อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน

สัตว์ทั้งหลายได้ชื่อว่า แก่ตั้งแต่เกิด คือ เริ่มตั้งแต่ปฎิสนธิจิตเกิดขึ้น ก็เริ่มแก่ตั้งแต่ตอนนั้น

แล้วก็แตกดับไปพร้อมกับธาตุขันธ์นี้ ดั่งแท่งหินตกจากยอดเขาแตกไปฉันนั้น
แม้แต่ความตาย ก็จัดว่ามาพร้อมกับความเกิด เพราะผู้ที่เกิดมาแล้วต้องตายแน่ๆ
เพราะเหตุนี้ สัตว์นี้ นับตั้งแต่เวลาที่เกิดแล้วก็บ่ายหน้าสู่ความตายไป ไม่กลับเลยแม้แต่น้อย


เปรียบเหมือน ดวงอาทิตย์ที่ขึ้นแล้ว ย่อมบ่ายหน้า สู่ความตกเพียงอย่างเดียว ไม่ได้โคจรย้อนกลับเลย
เปรียบเหมือน ลำธารที่ไหลลงจากภูเขามีกระแสเชี่ยว พัดพาเอาสิ่งที่มันจะพาไปได้ให้ไหลรุดหน้าไปท่าเดียว ไม่ได้ไหลย้อนกลับเลยสักนิด
เปรียบเหมือน เหมือนเมฆฝนตั้งขึ้นแล้ว ก็ย่อม เคลื่อนไปเรื่อยไป ไม่หวนกลับ”
เปรียบเหมือน ความแห้งไปของแห่งน้ำน้อยใหญ่ทั้งหลายที่ถูกแดดแผดเผาในฤดูร้อน
เปรียบเหมือน การหล่นในเวลาเช้าของผลไม้ที่สุกแล้วอันเนื่องมาจากมีขั้วอันน้ำซึมซาบแล้ว
เปรียบเหมือน ความแตกแห่งภาชนะดินทั้งหลายที่ถูกทุบด้วยค้อน

เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสและเหล่าพระอรหันต์ทั้งหลายจึงกล่าวไว้ว่า

“ วันและคืนย่อมล่วงไปๆ ชีวิตย่อมดับไป อายุของสัตว์ทั้งหลายย่อมสิ้นไป เหมือนน้ำในแม่น้ำน้อย”
“ ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ไม่มีเครื่องหมาย ใครๆ รู้ไม่ได้

ความตายมาพร้อมกับการเกิด
ดุจเพชฌฆาตที่เงื้อดาบ ความตายนั้นย่อมคร่าชีวิตไปท่าเดียว
เมื่อคร่าเอาไปแล้วก็มิได้ปล่อยให้กลับ
ดุจเพชฌฆาตนั้นจ่อดาบที่คอ จะฟันลงเป็นแน่แท้
เพราะเหตุนั้น ความตาย จึงชื่อว่า ดุจเพชฌฆาตผู้ตามล่า เพราะมาพร้อมกับการเกิด
และเพราะคร่าเอาชีวิตไปด้วยประการหนึ่ง
เราชาวพุทธทั้งหลาย พึงระลึกถึง ความตายเสมอ เพราะมันเหมือนเพชฌฆาตที่คอยตามล่าเราทุกฝีก้าว นั่นเอง

 *C

สาธุ ครับ