายาวนาน  พูดกันจริง ๆ
แล้วหลวงพ่อวัดทุ่งคาเนื้อว่านองค์นี้  เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีสำหรับนักเลงพระในท้องถิ่น  ตั้งแต่ปี 2505  มาแล้ว  มีการแสวงหาและพกพาติดตัว  พร้อมทั้ง
เล่าขานถึงความขลังของพระองค์นี้สู่กันฟังมาตลอดแล้ว

      ก็นำเสนอไว้สำหรับบางคนที่อาจจะยังไม่รู้จัก  พร้อมเอกสารอ้างอิงให้ได้ศึกษาแล้ว  พบพานที่ใดก็อย่าลืมเก็บหาไว้  ท่านช่วยคุ้มภัยให้อย่างแน่นอน

                                                      (https://upic.me/i/qd/20140308_135359_resize.jpg) (https://upic.me/show/50000782)
                             
                                                      (https://upic.me/i/z2/20140308_135303_resize.jpg) (https://upic.me/show/50000784)


                              เหรียญหลวงพ่อดำ  วัดตุยง  อำเภอหนองจิก  จังหวัดปัตตานี  รุ่นแรก ปี 2516
                                        เหรียญรุ่นนี้มีเหรียญเก๊ที่เฉียบขาด  ปราบเซียนภาคใต้ตากลับมามากมายแล้ว  จนหลายคนชักขยาด
                                                                              ที่นำลงนี้ก็แค่ 50/50

   ตั้งแต่  50 กว่าปีมาแล้ว   ทีชมรมคนชอบพระเครื่องมักจะพูดกันว่า  ทางภาคใต้นี่ไม่ว่าจะสร้างพระอะไรขึ้นมา  โอกาสที่จะโด่งดังแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
เพราะมีหลวงพ่อทวดเป็นแกนหลักนำโด่งดังทะลุฟ้าอยู่แล้ว  ปิดบังบรรดาหลวงพ่อต่าง ๆ ในภาคใต้ไปแทบจะมิดชิด

   แต่ในความเป็นไปไม่ได้ ก็มีทางที่เป็นไปได้  แม้จะไม่สามารถโด่งดังเทียบเท่าหลวงพ่อทวด  แต่ก็โด่งดังอยู่ในลักษณะที่เป็นรองก็แค่หลวงพ่อทวดเท่านั้น
นั่นคือ "หลวงพ่อดำ  นันทิโย  วัดมุจลินทวาปีวิหาร (วัดตุยง) อำเภอหนองจิก  จังหวัดปัตตานี  นั้นเอง

   เหรียญหลวงพ่อดำรุ่นแรก  ที่จัดสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี  2516  เป็นเหรียญที่โด่งดังมาตั้งแต่ปีที่สร้างทันที  กระแสความต้องการเด่นฉิว  จนพระ
หมดไปจากวัดอย่างรวดเร็ว  ความเข้มขลังและความศักดิ์สิทธิ์ของเหรียญรุ่นนี้ปรากฏชัดแก่ผู่ที่เช่าไปบูชา  หลายคนไฝ่คว้าหาไว้ป้องกันตัว  กระแสนี้
แผ่กว้างจากท้องถิ่นเข้าสู่สนามพระส่วนกลาง  ความต้องการก็ยิ่งมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ  จึงสบโอกาสให้พวกมือผีผลิตพระฝีมือขึ้นมาตอบสนองทันที
และได้พัฒนาฝีมือขึ้นจนเทียบเคียงกับของแท้อย่างไม่ผิดเพี้ยน  เซียนหลายคนโบกมือยอมแพ้ต่อการเสาะหาเหรียญรุ่นนี้  ทำให้ราคาค่านิยมอยู่แค่
หลักหมื่นต้น ๆ

   เหรียญรุ่นนี้มี  2  พิมพ์ คือพิมพ์หลังเรียบ  กับพิมพ์หลังมีเส้นขนแมว

   หลังจากนั้นทางวัดก็สร้างเหรียญขึ้นมาอีกหลายรุ่น  ซึ่งจะได้แจกแจงให้ทราบต่อไป  เหรียญรุ่นหลัง ๆ ของหลวงพ่อดำ  ไม่ค่อยมีของปลอม
สนนราคาก็อยู่แค่หลักร้อยหรือพันต้น ๆ  แต่ความเข้มขลังและค่านิยมยังสูงสุดอย่างไม่น่าเชื่อ

    ใครที่ได้สัมผัสกับหลวงพ่อดำอย่างใกล้ชิด  จะพบความจริงว่าทำไมหลวงพ่อดำจึงปลุกเสกพระได้เข้มขลัง  และเป็นที่ศรัทธาเป็นอย่างมาก

    ข้อความต่อไปนี้น่าจะไม่มีใครเคยเล่ามาก่อน

    ในช่วงปี  2520-2522  ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปกราบหลวงพ่อดำบ่อยครั้งมาก  เหตุที่ไปบ่อยครั้งเพราะความประทับใจและมีความสุข
ทุกครั้งที่ได้ไปกราบหลวงพ่อ  หลวงพ่อดำเป็นพระที่มีความเป็นพระอย่างแท้จริง  ผิดกับพระภิกษุรูปอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง  หลวงพ่อดำเป็นถึงพระ
ราชาคณะชั้นราช ได้ชื่อว่าพระราชพุทธิรังษี  เป็นเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี  เป็นเจ้าอาวาสวัดตุยง  แต่หลวงพ่อดำไม่สนใจในลาภยศแต่อย่างใด
เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อว่าหลวงพ่อดำกลับพำนักอยู่ในกุฏิหลังเล็ก ๆ  เป็นกฏิไม้เก่า ๆ  ไม่มีทรัพย์สินสมบัติ  หรือเครื่องอำนวยความสะดวกใด ๆ
ทั้งสิ้น  ใช้ชีวิตแบบสมถะ  แบบของผู้เป็นพระที่หลุดพ้นจากโลภ โกรธ หลง แล้วอย่างแท้จริง  ซึ่งหาได้ยากยิ่งสำหรับพระระดับเจ้าอาวาส
ที่ดำรงตนในลักษณะนี้

    ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมหลวงพ่อ จะพบว่าหลวงพ่อปิดประตูเงียบอยู่ในกุฏิเพียงรูปเดียว  ไม่มีเด็กวัด  ไม่มีพระเลขาที่คอยกีดกันผู้ที่เข้าไปพบหา
ท่านเหมือนเหมือนพระดัง ๆ หลายรูป  เพียงได้ยินเสียงคนพูดขึ้นที่หน้ากุฏิ   หลวงพ่อดำก็จะเปิดประตูกุฏิออกมาต้อนรับทันทีที่ชานหน้ากุฏิ
ซึ่งจะรับแขกได้ประมาณ 4-5  คน  เพราะกุฏิเล็กนิดเดียว  กราบเรียนบอกหลวงพ่อว่ามารบกวนเวลาจำวัดอีกแล้ว  ท่านจะยิ้มด้วยอารมณ์
ดี  บอกว่าไม่เป็นไรหรอก ปกติท่านจะไม่ค่อยจำวัดอยู่แล้ว  ท่านเป็นพระที่อารมณ์ดี  ยิ้มแย้มแจ่มใส  พบปะพูดคุยกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร
บางทีก็กระเซ้าหลวงพ่อว่า  อยากจะมาขอเหรียญรุ่น 1  จากหลวงพ่อบ้าง  หลวงพ่อก็จะบอกว่าไม่มีหรอก  เขาไม่ให้หลวงพ่อไว้  เพราะ
กลัวจะแจกญาติโยมเสียหมด  (แต่ที่หลวงพ่อมีและจะแจกให้ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมเยียนท่าน  ก็คือหลวงพ่อทวดนวล  ซึ่งท่านได้จัดสร้างไว้
ตั้งแต่ปี  2507  แล้ว)  ท่านบอกว่าจะเอาทำไมเหรียญรุ่น 1  เหรียญรุ่นหลังที่ท่านปลุกเสกให้  ใช้ได้เหมือนกัน  ดีกว่าเหรียญรุ่น 1  เสียอีก
และก็เป็นดังที่ท่านว่าจริง ๆ  เหรียญรุ่นปี  2522  ของท่าน  ปรากฏพลังศักดิ์สิทธิ์ช่วยทหารหาญที่ปกป้องแผ่นดินสามจังหวัดภาคใต้  รอดพ้น
จากกระสุนปืน และระเบิดมามากมายแล้ว  ทหารที่เดินทางไปประจำการทางภาคใต้  จึงต้องเสาะหาเหรียญรุ่นนี้ไว้ประจำตัวแทบทุกคน

    นี่คือเรื่องราวบางส่วนของหลวงพ่อดำ  พระภิกษุผู้เปี่ยมล้นด้วยจริยวัตรที่น่าเลื่อมใสอย่างแท้จริง

   เหตุผลนี้  หลวงพ่อดำจึงได้เป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกหลวงพ่อทวดวัดช้างให้  เมื่อปี  2497   ปี  2505  และปี 2522 ซึ่ง
พระหลวงพ่อทวดรุ่นดังกล่าวนี้   โด่งดังทะลุฟ้าทั้งนั้น

                                        (https://upic.me/i/pv/20140309_144604_resize.jpg) (https://upic.me/show/50015418)
                     
                                        (https://upic.me/i/qc/20140309_144641_resize.jpg) (https://upic.me/show/50015433)

                                        หลวงพ่อดำ  รุ่น  2  ปี 2519

                                                     (https://upic.me/i/z4/20140309_141524_resize.jpg) (https://upic.me/show/50015488)
                                                     (https://upic.me/i/oy/20140309_141717_resize.jpg) (https://upic.me/show/50015490)

                                                    หลวงพ่อดำรุ่น  3  ปี  2520

                                            (https://upic.me/i/cf/20140309_141754_resize.jpg) (https://upic.me/show/50015511)
                                            (https://upic.me/i/rn/20140309_141815_resize.jpg) (https://upic.me/show/50015515)

                                         หลวงพ่อดำรุ่น  4   ปี  2522

                                      (https://upic.me/i/cx/20140310_110353_resize.jpg) (https://upic.me/show/50028893)

                       หลวงพ่อทวดนวล  เทวธัมโม  วัดตุยง  อำเภอหนองจิก  จังหวัดปัตตานี  พระดีสุดยอดที่หลายคนมักจะมองข้าม

     ขอพักเริ่องของหลวงพ่อดำไว้ตรงนี้ก่อน  ความจริงพระเครื่องหลวงพ่อดำยังมีอีกหลายพิมพ์ หลายแบบ  และหลายรุ่น  รวมถึงรุ่นที่สร้างหลัง ๆ ในปีสองปีนี้ก็ยังมีสร้างอยู่
และการสร้างทุกครั้งก็ยังได้รับความนิยมอย่างมาก  แม้หลวงพ่อจะมรณภาพไปแล้ว  แต่ความเข้มขลังของท่านยังไม่หายไปไหน  ยังคงคอยช่วยเหลือผู้ที่เคารพนับถือในตัวท่าน
อยู่เสมอ

     ขอแนะนำพระดีที่เรียกได้ว่าถูกลืมและถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย  และเชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก  หรืออาจจะได้ยินชื่อแต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นพระอะไร

     พระที่ว่านั้นก็คือ    หลวงพ่อทวดนวล เทวธัมโม  วัดตุยง  ที่หลวงพ่อดำได้จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2507  นั้นเอง

     มาลองอ่านวิธีใช้พระเครื่องหลวงพ่อทวดนวล  ตามที่ทางวัดได้แจกให้กับผู้ที่เช่าพระรุ่นนี้ไปบูชา  ความบางตอน  ดังนี้

     " พระเครื่องหลวงพ่อทวดนวล  เทวธัมโมนี้  ทางวัดได้จัดสร้างขึ้นอันประกอบด้วยเนื้อว่าน  เครื่องยา  และเกสรดอกไม้  ถึงอย่างละ  120  ชนิด    ทำพิธีพุทธาภิเษก
อัญเชิญวิญญานหลวงพ่อทวดสิงสถิต  ในองค์พระนี้แล้วโดยถูกต้องสมบูรณ์  โดยคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในทางไสยเวทย์วิทยาคม  ดังนั้นจึงย่องบันดาลคุณานุภาพป้องกัน
ภัยต่าง ๆ ได้ 120  ประการ เท่ากำลังส่วนผสม  สามารถอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดจากภัยศัตราวุธทุกชนิด  บันดาลเสน่ห์เมตตามหานิยม เจริญด้วยลาภยศเดชานุภาพ
มาก  เป็นมหาลาภทางค้าขาย  หรือการเสาะแสวงหาโชคลาภ  นอกจากนั้นพระเครื่องยังช่วยบำบัดรักษาโรคบางอย่างได้อีกด้วย

                                       ฯลฯ

     พระเครื่องนี้ยังใช้บำบัดรักษาโรค ถูกยา ถูกคุณไสย ถูกผี หรือเนื้องจากที่อยู่อาศัยมีอาเภท  พระภูมิเจ้าที่รบกวนให้โทษ  ให้เอาพระเครื่องนี้ทำน้ำพระพุทธมนต์
กินและประพรหมบ้าน  ความเดือดร้อนต่าง ๆ จะสิ้นไป  ใช้แก้โรคมะเร็ง  ให้เอาผักหัก (ทองพันชั่ง) 1  ดอกกะพึง (พลับพลึง) 1 หนักอยางละ 3 บาท  หัวไพล 1
ใบยาจีน 1 หนักอย่างละ 5 บาท ตำน้ำยัน  แล้วเอาพระเครื่องนี้แช่ประมาณ  15  นาที  จึงกิน  หากใช้แก้โรคหอบไอ  ให่เอาพระแช่น้ำมะนาวกิน  หากจำเป็นรีบด่วน
หาอะไรไม่ทัน  จะใช้น้ำธรรมดาก็ได้  ถ้าใช้แก้พิษสัตว์กัดต่อย  เอาพระแช่น้ำมะนาวกับน้ำเสลดพังพอน  กินและทา  ถูกผีไข้  ให้เอาใบหนาด 1 ลำผีพ่าย 1 ผัก
เสี้ยนผี 1 ตำน้ำยันหรือต้มก็ได้  ก่อนกินให้เอาพระแช่ลงเสียก่อนจึงจะกิน  หากถูกยาพิษให้เอาหัวไพล 1 รากขี้กา 1 หัวกะทือ 1 บัวบก 1 กระดูกห่าน 1 บรเพ็ด 1
หญ้าตีนกา 1 ตำเป็นน้ำยัน  ก่อนกินแช่พระเสียก่อน"

     พระเครื่องรุ่นนี้   ได้เริ่มทำมาตั้งแต่ปี  2505  เริ่มโดยการจัดหาว่านที่มีพลานุภาพด้านอยู่ยงคงกระพัน  แคล้วคลาด โชคลาภ  ให้ได้จำนวน  120  ชนิด
โดยจัดหาที่ภูเขาอำเภอทรายขาว  จังหวัดปัตตานี และภูเขาตำบลตาชี  อำเภอยะหา จังหวัดยะลา  หลังจากนั้นยังใช้เกษรดอกไม้ต่าง ๆ อีก 120  ชนิด  ใช้เครื่อง
ยาสมุนไพร  120  ชนิด  ผงวิเศษต่าง ๆ อีก 108   ซึ่งต้องใช้เวลาในการหาวัสดุและจัดพิมพ์องค์พระนานถึง  3  ปี จึงได้จัดพิธีพุทธาภืเษกเมื่อปี 2507

   มีเรื่องเล่ากันว่า  ก่อนที่จะสร้างพระรุ่นนี้ทางวัดได้อัญเชิญดวงวิญญาณของหลวงพ่อทวดนวลให้มาเข้าทรง (หลวงพ่อทวดนวล
เป็นอดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 3  ที่มรณภาพไปนานแล้ว  แต่ยังเป็นที่เคารพนับถืออย่างมาก)  และขออนุญาตนำรูปของท่านมาสร้าง
เป็นพระเครื่องเพื่อให้สาธุชนได้นำไปบูชา  ปรากฏว่าหลวงพ่อทวดนวลได้อนุญาตให้จัดสร้าง  แต่กำหนดให้สร้างสูงสุดแค่
84,000  องค์  และห้ามไม่ให้มีการสร้างเพิ่มเติมในครั้งที่ 2 หรือที่ 3  อีกเป็นเด็ดขาด  คือให้สร้างเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

   คณะกรรมการได้พิจารณาเห็นว่า  จำนวนพระที่สร้างจำนวน  84,000  องค์  น่าจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ที่
เคารพนับถือในตัวท่าน  เมื่อท่านไม่อนุญาตให้สร้างรุ่นต่อไป  ก็ขอสร้างเพียงครั้งเดียวจำนวน  84,000 องค์ คูณ 2
ซึ่งถือว่าไม่ผิดต่อคำอนุญาตของท่าน  จำนวนพระที่จัดทำในครั้งนั้นจึงมีจำนวนเป็นแสนองค์  แม้ทางวัดจะเปิดให้เช่าบูชา
มาเป็นเวลานับสิบ ๆ ปี  พระรุ่นนี้ก็ยังไม่หมดไปจากวัด  และสุดท้ายกลายเป็นพระที่ไม่มีราคา  และถูกลืมไปอย่างน่า
เสียดาย (เพราะคนเขามักจะเล่นหากันเฉพาะพระที่มีราคาแพง ๆ )

   สำหรับพระเกจิอาจารย์ที่นิมนต์มาปลุกเสกพระรุ่นนี้  ก็เป็นพระเกจิอาจารย์ดัง ๆ ในภาคใต้ทุกจังหวัด  จำนวนรวมถึง
120  รูป  จึงนับได้ว่าพระเครื่องรุ่นนี้มีความดีหลากหลาย  ทั้งมวลสารดี และพิธีกรรมดี  หาได้ยากยิ่งจริง ๆ

    พระรุ่นนี้สร้างขึ้น 5  แบบพิมพ์  คือพิมพ์ซุ้มเรือนแก้ว (พิมพ์นี้มีราคาหน่อย) พิมพ์ขาโต๊ะ  พิมพ์ใหญ่  พิมพ์กลาง
และพิมพ์เล็ก  องค์ที่นำลงให้ชม  เป็นพิมพ์กลาง

    แถมท้ายนิดหนึ่ง....ผู้เขียนได้เช่าพระรุ่นนี้ไปหลายองค์  ในราคาองค์ละ  10  บาท (เพิ่งปรับราคาเป็นองค์ละ
100  บาท เมื่อปี 2520  กว่า ๆ)  โดยนำไปตั้งไว้บนหิ้งพระ  ปรากฏว่าอยู่ ๆ พระเหล่านี้หายเกลี้ยง รวมกับพระ
อื่น ๆ อีกหลายองค์ อาทิ หลวงพ่อแช่มเนื้อว่านพิมพ์จัมโบ้ ภูเก็ต  สมเด็จ  100  ปี  วัดระฆัง  ก็ฉงนสนเทห์ว่าจะ
หายไปไหน   จะว่ามีใครขโมยก็ไม่เชิง  อยู่ ๆ ไปรื้อพบว่าพระเหล่านั้นโดยหนูคาบไปทำรังหมดสิ้น  แถมไม่คาบ
เปล่าเอาไปกัดแทะกินกันจนแหว่งวิ่น  หาชิ้นดีไม่ได้  แสดงว่าพระหลวงพ่อทวดนวลรุ่นนี้น่าจะมีกลิ่นที่หนูชอบ
หลวงพ่่อแช่มเนื้อว่านก็เหมือนกัน  เหลือแต่เศษซาก  ส่วนพระสมเด็จก็เหลือแต่รอยฟันกัดเทาะแหว่งวิ่นหาประโยชน์
อันใดไม่ได้เช่นกัน  (ช่วงนั้นสมเด็จ 100 ปี  ยังไม่ค่อยมีราคา  เลยเฉย ๆ) ก็ฝากไว้  ใครมีพระรุ่นนี้เก็บไว้ให้ดี
ไม่งั้นอาจจะโดนหนูคาบเอาไปกินก็ได้...ขอบอก

                              (https://upic.me/i/ts/20140310_110508_resize.jpg) (https://upic.me/show/50033157)

                   หลวงพ่อทวดหนอน  เขามะรวด  อำเภอปานาเระ  จังหวัดปัตตานี

                                      (https://upic.me/i/av/20140311_083415_resize.jpg) (https://upic.me/show/50043116)

                           สถูปหลวงพ่อทวดหนอน  บนเขามะรวด  อ.ปะนาเระ  จ.ปัตตานี
                  สังเกตด้านล่างของภาพถ่าย  จะมีก้อนหินโผล่สัมผัสกับแสงเงา  ดูคล้ายรูปหลวงพ่อ


บางครั้ง......บางสิ่งบางอย่างก็อยู่เหนือคำอธิบาย

   เมื่อวานหลังจากลงภาพถ่ายหลวงพ่อทวดหนอนเนื้อว่าน  สร้างปี 2505  ซึ่งอยู่ในกรอบพลาสติค  แต่ก็ถ่ายออกมาชัดเจน  สวยสมใจแล้ว   ก็มานั่งนึกได้ว่าเมื่อประมาณ
20  ปีกว่า ๆ  มาแล้ว  ได้เก็บภาพถ่ายสถูปหลวงพ่อทวดหนอน  ซึ่งซื้อมาจากวัดปานาเระ  เห็นว่าเป็นภาพที่แปลก  บางคนอาจจะยังไม่เคยเห็น  อยากจะนำลงให้ชม  แต่
เนื่องจากภาพดังกล่าวถูกเก็บไว้นานถึง  20  ปี  ไม่สามารถจะจดจำได้ว่าเก็บไว้ตรงไหน  ลองรื้อ ๆ หาดูในบางที่ที่คาดว่าน่าจะเก็บไว้  ก็หาไม่เจอ  ก็ถอดใจแล้วว่าภาพนี้
น่าจะสูญหายไปแล้ว  ภาพเพียงภาพเดียวจะเที่ยวรือค้นหาก็คงจะลำบากยุ่งยากพอดู

   แล้วเรื่องแปลกประหลาดก็เกิดขึ้น  อยู่ ๆ เมื่อคืนนี้มีคนเกิดต้องการดูเอกสารบางอย่างขึ้นกะทันหัน  ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องดู  จึงไปรื้อหาเอกสารดังกล่าว
แล้วสิ่งที่เหลือเชื่อก็เกิดขึ้นเมื่อพบว่า  ภาพถ่ายสถูปหลวงพ่อทวดหนอนภาพที่ต้องการ  วางหราอยู่กับเอกสารที่ต้องการจะไปเอามาดูนั้นเอง

   ผู้เขียนเองก็ตกตะลึงและมึนงงไปชั่วครู่  มันเป็นไปได้ยังไง  เหมือนหลวงพ่อจะรับรู้  และชี้บอกตำแหน่งที่เก็บไว้ของรูปใบนี้ให้นำมาเผยแพร่  นี่จะเรียกว่าเป็นอภินิหาร หรือ
เป็นความบังเอิญ  ก็แล้วแต่ความเชื่อและวิจารณญานของแต่ละคน

   และผู้เขียนก็สามารถนำภาพดังกล่าวมานำเสนอได้  ดูแล้วเชื่อหรือไม่ว่า  เพราะอภินิหารของหลวงพ่อทวดหนอน  ทำให้แสงและเงารวมกันเป็นรูปของหลวงพ่อ  พอ ๆ กับ
ที่หลวงพ่อดลใจให้ขึ้นไปค้นหาเอกสารจนพบภาพดังกล่าวนี้

   พอ ๆ กับเมื่อวานที่พิมพ์เรื่องราวของหลวงพ่อทวดนวล  วัดตุยง  ปรากฏว่าได้เสนอเนื้อหาบางตอนที่คลาดเคลื่อนไปจากความเข้าใจ   ปรากฏว่าหลังจากพิมพ์เสร็จและจะ
โพสต์บันทึก  ข้อความดังกล่าวได้หายวับไปหมดสิ้น  ต้องมาค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมและแก้ไขบางอย่างที่ผิดพลาด   จึงจะสามารถโพสต์ได้สำเร็จ  จะเป็นเรื่องบังเอิญอีก
หรือไม่ก็ไม่รู้  แต่ทุกอย่างมันสอดคล้องกันอย่างน่าพิศวงจริง ๆ

    หลวงพ่อทวดหนอน  อาจจะเป็นเพียงพระดี ๆ อีกองค์หนึ่งที่ถูกมองข้าม  เพียงเพราะราคาที่เป็นตัวกำหนดค่านิยมความมีคุณค่าหรือไม่มีคุณค่าขององค์พระเครื่อง
แต่กฤษดานุภาพความศักดิ์ของหลวงพ่อทวดหนอน    หาได้ลดน้อยลงไปตามราคาค่านิยมแต่ประการใด

    ตำนานเล่าขานกันมาว่า  หลวงพ่อทวดหนอนเป็นพระภิกษุที่อยู่ในสมัยอยุธยา  ซึ่งได้ล่องเรือธุดงค์ลงมาอยู่ที่จังหวัดปัตตานี  ขณะที่ล่องอยู่ในเรือนั้น  จะมีฝูงปลา
แหวกว่ายตามเรือมาด้วยจำนวนมาก  หลวงพ่อเกิดความรู้สึกสงสารบรรดาปลาเหล่านั้น  จึงได้เชือดเนื้อของท่านโยนลงไปให้ฝูงปลากิน  เมื่อเดินทางมาถึงเขามะรวด
และมาปักลดอยู่บนเขานั้น  แผลของท่านก็เกิดการเน่าเปื่อยและมีฝูงหนอนเข้ามาเกาะกินชอนไช  แม้ญาติโยมจะขอให้ท่านเขี่ยหนอนทิ้งไป  ท่านก็ไม่ยอม  นี่เป็น
สมญานามที่ใคร ๆ เรียกชื้อท่านว่า "ทวดหนอน"

    ต่อมาเมื่ออาการท่านมากขึ้น  และถึงแก่มรณภาพลง   ญาติโยมก็ฝังร่างของท่านไว้บนเขามะรวด  และสร้างสถูปเจดีย์คลอบไว้ 

    ตลอดเวลาที่ท่านอยู่บนเขามะรวด  จะเป็นที่เคารพนับถือและบนบานศาลกล่าวขอความช่วยเหลือต่าง ๆ  ซึ่งจะประสบผลสำเร็จในทุกสิ่งที่ต้องการ  แม้หลังจากท่าน
มรณภาพไปแล้ว  ความศักดิ์สิทธิ์และความเคารพนับถือก็ยังไม่เสื่อมคลายไปจากจิตใจของคนในพื้นที่  จะมีคนเดินขึ้นเขาไปสักการะท่านทุกปีเป็นประจำ  วัดต่าง ๆ ที่
อยู่รอบ ๆ บริเวณเชิงเขามีงานมีการ  ก็จะต้องบนบานรำลึกขอบารมีจากท่านก่อนเสมอ

    มีคนบอกว่าวันดีคืนดี  ก็จะเห็นดวงไฟสว่างจ้าบนยอดเขา  บางครั้งก็เป็นดวงไฟลอยวนรอบภูเขา   เป็นอย่างนี้อยู่เป็นประจำ 

    หลวงพ่อทวดหนอน  เนื้อว่านปี  2505  นี้จัดสร้างโดยเจ้าอาวาสวัดตอนตะวันออก  อ.ปานาเระ  สร้างขึ้นหลายแบบพิมพ์  ทั้งแบบเหรียญ และแบบพระกริ่ง 
แม้ต่อมาวัดต่าง ๆ จะนำไปสร้างกันอีกหลายครั้ง  แต่รุ่นที่สร้างปี  2505  ก็นับได้ว่าเป็นรุ่นที่จัดสร้างขึ้นอย่างดี  และพิถีพิถัน ในการจัดหาว่าน  การพุทธาภิเษก
จากเกจิอาจารย์ดัง ๆ ในยุคนั้่น  เป็นอีกรุ่นหนึ่งสำหรับคนชอบพระเนื้อว่านที่ศักดิ์สิทธิ์ มองข้ามไปไม่ได้ทีเดียว

                                                 (https://upic.me/i/sm/20140311_103833_resize.jpg) (https://upic.me/show/50044620)

                                                 (https://upic.me/i/hz/20140311_103855_resize.jpg) (https://upic.me/show/50044623)


                    พระองค์นี้เก่าแก่ถึงยุค  น่าจะสร้างประมาณปี 2500-2505  คลาบไคลว่าน  เนื้อหามวลสารส่วนผสมดีมากทีเดียว
                          แต่ยังไม่สามารถสืบหาที่มาได้  ลงไว้เผื่อใครผ่านมาและรู้จักเป็นอย่างดี  ช่วยกระซิบด้วยละกัน

                                          (https://upic.me/i/5g/20140311_121925_resize.jpg) (https://upic.me/show/50045749)

                            พระธรรมขันธ์  วัดปิยาราม  อ.ยะหริ่ง  จ.ปีตตานี  พระดีที่ไม่ควรมองข้าม




    ต้องขอยอมรับว่า  จนถึงวันนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับพระเครื่องของวัดนี้น้อยมาก

    แต่เมื่อปี พ.ศ. 2508-2509  นั้น  นักเลงพระในท้องถิ่นทุกคนสมัยนั้นคลั่งไคล้พระพิมพ์นี้มาก  ด้วยข่าวที่เล่าขานกันต่อ ๆ มาว่า  เป็นพระที่มีพุทธคุณสูงมาก
ใครไม่มีพระองค์นี้คงไม่ใช่นักเลงพระอย่างแท้จริง  ทุกคนต่างแสวงหามาครอบครอง  จึงพูดได้ว่าในยุคนั้น  ไม่ว่าจะเป็นในคอของใคร  จะต้องมีพระพิมพ์นี้ติดตัว
อยู่ด้วยทุกคนไป  นี่คือความเด่นดังของพระพิมพ์นี้ในยุคนั้น

     ผู้สร้างพระรุ่นนี้คือพระครูเกษมโสภณ  เจ้าอาวาสวัดปิยาราม  สร้างขึ้นเมื่อปี  2508   สร้างขึ้นหลายแบบ  และหลายพิมพ์  พิมพ์ที่นำมาลงนี้เป็นพิมพ์ใหญ่
ตามข่าวว่าสร้างจากผงขี้เถ้าใบลานพระไตรปิฎกโบราณ  จึงได้ชื่อว่าพระธรรมขัณธ์  จำนวนสร้างเท่าไหร่ไม่มีข้อมูล   แต่บอกกล่าวกันว่าพระส่วนใหญ่สร้างแล้วจะนำ
เข้าบรรจุกรุทั้งหมด  และจะมีบางส่วนใหเช่าบูชาเพื่อหาทุนสมทบสร้างพระอุโบสถของวัดให้สำเร็จต่อไป

     เนื้อหาพระชุดนี้ จะออกสีขาว  และสีดำ  แก่ว่าน   สนนราคาปัจจุบันก็คงจะ 1-2  พันบาท

     ก็เป็นพระดีอีกวัดหนึ่งที่จะแนะนำไว้  เผื่อไปพบเจอที่ไหนจะได้ไม่หลุดมือไป

                               (https://upic.me/i/7t/20140312_102722_resize.jpg) (https://upic.me/show/50060619)

                    พระธรรมขันธ์วัดปิยาราม  เนื้อว่านผสมผงขี้เถ้าคัมภีร์โบราณ   พิมพ์เล็ก

                                            (https://upic.me/i/4e/20140310_111838_resize.jpg) (https://upic.me/show/50046177)
                                            (https://upic.me/i/c0/20140310_111849_resize.jpg) (https://upic.me/show/50046178)


                พระหลวงปู่ทวดวัดช้างให้  จังหวัดปัตตานี  พิมพ์ก้ามปู  สร้างปี  2505  สมัยอาจารย์ทิม


        พระองค์นี้ดูเนื้อหาก็เก่าดี  น่าจะถึงยุค ปี 2505  จริง ๆ  แต่บอกตรง ๆ ว่า ตอนแรก ๆ ไม่เคยพบเจอพระองค์นี้เลย  เพิ่งมาเห็นตอนหลัง ๆ เข้าใจว่าช่วงก่อน ๆ
ไม่มีใครสนใจเท่าที่ควร  (และบังเอิญก็มีพระองค์นี้ด้วย 1 องค์  มาจากไหนก็ไม่รู้)

        มีที่แปลกใจอยู่นิดหนึ่ง  ปกติชื่อของพระ  ทางภาคใต้นิยมใช้ชื่อว่า "หลวงพ่อ"  พระที่ออกจากวัดช้างให้ ก็ใช้ชื่อว่า "หลวงพ่อทวด" มาจนถึงปัจจุบันนี้  แต่พระ
องค์นี้ใช้ชื่อว่า "หลวงปู่ทวด"  เป็นชื่อแปลกจากพิมพ์อื่น ๆ ในปี 2505  และคำว่าหลวงปู่นี่  ทางภาคใต้จะไม่นิมใช้เรียกกัน  อาจจะเพิ่งมีช่วงหลัง ๆ นี้ที่มีคนเริ่มใช้
ก็เลยแปลก ๆ ว่า พระองค์นี้มีที่มาอย่างไรกันแน่  ก็ฝากไว้เผื่อใครมีความรู้เรื่องนี้ดี ช่วยบอกบ้างก็แล้วกัน

                           (https://upic.me/i/b9/20140312_102945_resize.jpg) (https://upic.me/show/50060669)

                           (https://upic.me/i/or/20140312_102755_resize.jpg) (https://upic.me/show/50060703)


              เหรียญวัดคูหาภิมุข  (วัดหน้าถ้ำ)  อ.เมือง จังหวัดยะลา  พระเหรียญดี ๆ ของอีกสำนักหนึ่งที่มักจะถูกลืม

                                             (https://upic.me/i/lp/20140312_102809_resize.jpg) (https://upic.me/show/50060755)

                                             (https://upic.me/i/m6/20140312_102826_resize.jpg) (https://upic.me/show/50060763)

                       เหรียญพระนอนวัดถ้ำยะลา  สร้างรุ่นแรกมาตั้งแต่ปี  2472   นับเป็นเหรียญที่สร้างแรกสุด ๆ ในสามจังหวัดภาคใต้  
และยังได้จัดสร้างเหรียญพระครูพรหมทอง  ขึ้นในปี 2478  นับเป็นการสร้างเหรียญที่เก่าแก่ที่สุดของจังหวัดยะลา

                   เหรีญรุ่นปี  2472 ที่นำลงให้ชมนี้  เป็นเหรียญเลียนแบบ  ไม่ใช่เหรียญจริง  ลงไว้เป็นกรณีศึกษาเท่านั้น

  วัดคูหาภิมุข (วัดหน้าถ้ำ) ตั้งอยู่ที่ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง  จังหวัดยะลา  หรือที่ชาวบ้านมักจะรู้จักกันในชื่อว่า "วัดถ้ำ"  เป็นวัดที่สร้างมาเก่าแก่นับร้อยปี  ในวัดมีถ้ำ
สำคัญ ๆ หลายถ้ำ   ถ้ำที่อยู่ด้านหน้าุบนเขาสูง  เป็นถ้าที่มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ (พระบรรทม)  องค์ใหญ่มาก  และมีพระพุทธรูปปางอื่น ๆ รายเรียงอยู่โดยรอบอีกเป็น
จำนวนหลายองค์  ล้วนมีขนาดใหญ่ทั้งนั้น  บริเวณถ้ำก็มีหินงอก หินย้อย  ที่สวยงาม  เป็นอาศัยของฝูงค้างคาวจำนวนมาก

   ตามประวัติเล่าขานกันมาว่า   พระนอนองค์นี้สร้างไว้ตั้งแต่สมัยศรีวิชัย  โดยชาวลังกาล่องเรือนำวัสดุอุปกรณ์ที่จะลงไปช่วยสร้างพระบมธาตุที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
เมื่อมาถึงบริเวณนี้ก็ทราบข่าวว่าพระบรมธาตุสร้างเสร็จแล้ว  จึงจอดเรือพักอยู่บริเวณถ้ำแห่งนี้  แล้วได้จัดสร้างพระพุทธไสยาสน์องค์นี้ขึ้น  เดิมสร้างด้วยดินเหนียวดิบ
พอกไว้กับโครงไม้ไผ่สาน   ข้างในสามารถเดินได้  พุทธลักษณะเป็นแบบพระโพธิสัตว์นารายณ์บรรทมสินธุ์  เชื่อว่าสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 1200-1800 ปี   ต่อมาใน
สมัยพระครูพรหมทอง  เจ้าอาวาสวัดคูหาภิมุข  รูปที่ 4  อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2345-2470  ได้ทำการบูรณะวัดให้เจริญขึ้นในทุก ๆ ส่วน  รวมทั้งพิจารณาเห็นว่าพระนอน
ที่สร้างไว้เดิม  โดนน้ำที่ไหลย้อยจากผนังถ้าลงบนองค์พระ  ทำให้ดินเหนียวที่พอกไว้ละลาย  จึงได้เสริมสร้างใหม่โดยโครงเหล็ก  และพอกปูนซิเมนต์เป็นองค์พระ
ที่สมบูรณื มั่นคงแข็งแรง  และสวยงาม  ครอบพระองค์เดิมไว้ภายใน

   นอกจากนั้นในวัดถ้ำยังมีถ้ำที่สำคัญ  เช่น ถ้ามืด  ซึ่งอยู่ใต้ภูเขา  มีระยะทางหลายสิบเมตร  มีหินงอก หินย้อย มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ (ใช้นำไปประกอบในพิธีสำคัญ ๆ)
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมาก  ทางวัดได้จัดบริการไฟฟ้าให้ผู้ที่เข้าชมด้วย  และถัดไปยังมีถ้ำศิลป์  เป็นภาพเขียนสีของคนโบราณไว้ตามผนังถ้ำด้วย

   ในเรื่องของวัตถมงคล  วัดถ้ำก็มีวัตถุมงคลออกมามากมายหลายรุ่น  ที่มีความเชื่อถือและศรัทธาจากคนในท้องถิ่นจำนวนมาก  มีประสบการณ์ที่หลากหลายแทบ
ไม่น่าเชื่อ  โดยเฉพาะแหวนที่สร้างในรุ่นแรก ๆ ก็เป็นที่เสาะหาอยู่  เพราะมีอภินิหารเป็นที่ปรากฏมาแล้ว

   ก็น่าเสียดายที่ผู้เขียนเองก็ได้เก็บพระวัดถ้ำไว้มากมายหลายรุ่น  แต่ก็ได้แจกจ่ายให้กับญาติพี่น้องไปจนหมดสิ้น   จึงนำลงให้ดูเพียงน้อยนิด  ยังไงถ้ายังพอหาเจอ
ที่อาจจะหลงเหลืออยู่  จะนำลงให้ชมในคราวต่อไป

   ย้ำกันอีกครั้งว่า  พระวัดถ้ำยะลา  ทุกรุ่นทุกพิมพ์ ล้วนเป็นพระดี ๆ ที่มักจะถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย   ใครมีโอกาสก็เก็บหากันไว้ก็แล้วกัน


                           (https://upic.me/i/78/20140312_142826_resize.jpg) (https://upic.me/show/50064147)

                                      แหวนพระนอนวัดหน้าถ้ำ  จังหวัดยะลา   ประมาณปี  2508

                                                   (https://upic.me/i/kg/20140312_143251_resize.jpg) (https://upic.me/show/50064155)

                                      หลวงพ่อทวดพรหมทอง    เนื้อว่าน  สร้างปี  2522  วัดหน้าถ้ำ  จังหวัดยะลา

                                 (https://upic.me/i/mz/20140312_133146_resize.jpg) (https://upic.me/show/50063325)


        พระพิมพ์รูปเหมือนอาจารย์ทิม  วัดช้างให้  จังหวัดยะลา   เนื้อว่าน  สร้าง(ประมาณ) ปี 2542  เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ถูกลืม 
จำได้ว่าพระรุ่นนี้ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกอย่างดีในอุโบสถวัดช้างให้  เคยออกให้เช่าบูชา   และพระบางส่วนท่านอาจารย์นองก็ยังนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่ไป
เยี่ยมเยียนท่าน   ผู้เขียนยังได้รับมากับมือท่านอาจารย์นอง  วัดทรายขาว  แต่รู้สึกว่าพระรุ่นนี้เงียบมาก  ไม่ปรากฏการนำเสนอในที่ใดเลย  จึงขอนำลงไว้
เผื่อใครไปพบปะเข้า  จะได้รู้ที่มาว่ามาจากไหน

                                                           (https://upic.me/i/pv/20140312_124523_resize.jpg) (https://upic.me/show/50074665)
                                                           (https://upic.me/i/q1/20140312_124504_resize.jpg) (https://upic.me/show/50074667)


                        เหรียญพระอาจารย์ผอมวัดหญ้าปล้อง  หลังอาจารย์นุ่ม  อ.ท่าศาลา  นครศรีธรรมราช  ปี  2520

     พระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่ง  ซึ่งมีจริยวัตรอันงดงาม   ยากที่จะหาพระภิกษุใดมาเทียบได้ยาก  พระอาจารย์ผอม  แห่งวัดหญ้าปล้อง  (ปัจจุบันพำนักที่วัดท่าไทร  อ.ท่าศาลา นครศรีธรรมราช)
เมื่อปี  2528  ผู้เขียนเคยเดินทางไปกราบขอพรจากหลวงพ่อผอมที่วัดหญ้าปล้อง  ซึ่งท่านได้ต้อนรับขับสู้และโอภาปราศรัยเป็นอย่างดีมาก   เป็นที่ประทับใจมาจนถึงบัดนี้  และหลังจากออกมา
พูดคุยกับลูกศิษย์ผู้ติดตามหลวงพ่อผอมมานานปี  ก็ยิ่งประทับใจมากขึ้น  เมื่อทราบว่าหลวงพ่อผอมเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างหาตัวจับยาก  หลวงพ่อผอมอยู่วัดตั้งแต่อายุ 7 ขวบ
และบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปี  และอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ  20  ปี  และไม่เคยสึกอีกเลยตั้งแต่บัดนั้น  ปัจจุบันอายุ 80 กว่าปีแล้ว

    หลวงพ่อผอมเป็นพระที่ไม่ยึดติดในลาภยศชื่อเสียงใด ๆ ทั้งสิ้น  ไม่สะสมวัตถุ  สิ่งของเครื่องใช้ก็มีแต่บาตร  กลด  และของใช้อื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับภิกษุสงฆ์เท่านั้น    ท่านไม่สวม
รองเท้า  ไปไหนจะเดินเท้าเปล่าตลอด  ไม่รับและไม่จับเงินทองโดยเด็ดขาด   ไม่มีเงินติดตัว  จะไปไหนท่านก็จะเดินไป  มีรถโดยสารท่านก็ไม่ขึ้น  นอกจากว่าจะมีใครนิมนต์ท่านขึ้นไป   ท่าน
ก็จะบอกว่าท่านไม่มีเงิน  จะรับท่านไปท่านก็ไป  นอกจากนั้นที่พำนักประจำของท่าน  ก็จะอยู่บริเวณป่าช้า  ที่ศาลาตั้งศพ  มากกว่าที่จะพำนักตามกุฎิแบบพระภิกษุอื่น ๆ

    จึงนับได้ว่าหลวงพ่อผอมเป็นพระภิกษุที่ควรค่าแก่การกราบไหว้จริง ๆ  เป็นพระแท้ ๆ  ที่ปัจจุบันชักจะหาได้ยากขึ้นทุกที

    เหรียญของท่านจะสร้างขึ้นมากี่รุ่นผู้เขียนไม่แน่ใจ   แต่เหรียญรุ่นปี 2520  นี่เป็นเหรียญรุ่นหลัง ๆ  ทราบว่ามีเหรียญรุ่นแรก และมีพระพิมพ์พระสมเด็จหลวงพ่อผอมอีกด้วย
พระและเหรียญของหลวงพ่อผอม  ที่เกิดจากจิตที่บริสุทธิ์จริง ๆ  จึงเป็นเหรียญที่มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน  ใครที่ยังไม่มีหรือไปพบเจอที่ไหน   อย่าลืมเก็หาไว้เป็น
สิริมงคลแก่ตัวเองก็แล้วกัน    พระดี ๆ แบบนี้หายากแล้วนะ  ขอบอก

 

                                                                 (https://upic.me/i/kh/20140312_112137_resize.jpg) (https://upic.me/show/50075100)
                                                                 (https://upic.me/i/rc/20140312_112206_resize.jpg) (https://upic.me/show/50075102)

                                     หลวงพ่อทวดวัดตานีสโมสร  เนื้อว่าน   สร้างปี  2505   หน้า/หลัง  พิมพ์เล็ก  สวย น่าใช้

                                                              (https://upic.me/i/hp/20140312_124058_resize.jpg) (https://upic.me/show/50075151)
                                                              (https://upic.me/i/cu/20140312_124118_resize.jpg) (https://upic.me/show/50075153)


                      หลวงพ่อเพิ่ม  วัดพังยอม (วัดหนองหม้อ)  อ.เชียรใหญ่  จ.นครศรีธรรมราช   พระดีที่ถูกมองข้าม

                      
                                            (https://upic.me/i/2k/20140313_140302_resize.jpg) (https://upic.me/show/50079777)

              รูปหล่อลอยองค์หลวงพ่อเพิ่ม  พื้นผิวขรุขระ  ไม่ค่อยสวยงาม   เพราะหล่อกันเองภายในวัด


     เอ่ยชื่อหลวงพ่อเพิ่ม วัดหนองหม้อ  หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "พ่อท่านเพิ่ม" (คำว่าพ่อท่านเป็นคำที่คนภาคใต้ใช้เรียกพระภิกษุที่เป็นที่เคารพนับถือทุกรูป  เหมือนกับที่คนภาคกลาง
เรียกว่าหลวงพ่อ) สำหรับคนในชุมชนบ้านหนองหม้อ  อำเภอเชียรใหญ่  จังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว  ทุกคนจะยกมือสาธุท่วมหัวด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาอย่างแรงกล้า  พ่อท่าน
เพิ่มเปรียบเหมือนเทพเจ้า   ผู้ให้ทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับคนในตำบลหนองหม้อและใกล้เคียง  ไม่ว่าจะมีเรื่องทุกข์ร้อนอะไร  ทุกคนจะนึกถึงแต่พ่อท่านเพิ่ม  บนบานศาลกล่าว  ขอ
บารมีที่ศักดิ์สิทธิ์ของพ่อท่าน  มาช่วยเหลือปัดเก่าความทุกข์ร้อนนั้นเหือดหายไปโดยทันที  พ่อท่านเพิ่มจึงสถิตย์อยู่ในจิตใจของคนในพื้นที่ตั้งแต่เด็กพอเริ่มจำความได้  จนถึงคน
เฒ่าคนแก่ครบถ้วนทุกครัวเรือน

     วัดพังยอมหรือวัดหนองหม้อ  จึงเป็นศูนย์รวมรวมของชุมชน  ดวงใจทุกดวงจะมุ่งไปที่วัดแห่งนี้  หน้าวัดหนองหม้อจึงกลายเป็นแหล่งชุมชน  มีตลาดนัด ที่หยุดรถประทาง ตลอด
จนเป็นที่นัดหมายต่าง ๆ  ไปโดยปริยาย  สภาพภายในวัด  ก็เป็นวัดในชนบทอย่างแท้จริง  ต้นไม้ที่ปลูกส่วนมากจะเป็นต้นมะพร้าว  มีสิ่งปลูกสร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญที่พอ
ใช้สำหรับการประกอบพิธีกรรมของสงฆ์

     พ่อท่านเพิม  เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองหม้อ  แต่ก็ต้องขอภัยอย่างยิ่งที่ไม่มีรายละเอียดในมือที่จะใช้เขียนรายละเอียดต่าง ๆ ให้ทราบ  คงมีแต่ความทรงจำที่ครั้งหนึ่งเคยไปกราบ
พ่อท่านและขอให้พ่อท่านช่วยดูดวงชะตาให้  เพราะพ่อท่านเพิ่มได้รับการยอมรับว่าเป็นพระที่ทำนายดวงชะตาได้แม่นยำที่สุด  และก็ปรากฏว่าคำทำนายของท่านในครั้งนั้น  ได้
เกิดขึ้นจริง ๆ เหมือนที่ท่านทำนายไว้  

    น่าเสียดายที่ประวัติการสร้างวัตถุมงคลไม่ค่อยแน่ชัด  เพราะไม่มีการจดบันทึกไว้  ประกอบกับวัตถุมงคลของท่านไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก  แต่พอจับความได้น่าจะสร้างประมาณ
3-4 ครั้ง  ในครั้งแรก ๆ สร้างประมาณ พ.ศ. 2505  เหรียญที่นำลงให้ชมนี้ สร้าง พ.ศ. 2528  และมีรูปหล่อลอยองค์ที่ทำกันขึ้นเองภายในวัดหนองหม้อ  จะเป็นปีใดยังไม่แน่ชัด

    สิ่งที่น่าแปลกก็คือ  ไม่ว่าเหรียญหรือรูปหล่อของท่านจะสร้างออกมาเท่าไร  ชาวบ้านในท้องถิ่นจะเก็บเอาไว้บูชาจนหมดสิ้น  ไม่ยอมเปลี่ยนมือให้ใครเป็นอันขาด  วัตถุมงคล
ของท่านจึงไม่แพร่หลายไปเท่าที่ควรด้วยเหตุนี้  จนสุดท้ายมีข่าวว่ามีการสร้างพระรุ่นลอยองค์ปลอมขึ้นมา  ทั้ง ๆ ที่พระของพ่อท่านเพิ่มทุกพิมพ์  มีราคาค่างวดที่ต่ำมาก  อาจจะ
อยู่แค่หลักสิบ  หรือหลักร้อยตำ ๆ เท่านั้น  แต่ราคาไม่ใช่เป็นปัจจัยสำคัญของความเคารพนับถือ  เชื่อมั่น และศรัทธา

    แม้ปัจจุบัน  พ่อท่านเพิ่มได้ละสังขารไปแล้วตามวัฎฎจักรของโลก  แต่ไม่ว่าใครที่เดินผ่านหน้าวัดหนองหม้อ   จะต้องยกมือไหว้ท่วมหัวขอบารมีท่านปกป้องคุ้มครอง  เหมือน
สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ไม่ผิดเพี้ยน

                                              (https://upic.me/i/ks/20140313_162613_resize.jpg) (https://upic.me/show/50081476)

                      หลวงพ่อยายเขียด  วัดนิคมสถิต (วัดทุ่งยางแดง) อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี  สร้างปี  2505  สุดยอดพระนิรันตรายติดอันดับต้น ๆ ของภาคใต้

    หลวงพ่อยายเขียด  วัดทุ่งยางแดง  อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี้

    ฟังดูชื่อแล้วจะรู้สึกแปลก ๆ   สำหรับหลวงพ่อยายเชียด  จนบางคนหลงเรียกว่าหลวงพ่อวัดยายเขียดก็มี  ตามตำนานดั้งเดิมกล่าวว่า  นานถอยหลังไปนับเกือบ
200  ปี  ยายเขียดซึ่งเป็นชาวบ้าน  ได้ออกหาปลาในท้องนา  และบังเอิญไปพบพระองค์นี้เข้า  จึงนำกลับมาบ้านแล้วไปถวายไว้ที่วัดข้างบ้าน  พระองค์นี้ก็ย้ายวัด
มาครั้งสองครั้ง  จนสุดท้ายมาตกอยู่ที่วัดทุ่งยางแดงแห่งนี้  เมื่อประมาณร้อยกว่าปีมาแล้ว

    พระองค์นี้เป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์เล่าลือมายาวนาน  โดยเฉพาะการกล่าวคำสาบานสำหรับคนที่พูดจาโกหก  ถ้าไม่เป็นไปตามคำสาบานจะเห็นผลในทุกราย ชาว
บ้านจึงเคารพศรัทธาพระองค์นี้มาก

    ประมาณปี  2530-2531  ผู้เขียนได้ทราบข่าวว่ามีการค้นพบพระพิมพ์หลวงพ่อยายเขียด  ซึ่งจัดสร้างขึ้นตั้งแต่ปี  พ.ศ. 2505  จำนวนมาก  และทางวัดก็ให้
เช่าบูชาด้วย  จึงรีบไปที่วัด  ปรากฏว่าพระดังกล่าวอยู่ที่กุฏิเจ้าอาวาส  ยังไม่ได้มีการให้เช่าบูชาอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด  มีพระมากมายหลายพิมพ์  ทั้งพิมพ์
เล็กและพิมพ์ใหญ่  และก็ทราบเพิ่มเติมถึงปีที่จัดสร้าง พิธีพุทธาภิเษก  รวมทั้งภาพอาจารย์ทิม  วัดช้างให้  ทำพิธีปลุกเสกพระรุ่นนี้ด้วย
ก็เกิดความเชื่อมั่นว่าพระรุ่นนี้จะต้องมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน
   ทางวัดได้เล่าเพิ่มเติมว่า  ในการจัดสร้างครั้งนั้นทางหวัดสุราษฎร์ธานี  ได้เข้ามาร่วมจัดสร้างพระเครื่องหลวงพ่อพัฒน์  พระเกจิดังของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ร่วมด้วย  และจากการรื้อค้นพระก็พบพระเครื่องหลวงพ่อพัฒน์ตกค้างอยู่อีก  1  ลังด้วย  ดังนั้น  ถ้าเราพิจารณาพระเครื่องหลวงพ่อยายเขียดบางองค์  จะพบว่า
ด้านหลังองค์พระจะประทับยันต์ประจำตัวของหลวงพ่อพัฒน์  จังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วย  บางองค์จะโล่ง ๆ ไม่มีตราประทับแต่อย่างใด  

    ตรงนี้เป็นความจำเป็นที่ต้องรู้ไว้  เผื่อบางคนจะได้เข้าใจว่าทำไมพระเครื่องหลวงพ่อยายเขียด  จึงมีตราประทับของหลวงพ่อพัฒน์ด้วย

    จากความเชื่อมั่นศรัทธาว่าพระเครื่องดังกล่าวนี้  ประกอบพิธีโดยหลวงพ่อทิม  เจ้าอาวาสวัดช้างให้  ผู้สร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวดอันโด่งดัง  
เข้าใจว่าหลวงพ่อยายเขียดจะถูกเช่าบูชาจนหมดจากวัดไปอย่างรวดเร็ว ทางวัดได้จัดสร้างพระเครื่องรุ่นใหม่ขึ้นเมื่อปี  2536  และปรากฏว่า
พระเครื่องรุ่นนี้ก็โด่งดังเป็นที่เสาะแสวงหา  จนวัดทุ่งยางแดงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป  และสามารถนำเงินจากการเช่าบูชาพระมาพัฒนาวัด
จนเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ทันตาเห็น

    นี่....เป็นเพราะบารมีของหลวงพ่อยายเขียดโดยแท้

    หลวงพ่อยายเขียดครองใจคนในท้องถิ่นได้อย่างเหลือเชื่อ  ข่าวคราวความศักดิ์สิทธิ์ถูกเล่าขานออกไปไม่รู้จักจบสิ้น  โดยเฉพาะในคอของบรรดา
เหล่าทหารกล้าที่ปกป้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว   นอกจากจะต้องมีหลวงพ่อดำ  วัดตุยง แล้ว  หลวงพ่อยายเขียด  ก็เป็นอีกองค์หนึ่งที่จะขาด
เสียมิได้  เพราะทรงไว้ซึ่งความเข้มขลังด้านแคล้วคลาด  คงกระพันธ์  และโชคลาภ  อย่างยากที่จะหาพระเครื่ององค์ใดเทียบเคียงได้

    หลวงพ่อยายเขียดรุ่นปี  2505  สร้างจากเนื้อว่านศักดิ์สิทธิ์หลากหลายชนิด  เหมือนกับสร้างหลวงพ่อทวด วัดช้างให้  และยังมีวัตถุอาถรรพ์ที่
มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองผสมอยู่ด้วยจำนวนมาก  พระรุ่นนี้จึงคงความเข้มขลังอย่างแท้จริง

    ก็แนะนำไว้เผื่อใครยังไม่มีจะได้เสาะหาไว้ป้องกันตัว  ส่วนราคาเช่าหาก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาเช่าหากันเท่าไร  ก็ขอให้ท่านจงโชคดี



                                                   (https://upic.me/i/rr/20140314_092721_resize.jpg) (https://upic.me/show/50092971)
 

                                                   (https://upic.me/i/a9/20140314_092804_resize.jpg) (https://upic.me/show/50092978)


                                   หลวงพ่อพัฒน์   ซึ่งนำมาจัดสร้างพร้อมหลวงพ่อวัดยายเขียด
 

                                                                     (https://upic.me/i/p3/20140314_130409_resize.jpg) (https://upic.me/show/50093689)



                                                                      (https://upic.me/i/80/20140314_130427_resize.jpg) (https://upic.me/show/50093691)


                                                 พระปิดตาพ่อท่านแก่น   วัดทุ่งหล่อ  อ.ร่อนพิบูลย์  จ.นครศรีธรรมราช

                                                    ผู้สร้างตำนานสร้างพระแจกอย่างเดียว  จนลือลั่นในพุทธคุณ

พ่อท่านแก่น  วัดทุ่งหล่อ  อ.ร่อนพิบูลย์  จ.นครศรีธรรมราช

      วันที่ผู้เขียนได้ไปกราบพ่อท่านแก่น  พ่อท่านแก่นกำลังอาพาธด้วยโรคร้ายแรง  และทางญาติพี่น้องของท่านได้นำท่านไปพำนักที่บ้าน  เพื่อความสะดวกในการ
ดูแลรักษา  เพราะที่ว้ดไม่มีคนดูแล  จะเป็นปัญหาสำหรับตัวท่าน

      ผู้เขียนได้ตามไปกราบท่านถึงที่บ้าน  วันนั้นดูพ่อท่านก็แข็งแรงดี  ท่านนั่งรับรองผู้ที่ไปกราบขอพรท่านโดยมองเผิน ๆ แทบมองไม่ออกว่าท่านกำลังอาพาธ
แต่ท่านก็ได้เล่าอาการของท่านให้ฟัง  เล่าถึงการรักษาและการวินิจฉัยของหมอ  ท่านก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร  ท่านบอกว่าการเกิดแก่เจ็บตาย  เป็นธรรมดาของโลก
แต่ก่อนจะตายก็ขอให้สร้างความดีกันไว้ให้มาก ๆ เป็นพอ

      ก่อนลาท่านกลับวันนั้น พ่อท่านแก่นได้มอบพระปิดตา  พร้อมด้วยสายตาดเอว  ตามรูปที่ลงประกอบบทความนี้  พร้อมให้ศีลให้พร

      และจากนั้นเพียงไม่กี่เดือนก็ทราบข่าวถึงการจากไปของท่าน  ด้วยความอาลัยยิ่งในความรู้สึก

     ก็คงเหลือแต่พระปิดตาเนื้อเงินยวงและสายคาดเอวที่ท่านมอบให้ไว้เท่านั้น  ที่ผู้เขียนยังเก็บไว้จนทุกวันนี้   เพราะมองถึงเจตนาดีของท่านที่อุตส่าห์สร้างพระ
ขึ้นแต่ละองค์ด้วยความเหนื่อยยาก  เพียงเพื่อแจกจ่ายให้ลูกศิษย์ลูกหา  และบุคคลทั่วไปได้เข้าถึงธรรม

     โดยนัยยะแล้ว พระปิดตาก็หมายถึงการปิดประสาทสัมผัสส่วนที่จะก่อให้เกิดกิเลส  ความโลภ  ความโกรธ  ความหลง  การมัวเมาในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
ปิดเพื่อหลีกหนีให้พ้นไปจากสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้  ดำรงชีวิตของตนอยู่ในความดี  ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก  ชีวิตก็จะพบกับความเจริญรุ่งเรืองสืบไป

     พ่อท่านแก่นได้สร้างพระปิดตาด้วยตัวท่านเอง  ตั้งแต่การปั้นหุ่นขี้ผึ้งเป็นต้นมา  โดยจัดสร้างเฉพาะในวันดี ๆ วันแข็ง ๆ  ครั้ง 3-4  องค์เท่านั้น  เสร็จแล้ว
ท่านก็จะแจกให้ฟรี ๆ ไม่มีวางจำหน่ายเป็นพุทธพานิชย์  หมดแล้วท่านก็สร้างขึ้นใหม่  ดังนั้น   พระของท่านแต่ละองค์จึงมีขนาดและลักษณะไม่เหมือนกัน

    พระของท่านปรากฏชัดในเรื่องแคล้วคลาด  โชคลาภ  และคงกระพันชาตรี  เขาเล่ากันว่าเป็นพระประเภทเหนียว  เพราะท่านจะปลุกเสกหนักไปทางด้านนี้เป็นหลัก
เพื่อให้ผู้ที่นำพระของท่านไปใช้ป้องกันตัว  จะได้อยู่รอดปลอดภัยอย่างแท้จริง

    บัดนี้ไม่มีพ่อท่านแก่นคอยสร้างพระเพื่อแจกอีกแล้ว  ใครต้องการก็คงจะต้องมองหาดูจากพรรคพวกเผื่อนฝูงละ...ทีนี้

      

      

                                           (https://upic.me/i/34/20140317_103533_resize.jpg) (https://upic.me/show/50135085)


                                                    สายคาดเอวหลวงพ่อท่านแก่น   วัดทุ่งหล่อ   อ.ร่อนพิบูลย์  นครศรีธรรมราช

                                                                         พักสายตา    ชมผ้ายันต์ที่เข้มขลัง  น่าบูชา
                                                             แต่ละผืนมีอายุ   30-40  ปีกว่า ๆ ทั้งนั้น



                                                                  (https://upic.me/i/2p/20140317_103756_resize.jpg) (https://upic.me/show/50135120)


                                                  

                                                        (https://upic.me/i/16/20140317_103846_resize.jpg) (https://upic.me/show/50135216)

                                                                    หลวงพ่อเรือง  วัดหัววัง

                                          (https://upic.me/i/ol/20140317_104030_resize.jpg) (https://upic.me/show/50135281)

                                                        พ่อท่านคลิ้ง  วัดถลุงทอง    นครศรีธรรมราช

                                       (https://upic.me/i/hv/20140317_104303_resize.jpg) (https://upic.me/show/50135343)

                                                หลวงพ่อทวดหมาน  วัดทรายขาว   หลวงพ่อนอง  ปลุกเสก

                                                                    (https://upic.me/i/uv/20140317_104436_resize.jpg) (https://upic.me/show/50135377)

                                                         วัดโคกสมานคุณ  หาดใหญ่  วัดนี้มีหลวงพ่อปานเป็นที่เคารพนับถือ

                                              (https://upic.me/i/l2/20140317_104107_resize.jpg) (https://upic.me/show/50135437)

                                                      หลวงพ่อจำเนียร   วัดถ้ำเสือ     กระบี่

                                                            (https://upic.me/i/tr/20140317_104401_resize.jpg) (https://upic.me/show/50135511)

                                                                    วัดช้างให้ตก  อ.โคกโพธิ์  จังหวัดปัตตานี

                                                 (https://upic.me/i/e8/20140317_103925_resize.jpg) (https://upic.me/show/50135546)

                                                                จำที่มาไม่ได้    เป็นวัดแถวภาคใต้

                                                                        (https://upic.me/i/ke/20140319_093329_resize.jpg) (https://upic.me/show/50169275)
                                                                        (https://upic.me/i/q5/20140319_093345_resize.jpg) (https://upic.me/show/50169280)


             หลวงพ่อทวดวัดช้างให้เหรียญนี้   บางคนอาจจะงงว่าเป็นของที่ไหน   หน้าตาหลวงพ่อไม่ละม้ายคล้ายคลึงกับวัดช้างให้
             แต่บอดพิกัดชัดเจนว่าของวัดช้างให้  ความจริงเหรียญนี้ออกที่วัดเอี่ยมวรนุช  บางขุนพรหม  ปี 05 หรือ 06  นี่แหละ

                                            (https://upic.me/i/kq/20140307_125255_resize.jpg) (https://upic.me/show/50169486)

                      หลวงพ่อทวดองค์นี้ออกที่วัดขวด  จังหวัดสงขลา  ประมาณ 20  ปีมาแล้ว  บางคนอาจจะยังไม่รู้ 

                                                             (https://upic.me/i/dw/20140319_104814_resize.jpg) (https://upic.me/show/50170492)
                                                            (https://upic.me/i/hs/20140319_104921_resize.jpg) (https://upic.me/show/50170511)

                            เหรียญพ่อท่านช่วง  เจ้าคณะจังหวัดตรัง     สร้างเมื่อปี  2484  จำนวนสร้าง  1,500  เหรียญ
                            เพราะสร้างน้อย  เหรียญนี้จึงไม่ค่อยพบเห็น  เป็นเหรียญหูเชื่อมอย่างดี  น่าสะสมอีกเหรียญหนึ่ง


                                            .......ขอบคุณเจ้าของเหรียญที่ให้ยืมถ่ายภาพ.......

                                                               (https://upic.me/i/v8/20140319_105310_resize.jpg) (https://upic.me/show/50170658)
                                                               (https://upic.me/i/dd/20140319_105331_resize.jpg) (https://upic.me/show/50170659)

                 เหรียญหูเชื่อมเก่าอีกเหรียญหนึ่ง  เหรียญพระครูสุวรรณไพบูลย์  วัดตะเคียนทอง  สร้างปี  2501  เหรียญสวย  น่าสะสม



                                                    .....ขอบคุณเจ้าของพระที่ให้ยืมถ่ายรูป......     

                                                                  (https://upic.me/i/76/20140319_113149_resize.jpg) (https://upic.me/show/50171033)
                                                                  (https://upic.me/i/sq/20140319_113206_resize.jpg) (https://upic.me/show/50171036)


                                                              เหรียญพ่อท่านคลิ้ง  วัดถลุงทอง   หลัง ภปร.

พ่อท่านคลิ้ง   วัดถลุงทอง  อ.ร่อนพิบูลย์  จ.นครศรีธรรมราช


   วันที่ผู้เขียนไปกราบพ่อท่านคลิ้งปีนั้น   ดูเหมือนพ่อท่านคลิ้งจะอายุ  100  ปี  พอดี  สุขภาพก็ทรุดโทรมไปตามอายุ
ต้องมีลูกศิษยฺคอยอยู่เคียงข้างตลอดเวลา  จะลุกนั่ง ยืน  หรือเดิน  ก็ต้องประคองไป  แต่ถ้าเทียบกับคนอายุ  100 ปี
คนอื่น ๆ  ที่เคยพบมาหลายคน  นับได้ว่าพ่อท่านคลิ้งยังอยู่ในสภาพที่แข็งแรง   นอกจากนั้นท่านพูดคุยกับญาติโยมได้
เป็นอย่างดีี  และสุดท้ายท่านก็ต้องมาจากเราไปเมื่อายุท่านได้  104  ปี

   พ่อท่านคลิ้งเป็นพระที่คนทางภาคใต้ให้ความเคารพนับถือมาช้านาน  เหรียญของท่านออกมาก่อนหน้านี้หลายรุ่น  ก็
เป็นที่เสาะหาของผู้ที่เคารพศรัทธาในตัวท่าน

    สำหรับเหรียญรุ่น ภปร. ที่นำลงให้ชมนนี้  เป็นเหรียญที่จัดสร้างขึ้นเมื่อปี  2521  ก็นับได้ว่าเป็นเหรียญที่ได้รับความ
นิยมมากเหรียญหนึ่ง  ของปลอมจึงออกมาดาษดื่น  เหรียญรุ่นนี้สร้างในวาระที่หลวงพ่อท่านคลิ้งมีอายุ  93  ปี  เป็นเหรียญ
ดี  พิธีดี  จัดสร้างโดยพลตรีพระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าภานุพันธ์ยุคล  ซึ่งได้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาต
อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. มาประดิษยฐานไว้ที่ด้านหลังเหรียญ  นอกจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ยังได้
ทรงพระสุหร่ายและทรงเจิมโลหธาตุที่จะนำมาสร้างเหรียญนี้อีกด้วย  เหรียญนี้นอกจากจะบรรจุแผ่นทองเลขยันต์อันศักดิ์สิทธิ์
ของพ่อท่านคลิ้งแล้ว  ยังใช้โลหะสัมฤทธิ์เก่าสมัยบ้านเชียง  อายุ 4,000  ปี  และชิ้นส่วนพระพุทธรูปโบราณสมัยทวาราวดี
ลพบุรี  สุโขทัย ผสมลงไปอีกจำนวนมาก

     ทำพิธีปลุกเสกเมื่อวันที่  14  ธันวาคม  2521  นอกจากพ่อท่านคลิ้งจะปลุกเสกเดี่ยวแล้ว  ยังมีเกจิอาจารย์ดัง ๆ ใน
จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง  มาร่วมนั่งปรกปลุกเสกอีกจำนวนหลายรูป และมีขุนพันธรักษ์ราชเดช  เป็น
ประธานฝ่ายฆราวาส

      เห็นคณะผู้จัดทำ  ส่วนผสม พิธีปลุกเสกและพุทธาภิเษก  ประกอบกับได้พระปรมาภิไธย ภปร.  ไว้หลังเหรียญ
เหรียญรุ่นนี้จึงเป็นอีกเหรียญหนึ่ง  ที่จะมีอนาคตสดใสต่อไปอย่างแน่นอน

                                                           (https://upic.me/i/9q/20140320_112456_resize.jpg) (https://upic.me/show/50186956)
                                                           (https://upic.me/i/7b/20140320_112509_resize.jpg) (https://upic.me/show/50186969)

                                           เหรียญเก่าอีกเหรียญหนึ่งที่ขอบันทึกไว้เป็นกรณีศึกษา  ไม่เน้นทางด้านราคา  แต่พุทธคุณดีแน่นอน
                                           เหรียญพระไพจิตรสาราณียการ  วัดนพวงศาราม  จังหวัดปัตตานี  รุ่นแรก  สร้างปี  2504

                                           (https://upic.me/i/i9/20140320_111024_resize.jpg) (https://upic.me/show/50187055)
                                           (https://upic.me/i/lv/20140320_111043_resize.jpg) (https://upic.me/show/50187057)

                          เหรียญพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์  วัดสวนขันธ์  จังหวัดนครศรีธรรมราช  หลังพระพุทธสิหิงส์


             คงพูดได้อย่างเต็มคำว่า  ยากนักที่จะหาคนที่ไม่รู้จักพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์  เทพเจ้าของคนใต้  โดยเฉพาะคนนครศรีธรรมราช  ให้ความเคารพศรัทธา
พ่อท่านคล้ายอย่างยากที่จะหาหลวงพ่อรูปใดมาเทียบเคียงได้  พ่อท่านคล้ายเป็นพระเกจิที่เหนือกว่าพระเกจิจริง ๆ  ตำนานเล่าขานเกี่ยวกับเรื่องของท่านมีมากมาย
ก่ายกอง  มาตั้งแต่ท่านยังอยู่เป็นที่พึ่งของชาวใต้ทุกคน  และแม้ท่านจะละสังขารไปแล้วตั้งแต่ปี 2531  ทุกคนก็ยังคงมีความรู้สึกเสมือนพ่อท่านคล้ายจะยังคงอยู่ให้
พึ่งพาอยู่ทุกวี่ทุกวัน

       โดยเฉพาะด้านวาจาสิทธิ์  พูดอะไรจะเป็นอย่างนั้นทุกเรื่อง  เป็นเรื่องที่ทุกคนเล่าขาน  ยืนยัน  และเชื่อมั่นอย่างแท้จริง   โดยเฉพาะการนำคำพูดของท่านไป
ตีเป็นเลขเด็ด  แม่นฉมังเสียทุกงวด  

        เหรียญรุ่นที่เห็นนี้  เป็นอีกเหรียญหนึ่งที่ทรงคุณค่า  แม้จะไม่ออกจากวัดของท่านก็ตาม  แต่จัดสร้างโดยวัดหน้าพระบรมธาตุ  จังหวัดนครศรีธรรมราช  เมื่อ
ปี  2512  เป็นรูปพ่อท่านคล้าย  ด้านหลังเป็นพระพุทธสิหิงส์  พระคู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราชที่ชาวเมืองนครศรีธรรมราชให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก
เหรียญรุ่นนี้  จึงเป็นอีกเหรียญหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด

        เหรียญนี้เป็นเนื้ออัลปาก้า   แม้จะผ่านมานานแล้ว  แต่ก็ยังมีประกายวาววับสวยงามมาก

                                                         (https://upic.me/i/00/20140320_124152_resize.jpg) (https://upic.me/show/50188066)
                                                         (https://upic.me/i/rf/20140320_124355_resize.jpg) (https://upic.me/show/50188068)


                                         เหรียญพระเจ้าศรีธรรมโศกราช  วัดหน้าพระธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช  สร้างรุ่นแรก


       เป็นเหรียญทางภาคใต้อีกเหรียญหนึ่งที่หาดูค่อนข้างยาก  เป็นเหรียญที่จัดสร้างโดยวัดหน้าพระบรมธาตุ  จังหวัดนครศรีธรรมราช  เมื่อปี  2506  พ่อท่านคล้ายปลุกเสก  พร้อมด้วย
เกจิอาจารย์อื่นอีกหลายรูป  

       พระเจ้าศรีธรรมโศกราช   ตามตำนานว่าเป็นกษัตริย์พระองค์หนึ่ง    ซึ่งเป็นผู้สร้างพระบรมธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราช   โดยมีตำนานเกี่ยวกับเรื่องนี้ยืดยาวมาก   แต่ย่อสรุปสั้น ๆ
ว่า  หลังจากพระพุทธเจ้าได้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว  กษัตริย์เมืองต่าง ๆ ก็มีการแบ่งพระธาตุของพระพุทธเจ้าเพื่อนำไปสักการะ   มีเจ้าเมืองหนึ่งได้พระทันตธาตุไป  และโดนข้าศึก
ยกทัพมาแย่งชิง  ก็เลยให้โอรสและธิดา  คือ  เจ้าชายทนทกุมาร  และพระนางเหมชาลา  นำพระทันตธาตุหนีข้าศึกลงเรือไปยังเมืองลังกา  บังเอิญเรือโดนพายุล่มลงที่บริเวณหาดทรายแก้ว
จึงได้นำพระทันตธาตุซ่อนไว้  และต่อมาก็สามารถนำพระทันตธาตุบางส่วนกลับไปลังกาได้  บางส่วนก็ยังซ่อนไว้  พระเจ้าศรีธรรมโศกราช  ได้อพยพราษฏรหนีโรคห่าลงมาทางหาด
ทรายแก้ว  และได้ค้นพบพระทันตธาตุ   จึงได้สร้างพระบรมธาตุเจดีย์ขึ้น  เพื่ออัญเชิญพระทันตธาตไปเก็บรักษาไว้   เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่  13-15

      เหรียญพระเจ้าศรีธรรมโศกราชนี้  จึงสร้างเพื่อเทิดทูนเกียรติพระองค์ผู้สร้างพระบรมธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราช  ที่ยืนยงมาถึงปัจจุบันนี้

      เหรียญนี้สร้างเป็นเนื้ออัลปาก้า  เก็บมาได้จากใต้เชี่ยนหมากคนแก่  เลยกระดำกระด่างด้วยรอยน้ำหมาก

                                                           (https://upic.me/i/cr/20140321_100540_resize.jpg) (https://upic.me/show/50201631)
                                                           (https://upic.me/i/6u/20140321_100600_resize.jpg) (https://upic.me/show/50201633)


                                   เหรียญพระพุทธสิหิงส์   นครศรีธรรมราช   พิธีใหญ่สุด ๆ  ในหลวงเททอง  ปี 2517


     เหรียญนี้ก็มีอายุเก่าแก่ถึง  40 ปีเต็ม ๆ   เป็นเหรียญดีที่สุดอีกเหรียญหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จมาเททองสร้าง
รูปจำลองพระพุทธสิหิงส์  เมื่อวันที่  26  สิงหาคม  2517  เสร็จแล้วได้ทำพิธีพุทธาภิเษก  ตั้งแต่  26-29  สิงหาคม  2517  มีพระเกจิอาจารย์ในยุคนั้น
ที่ดัง ๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราชและใกล้เคียง  เข้านั่งปรกปลุกเสกประมาณ  30  รูป

     เป็นเหรียญสวยอีกเหรียญหนึ่งที่นำมารวบรวมไว้  เพื่อให้ได้รู้จักกันแพร่หลายต่อไป

                                                         (https://upic.me/i/bn/20140321_103320_resize.jpg) (https://upic.me/show/50201963)
                                                         (https://upic.me/i/x0/20140321_103338_resize.jpg) (https://upic.me/show/50201969)


                                                       หลวงพ่อทวดวัดช้างให้  พิมพ์เม็ดแตง   ปี  2508

         เหรียญเล็ก ๆ นี้  ทางวัดให้เช่าบูชาเหรียญละ  5  บาท  ส่วนใหญ่แล้วเช่ามาก็แจกจ่ายให้กับผู้ที่มีลูกหลานตัวเล็ก ๆ  ได้ใช้ห้อยคอ
เหรียญจึงสึกกร่อน  และสูญหายไปจำนวนมาก  อยู่ ๆ วงการเขาก็สร้างกระแสเรื่องราคาขึ้นมา  คนที่ตามกระแสก็เลยรีบไล่ตามเก็บ  ถอด
ออกจากคอลูกหลาน  เปลี่ยนรุ่นใหม่ให้แทน

        ความจริงก็เป็นเรื่องน่าคิด  พระทำมาพร้อมกัน พิธีเดียวกัน  ปลุกเสกโดยอาจาารย์คนเดียวกัน  แต่ทำไมพิมพ์นี้ดี  พิมพ์นี้ไม่ดี
เขาวัดกันด้วยอะไรก็ไม่รู้ ๆ  แต่ที่รู้ ๆ  เซียนพระเขาสร้างค่านิยมขึ้นมาเพื่อขายพระที่เขามีอยู่เท่านั้นเอง  แล้วคนนิยมพระก็ไล่ตามเขา
แต่ถ่านิยมพระแบบเรา ๆ  เน้นที่พุทธคุณ  ทุกรุ่นทุกพิมพ์ดีเหมือนกันหมด

       แต่การไม่เล่นพระตามกระแสก็จะมีข้อเสียคือ  จะกลายเป็นว่าเราไม่มีของดีที่จะอวด  โชว์พระในคอทีไรเพื่อนจะเบือนหน้าหนี
พร้อมกับนินทาลับหลัง  "มีแต่พระน้ำจื้ม  ไม่มีพระหลัก" หรือไม่งั้นก็จะตีไปว่า "มีแต่พระเก๊"

       เชื่อเถอะ.....ถึงยังไงทุกคนก็ต้องหาพระราคาแพง ๆ ขึ้นคออยู่ดีนั้นแหละ

 t:: t:: t:: t::





ขอบคุณมากจ้าที่เข้ามาเยี่ยมชม   มุมพระเครื่องตรงนี้เป็นการให้ความรู้ต่าง ๆ แบบง่าย ๆ พอเข้าใจ  สำหรับนักเล่นพระมือใหม่
ไม่เน้นเรื่องราคา  ไม่มีการค้าขาย  ให้แต่วืชาการอย่างเดียวเท่านั้น

                                                                               (https://upic.me/i/xj/20140322_111047_resize.jpg) (https://upic.me/show/50218003)
                                                                               (https://upic.me/i/yt/20140322_111105_resize.jpg) (https://upic.me/show/50218009)


                                       เหรียญรุ่น  1  อาจารย์เปรม  วัดวิหารสูง   หลังอาจารย์ทองเฒ่า  วัดเขาอ้อ   สร้างปี  2506



      เหรียญนี้เป็นอีกเหรียญหนึ่งที่น่าศึกษา  อาจารย์เปรมเป็นเจ้าอาวาสวัดวิหารแดง  จังหวัดพัทลุง    และเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ทองเฒ่า  แห่งสำนักเขาอ้อที่โด่งดัง
ทางด้านไสยเวทย์ไสยศาสตร์ และแพทย์แผนโบราณ  อาจารย์เปรมจึงเป็นผู้มีความรู้ทางด้านการแพทย์แผนโบราณ  รับรักษาผู้เจ็บป่วยตลอดมา  ทางด้านไสยเวทย์ก็
เคยสร้างวัตถุมงคลหลายชนืด   เมื่อปี  2482  ซึ่งเป็นวัตุมงคลที่มีพุทธานุภาพมาก  อาจารย์เปรมมรณภาพลงเมื่อปี  2498   เหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นเมื่อปี  2506  หลัง
จากท่านได้มรณภาพแล้ว   และถือเป็นเหรียญรุ่นแรกของท่าน   มีอาจารย์สายเขาอ้อที่เชี่ยวชาญด้านไสยเทย์สมัยนั้น    มาร่วมทำพิธีปลุกเสก  เหรียญรุ่นนี้จึงนับได้ว่า
ไม่ธรรมดาทีเดียว

     ส่วนวัดเขาอ้อนั้นนับได้ว่าเป็นวำสำนักโบราณ  มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา  สืบตำนานด้านไสยเวทย์วิทยา ด้านไสยศาสตร์  และแพทย์แผนโบราณมาเนิ่นนาน  เป็นที่ยอมรับของ
บุคคลทุกระดับชั้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา   มาตราบเท่าปัจจุบันนี้  โดยเฉพาะอาจารย์ทองเฒ่า  ก็เป็นพระผู้เชี่ยวชาญด้านไสยเวทย์ อย่างแท้จริงอีกรูปหนึ่ง  อาจารย์ทองเฒ่า
ได้มรณภาพราวๆ พ.ศ.  2470  ก่อนจากนั้นไม่มีการจดบันทึกรายละเอียดต่าง ๆ ไว้ชัดเจน  คงรับรู้เรื่องราวจากผู้เฒ่าผู้แก่เท่านั้น แต่ถึงยังไงก็ตามเป็นที่ยอมรับว่าศิษย์
ทุกคนที่ผ่านสำนักวัดเขาอ้อ  ล้วนได้รับการฝึกฝนด้านวิทยาคมจนเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง     เหรียญ อ.เปรมเหรียญนี้จึงเป็นอีกเหรียญหนึ่งที่น่าสนใจยิ่ง

                                                                     (https://upic.me/i/v2/20140323_090829_resize.jpg) (https://upic.me/show/50230592)
                                                                     (https://upic.me/i/ok/20140323_090846_resize.jpg) (https://upic.me/show/50230593)


                                                             เหรียญหลวงพ่อทวดวัดช้างให้  รุ่น  2   พ.ศ. 2502


       ในสมัยก่อนมักจะมีค่านิยมกันว่า   การแขวนพระให้ขลัง  และรับพลังเต็มที่นั้นจะต้องแขวนแบบไม่หุ้มองค์พระ   จะต้องให้พระแนบติดตัวตลอดเวลา
หลายคนจึงมักจะใช้ลวดมัดไขว้องค์พระไว้  ส่วนที่มีเงินหน่อยก็จะนิยมนำพระไปเลี่ยมกรอบ  สมัยก่อนจะมีทั้งกรอบนาคและกรอบทอง   แต่การเลี่ยมจะ
เลี่ยมจับขอบ   ร้านทองจึงต้องตัดหูเหรียญออก  เพื่อง่ายต่อการเลี่ยมจับขอบ  เราจึงมักจะพบเห็นเหรียญรุ่น 2  ถูกตัดหูเหรียญออกจำนวนมาก  เหรียญที่นำ
มาให้ชมนี้ก็ถูกตัดหูเหรัียญออกด้วยเหตุผลดังกล่าวเช่นกัน

       อีกอย่างหนึ่งเข้าใจว่าสมัยนั้น  การเลี่ยมพระแบบหุ้มพลาสติคน่าจะยังไม่มี  การเลี่ยมกรอบพลาสติค  น่าจะมีหลังปี  2505  คนจึงนิยมนำไปตัดหูเข้ากรอบกัน

       ตรงนี้ก็บันทึกไว้เผื่อบางคนอาจจะสงสัยว่าเหรียญรุ่นนี้ทำไมจึงไม่มีหูเหรียญ

                                                           (https://upic.me/i/fn/20140323_154933_resize.jpg) (https://upic.me/show/50256491)
                                                           (https://upic.me/i/1e/20140323_155028_resize.jpg) (https://upic.me/show/50256493)


                              เหรียญรุ่นแรก  พ.ศ. 2514  หลวงพ่อสังข์  วัดดอนตรอ  อ.เฉลิมพระเกียรติ    จังหวัดนครศรีธรรมราช  บล็อกแรก   

     อีกหนึ่งเทพเจ้าของชาวนครศรีธรรมราช   หลวงพ่อสังข์  วัดดอนตรอ  อำเภอเฉลิมพระเกียรติ (แยกมาจากอำเภอเชียรใหญ่)  จังหวัดนครศรีธรรมราช
เป็นพระภิกษุอีกรูปหนึ่งซึ่งมีวิทยาคมแข็งกล้า   เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านเป็นอย่างมาก  หลวงพ่อสังข์เป็นพระที่ยึดมั่นในพระธรรมวินัย  และปฏิบัติ
ศาสนกิจอย่างไม่บกพร่อง   ไม่สะสมวัตถุ  ดำรงตนแบบสมณเพศอย่างแท้จริง  ต้อนรับขับสู้กับคนทุกคน  ไม่เลือกว่าเป็นคนมีหรือคนจน ชาวบ้านจึง
เลื่อมใสศรัทธามาก

     สิ่งที่ชาวบ้านให้ความเชื่อมั่นอย่างมากคือผ้ายันต์รอยมือ รอยเท้า หลวงพ่อสังข์  โดยชาวบ้านจะนำผ้าไปใหเท่านประทับรอยือรอยเท้า  พร้อมขอ
ให้ท่านลงยันต์ต่าง ๆ  ซึ่งท่านจะตั้งใจทำให้ทุกคน  โดยที่จะทำครั้งละผืนสองผืนตามที่ต้องการ  และทุกคนที่ได้รับก็จะเก็บไว้จนหมดสิ้น (ผู้เขียนเคยได้มา
หนึ่งผืน  เก็บไว้ติดกับรถ แล้วบังเอิญหายไป  เสียดายมาจนบัดนี้)  ผู้เขียนเองก็ไปกราบหลวงพ่อสังข์หลายครั้งมาก  ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ

     หลวงพ่อสังข์ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดดอนตรอ วัดที่มีอายุเก่าแก่มานานนับ 100 ปี  เมื่อวันที่  8  มกราคม  2491  และท่านได้มรณภาพ
ลงเมื่ออายุได้  98  ปี    วัตถุมงคลที่โด่งดังของท่านก็คือเหรียญรุ่นแรก  ปี 2514  และเหรียญรุ่นสองปี  2526   หลังจากนั้นประมาณปี  2530 กว่า ๆ
ก็ได้มีการสร้างพระเหรียญขึ้นมาอีกหลายรุ่น  แต่ไม่สามารถหาข้อมูลละเอียดมาเขียนได้

     เฉพาะเหรียญรุ่นแรก  ปี 2514  จะจัดสร้าง 2  ครั้ง  ครั้งแรกจัดสร้างขึ้น  4,000  เหรียญ  แจกจ่ายจนหมดสิ้นก็ยังมีผู้ต้องการ  (แจกฟรี) จึงได้
จัดสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง  ใช้บล็อกเดิม   จำนวน  10,000  เหรียญ  เหรีญที่สร้างครั้งที่  2  จะมีจุดสังเกตุด้านหลังเหรียญจะไม่เรียบ เป็นขี้กลาก
สามารถแยกความแตกต่างได้  เหรียญที่สร้างครั้งแรกจึงเป็นที่นิยมทางด้านราคามากกว่า  และหาค่อนข้างยากแล้ว  เพราะชาวบ้านจะเก็บไว้หมดสิ้น


                                                             (https://upic.me/i/gn/20140325_113653_resize.jpg) (https://upic.me/show/50267285)
                                                             (https://upic.me/i/vp/20140325_113709_resize.jpg) (https://upic.me/show/50267288)

                            เหรียญรุ่นพิเศษ  สร้างปี  2537  ใช้บล็อกปี  2514  แต่เนื้อเหรียญจะเป็นขี้กลากทั้งสองด้าน   ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก


                                                             (https://upic.me/i/9z/20140325_113726_resize.jpg) (https://upic.me/show/50267304)
                                                             (https://upic.me/i/69/20140325_113743_resize.jpg) (https://upic.me/show/50267306)

                                                      เหรียญนี้ไม่ระบุ พ.ศ.  สร้างปี 2530  กว่า  ๆ

                                                                         (https://upic.me/i/w7/20140328_133355_resize.jpg) (https://upic.me/show/50333597)
                                                                         (https://upic.me/i/3y/20140328_133335_resize.jpg) (https://upic.me/show/50333604)

                                                                 เหรียญหลวงพ่อทิม  วัดช้างให้  จังหวัดปัตตานี  รุ่นปี  2518

    หลวงพ่อทิม  วัดช้างให้  ผู้ริเริ่มจัดสร้างหลวงพ่อทวดวัดช้างให้  จนปรากฏอภินิหารล่ำลือโจษขานสนั่นลั่นฟ้าเมืองไทย
จนเกือบจะพูดได้ว่า  ไม่มีใครที่ไม่รู้จักหลวงพ่อทวดวัดช้างให้   และไม่มีใครจะปฏิเสธไม่อยากได้พระเครื่องหลวงพ่อทวดไว้เคารพบูชา
เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง

    หลวงพ่อทิมได้มรณภาพลงเมื่อปี พ.ศ. 2512   เหรียญรุ่นที่นำลงให้ชมนี้  เป็นรุ่นปี 2518  ออกหลังจากที่หลวงพ่อทิมได้จาก
ไปแล้ว  แต่ก็ยังเป็นเหรียญที่หลายคนยังแสวงหาอยู่ไม่หยุดหย่อน

     กระแสความนิยมพระเครื่องหลวงพ่อทวดในระยะต้น ๆ นิยมสะสมและแสวงหาพระเครื่องในรุ่นที่ทันอาจารย์ทิมปลุกเสก  คือตั้งแต่รุ่น
ปี 2497  ถึงปี 2512  รุ่นหลังจากนี้มักจะไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าที่ควร

     จนมาถึงปัจจุบันนี้  หลังจากพระเครื่องเนื้อว่านปี 2497  ค่อย ๆ หมดไปท้องตลาด  เข้าสู่ที่เก็บซ่อนของคนมีเงินเสียส่วนใหญ่
พระเนื้อโลหะรุ่นต่าง ๆ  ก็เริ่มได้รับความสนใจแสวงหาขึ้นมาทันที    ทำให้ราคาพระพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก  แม้แต่พระบางพิมพ์ที่คน
ในท้องถิ่นไม่นิยมเล่นหา   เพราะมีข้่าวลือตั้งแต่สมัยที่ปลุกเสกพระใหม่ ๆ ว่า  เป็นพระไม่ทันพิธี  พระพิมพ์นี้แทบไม่มีราคา  และไม่มี
ใครเล่นหา   แต่ปัจจุบันมีราคาขึ้นเป็นองค์ละ 7-8  หมื่นบาทขึ้นไปแล้ว

     ถ้าเราพิจารณาถึงการจัดสร้างพระแต่ละรุ่นของวัดช้างให้  แม้ท่านอาจารย์ทิมจะจากไปแล้ว  พระรุ่นถัดมาก็ได้หลวงพ่อดำ วัดตุยง
เป็นผู้ปลุกเสกให้  ซึ่งก็ได้รับการยอมรับว่าหลวงพ่อดำนั้นเป็นสุดยอดพระเกจิของจังหวัดปัตตานี  และเป็นประธานในการพุทธาภิเษกพระ
หลวงพ่อทวดมาทุกรุ่น  และหลังจากสิ้นหลวงพ่อดำแล้ว  ก็ได้อาจารย์นอง  วัดทรายขาว พระสหายของอาจารย์ทิมที่ร่วมสร้างพระ
หลวงพ่อทวดรุ่นปี 2497  มาด้วยกัน  ตั้งแต่การเป็นต้นคิด  การหาว่าน  และวัสดุต่าง ๆ มาจัดสร้างจนสำเร็จเป็นองค์พระให้คนนำ
ไปเคารพบูชา  นอกเหนือจากนั้น  ถ้าเป็นการจัดสร้่างในรุ่นพิเศษ  ไม่ใช่รุ่นประจำวัด   ก็จะจัดพิธีมหาพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ในพระ
อุโบสถวัดช้างให้   ดังนั้น  ไม่ว่าพระหลวงพ่อทวดจะออกสมัยไหน  จึงมีความศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้กันเลย

     ดังนั้น  เราจะเห็นว่าปัจจุบันนี้   แม้จะเป็นพระที่สร้างหลังจากหลวงพ่อทิมมรณภาพแล้ว  นับวันจะเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น
โดยเฉพาะพระที่สร้างเป็นรุ่น  เช่น รุ่นปี  22  ปี  24  รศ.200  รุ่นทูลเกล้า  รุ่นใต้ร่มเย็น ฯลฯ  แต่ละรุ่นจะมีประสบการณ์และการ
เสาะหาจะเพิ่มมากขึ้น  ทำให้ราคาพระเครื่องเหล่านี้แพงตามขึ้นไปด้วย หลายพิมพ์ขึ้นราคาเป็นหลักหลายหมื่นไปแล้ว

     สมัยก่อนวัดช้างให้ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่ให้เช่าบูชาพระในราคาถูกที่สุด   องค์ละ 5 บาท 10 บาท อย่างสูงก็แค่  50  บาท  แต่มา
ถึงยุคปัจจุบันนี้ความนิยมพระมีมากขึ้น  พระแต่ละรุ่นที่สร้างหลัง ๆ จะถูกการตลาดเข้าไปแทรกแซง  ทำให้พระหมดไปจากวัดอย่าง
รวดเร็ว  และจะถูกปั่นราคาให้แพงขึ้นอย่างรวดเร็ว   แม้พระที่สร้างปี  2555   เพียง 1-2  ปี  พระบางพิมพ์ก็มีราคาสูงถึง 5-6 หมื่น
บาทไปแล้ว  ราคาพระในวัดก็ปรับราคาสูงตามไปด้วย  ราคาปัจจุบันนี้จึงเป็นองค์ละ 50-100  บาทแล้ว  พระเนื้อว่านเมื่อก่อน
(ปี 2524)  องค์ละ  100  บาท  รุ่นปัจจุบันองค์ละ 2-3  พันบาทจากวัดแล้ว  และปัจจุบันทางวัดมักจะจัดสร้างพระเพียงไม่กี่พิมพ์
และทำเหมือนกันทุกปี  ทุกรุ่น  เพียงแต่เปลี่ยนเป็นปั๊ม พ.ศ. ที่องค์พระ  หรือปั๊มหมายเลขถ้าเป็นรุ่นพิเศษ เท่านั้น

     ดังนั้น  ท่านที่อยากจะได้พระหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ไว้บูชา  ที่เป็นพระที่ออกที่วัดช้างให้โดยตรง  ก็ควรเสาะแสวงหาเสียตั้งแต่วันนี้
เชื่อได้ว่าราคาพระหลวงพ่อทวดวัดช้างให้  ไม่ว่าจะสร้างรุ่นไหน  ปีไหน  จะมีความนิยมมากขึ้น  และราคาจะยิ่งสูงขึ้น  เพราะราคา
พระที่สร้างใหม่เอี่ยมกำลังมาแรงแซงหน้าพระที่สร้างเมื่อ 20-30 ปีก่อนไปแล้ว

                                                                      (https://upic.me/i/ps/20140327_145108_resize.jpg) (https://upic.me/show/50341418)
                                                                      (https://upic.me/i/rv/20140327_145130_resize.jpg) (https://upic.me/show/50341419)


                                                เหรียญหลวงพ่อเพิ่มวัดพังยอม   อ.เชียรใหญ่  จังหวัดนครศรีธรรมราช


                      เหรียญนี้ไม่ระบุ พ.ศ.ในการจัดสร้าง  บางคนบอกว่าเหรียญนี้เป็นเหรียญรุ่นแรก ส่วนเหรียญที่ออกปี  2505  เป็นเหรียญรุ่น  2
                                                          เป็นเหรียญดีอีกเหรียญหนึ่งที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก

รบกวนคุณ numchai42 ช่วยดูให้หน่อยครับ..ดูจากรูปทรงแล้วผมคิดว่าน่าจะเป็นพระจากทางใต้..เป็นมรดกตกทอดมาหนะครับ ถามหลายที่ก็ไม่มีใครรู้
ขนาดความสูงขององค์พระประมาณ 2.5 นิ้ว (ตอนถ่ายผมวางไว้หลัง nokia n7) เนื้อเหมือนเนื้อว่าน ด้านหลังเรียบ ค่อนข้างหนัก
...รบกวนหน่อยนะครับ..ขอบคุณครับ >.i|

(https://upic.me/i/1y/img_0050-01.jpg) (https://upic.me/show/50521298)

ขอบพระคุณมากครับ ข้อมูลดีๆ ผมเป็นคนที่ชอบพระทางสายใต้อยู่แล้วเจอข้อมูลนี้ ขอบคุณจริงๆเดี๋ยวหาเวลาแวะมาชม

ขอบคุณค่ะที่นำข้อมูลดีมาแบ่งปันให้ได้ทราบนะคะ..โดยสว่นตัวแล้วเป็นอีกคนหนึ่งที่นับถือลพ.ทวดมากๆค่ะ และเคยได้ประสบกับอิทธิปาฏิหาริย์ ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านด้วยตัวเองมาแล้วหลายครั้งด้วยกันค่ะ.

 >.i|    >.i|    >.i|

  ขอบคุณหลาย ๆ คนที่เข้ามาติดตามอ่านสาระน่ารู้  เรื่องพระเมืองใต้   เขียนให้อ่านสนุก  ๆ  มีสาระบ้างนิดหน่อย ๆ
แต่ด้านวิชาการอาจจะอ่อนไปบ้าง   เพราะตาไม่ใช่เซียนพระ   เพียงแต่อาศัยประสบการณ์ที่เคยสนใจเรื่องพระเครื่อง
มาเล่าให้ฟังเท่านั้น

  แต่หลัง ๆ  ตามีภารกิจมาก  จนลืมไปว่าเคยเขียนเรื่องนี้ไว้   บังเอิญไปพบในกลูเกิ้ล   ก็เลยนึกขึ้นได้  รีบกลับ
มาดกูอีกที    แต่อย่างว่าแหละทิ้งไปนานมาก  ต้องค่อย ๆ  อ่านใหม่อีกรอบว่ามีอะไรที่สมควรจะเพิ่มเติม   เพราะ
ลืมไปหมดแล้วว่าเขียนอะไรไว้บ้าง

   ไว้ว่าง ๆ  จะมาเล่าให้ฟังต่อ   มีพระดี ๆ อีกมากที่น่ารู้

     ขอโทษด้วยที่กว่าจะตอบได้เป็นปี ๆ  เพราะไม่ได้เข้ามาดู   และต้องขออภัยด้วยจริง ๆ  หลวงพ่อทวดองค์นี้ตาไม่อาจจะชี้ชัด
ได้ว่าเป็นของวัดใด  แต่คงไม่ใช่ของวัดช้างให้  หลวงพ่อทวดมีการสร้างกันมากมายหลายวัด  ถ้าไม่เชี่ยวชาญจริง ๆ  คงจำแนกยาก

     แต่ดูเนื้อหาแล้ว   น่าจะสร้างในยุคต้น ๆ  คือประมาณปี 2505 - 2510   น่าจะทันยุคอาจารย์ทิม   เพราะสมัยนั้นการสร้างหลวงพ่อทวด
มักจะนิมนต์อาจาราย์ทิมไปร่วมปลุกเสก  และอีกอย่างหนึ่งยุคนั้น   มีพระเกจิอาจารย์หลายองค์ที่มีอาคมเข้มขลัง   พระที่ทำในยุคนั้น
จึงมักจะไดรับความนิยมกันเกือบทุกวัด

     ขอบคุณมากจ้า

 r"|  น่าสนใจมากค่ะ SBOBET (https://www.th-sbobet.com)