อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน
29 มีนาคม 2024, 16:02:51 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ผลงานห้อง VIP (งวด 16 มี.ค.67)
อ.apichoke ปักหลักสิบหน่วย เข้า 2-6
อ.janya ถูกตรงเลขท้ายย๒ตัว 78
อ.goodrich ถูกตัวกลับเลขท้ายย๒ตัว 87
อ.พริม ฟันธงชุดเดียว ถูกตรงๆ เลขท้าย๒ตัว 78

ออก 626-78
   หน้าแรก   หวยรัฐบาล SUPER VIP หนังสือหวย VIP สมัคร vip ช่วยเหลือ แท็ก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก Register  
ฝากภาพ i-pic
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กินรากบัว : ไม่ต้องกลัวร้อนใน  (อ่าน 6543 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
พุดจีบน้องคุณยายพุดซ้อน
Golden Hero 8
*

พลังน้ำใจ: 14872
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12,213


« เมื่อ: 08 เมษายน 2012, 09:19:44 »


เมืองไทยนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองร้อน ส่วนกรุงเทพฯ นั้นก็ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของเมืองที่อมความร้อนเก่งเช่นกัน เพราะกรุงเทพเมืองฟ้าอมรของชาวสยามนั้นอุดมไปด้วยป่าคอนกรีต ถนนหนทาง ทางเดินเท้า ก็ถูกฉาบทาไปด้วย อิฐ หิน ปูน ทราย แทบทุกตารางนิ้ว

    เรียกว่าหาพื้นดินพื้นหญ้า ให้เท้าได้มีโอกาสสัมผัสกับความชุ่มชื้นแบบธรรมชาติได้ยากพอ ๆ กับหาเงินใช้หนี้ต่างชาติทีเดียว

    ยามเมื่อแสงแดดแผดกล้า ตึกรามบ้านช่องและพื้นปูน พื้นคอนกรีตเหล่านี้ก็จะซึมซับเก็บความร้อนไว้เต็มที่ พอตกกลางคืนก็คลายความร้อนที่อมไว้ทั้งวันออกมา เลยกลายเป็นว่า เราต้องทนร้อนกันทั้งวันทั้งคืนทีเดียว

    ถ้าจะให้กรุงเทพฯ เย็นลงเขาบอกว่า ต้องขยันปลูกต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา และหาทางให้มีพื้นดิน พื้นหญ้าเพิ่มมากขึ้น มีการทดสอบโดยการวัดอุณหภูมิพื้นหญ้าในตอนกลางวันพบว่า อุณหภูมิบริเวณพื้นหญ้าต่ำกว่าอุณหภูมิของอากาศทั่วไปประมาณ ๗-๘ องศา เพราะว่าพื้นหญ้าสามารถเก็บความชื้นไว้ได้ดีนั่นเอง

    ที่ชอบบ่น ๆ กันว่าทำไมปีนี้ร้อนกว่าปีที่แล้ว ก็คงมาจากสาเหตุที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองอมความร้อนนี้ด้วยเช่นกัน และแน่นอนเมื่ออุณหภูมิของอากาศสูงขึ้น ก็มีผลให้ความร้อนภายในร่างกายของเราสูงขึ้นด้วย ร่างกายก็พยายามระบายความร้อนออกมา เราจึงเกิดอาการเหงื่อไหลไคลย้อย กระหายน้ำมากเป็นพิเศษในหน้าร้อนแบบนี้

    คงจะมีอยู่บ่อยครั้ง ที่เรากระหายน้ำมาก ๆ แต่พอกินน้ำเย็นหรือน้ำอัดลมซ่า ๆ ใส่น้ำแข็งเข้าไปจนอิ่มท้องแล้วก็ตาม แต่อาการกระหายกลับไม่ทุเลาลงเลย ยังคงรู้สึกร้อนฉ่าอยู่ข้างในและหิวกระหายน้ำอยู่เหมือนเดิม ในขณะที่เรากินพืชผักผลไม้ที่เป็นสมุนไพรบางอย่างเข้าไป อาการกระหายน้ำกลับหายไปอย่างน่าอัศจรรย์

    นั่นเป็นเพราะว่า น้ำเย็นและน้ำแข็งที่เราดื่มเข้าไปนั้น เข้าไปปรับอุณหภูมิในร่างกายแบบชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น แต่ไม่สามารถให้ความชุ่มชื้นกับร่างกายได้ เหมือนกับเราราดน้ำลงบนพื้นปูนที่อยู่กลางแดด สักพักแดดก็เผาจนพื้นแห้งและกลับไปร้อนผ่าวเหมือนเดิม ในขณะที่สมุนไพรเข้าไปช่วยปรับสภาพร่างกายของเราให้เหมือนกับสนามหญ้า พอเรารดน้ำลงบนพื้นหญ้า ดินและหญ้าก็สามารถเก็บซับความชุ่มชื้นเอาไว้ได้นาน ๆ นั่นเอง

    สมุนไพรที่มีคุณสมบัติดังกล่าวมาข้างต้น ที่เหมาะกับอาการหิวกระหายน้ำไม่เลิกราแบบนี้ ซึ่งมักเรียกรวม ๆ กันว่าเป็น"อาการร้อนใน" (อาการแบบนี้ไม่จำเป็นจะต้องเกิดเฉพาะหน้าร้อน คนที่อ่อนเพลีย นอนดึกอดหลับอดนอน หรือชอบกินของมันๆ ทอด ๆ ก็ทำให้เกิดอาการร้อนในได้) ที่เด่น ๆ แบบเห็นผลดีจนเป็นที่ยอมรับกันทั่วก็คือ รากบัว

    การใช้ยาแก้ร้อนในควรระวัง อย่าใช้แรงเกินไป หรือยาเย็นจัดเกินไป โดยหวังที่จะให้หายทันใจ ควรเลือกใช้ยาที่ไม่แรงก่อน แม้เห็นผลช้าแต่ก็ไม่อันตราย ทั้งตำราอินเดียและจีนนิยมใช้ "รากบัว" แก้ร้อนในมาก อาจเป็นเพราะว่า รากบัวเป็นยาไม่แรง มีพิษน้อย รสอร่อย กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รากบัวต้มน้ำตาลจัดว่าเป็นได้ทั้งเครื่องดื่มและยาด้วยในตัว

    รากบัวมีรสมัน แก้ไข้ พิษร้อน แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ชูกำลัง แก้เสมหะ น้ำลายเหนียว แก้ไอ เป็นยาเย็นแก้พิษอักเสบ แก้พิษฝีต่าง ๆ แก้ปวดบวม

    มีผู้ใช้รากบัวแก้ร้อนในได้ผลจำนวนมาก บางท่านมีอาการกระหายน้ำมาก เมื่อกินน้ำรากบัวแล้วอาการกระหายน้ำหายไป วิธีปรุงก็มีหลายวิธีให้เลือก ตั้งแต่

    ต้มกิน เป็นวิธีที่นิยมใช้กันทั่วไป คือเอารากบัวมาฝานเป็นแว่นมากน้อยตามต้องการ ใส่น้ำพอท่วมยา ต้มให้เดือดนาน ๑๐-๑๕ นาที แล้วรินน้ำยามาดื่ม วันละ ๓-๔ ครั้ง ๆ ละ ๑ แก้ว เมื่อน้ำยาหมดแล้วให้เติมน้ำใหม่ ต้มดื่มได้อีกครั้ง น้ำยานี้ถ้าเติมน้ำตาลจะอร่อยขึ้นมาก แต่น้ำตาลไม่ถูกกับโรคร้อนใน ดังนั้นถ้าจะเติมน้ำตาลควรเติมให้น้อยที่สุด

    คั้นเอาน้ำกิน รากบัวสด ๆ มีฤทธิ์แก้ร้อนในได้แรงกว่าน้ำต้มรากบัว วิธีกินให้เอารากมาตำให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำกิน ครั้งละ ๓-๔ ช้อนแกง วันละ ๓-๔ ครั้ง

    กินสด บางท่านใช้วิธีเคี้ยวกินสด ๆ เลย โดยเอารากบัวหลวงอ่อน ๆ เคี้ยวกินธรรมดา ๆ

    ระวัง อย่ากินน้ำคั้นรากบัวและรากบัวสด ๆ มากเกินไป อาจทำให้แน่นหน้าอกได้

    รากบัวนอกจากใช้แก้ร้อนในแล้ว ยังช่วยเจริญอาหาร และแก้อ่อนเพลียได้ด้วย กินแล้วรู้สึกอยากอาหารและกินอาหารได้มากขึ้น ช่วยให้หายอ่อนเพลีย สดชื่นมากขึ้น

    รากบัวนอกจากเอามาต้มน้ำ หรือคั้นน้ำกินแล้ว ยังเอามาทำเป็นอาหารได้ รากบัวต้มกระดูกหมู เป็นอาหารอร่อยเลิศรส สำหรับท่านที่รับประทานมังสวิรัต ใช้เนื้อเทียมแทนกระดูกหมูก็ได้ รากบัวกินเป็นอาหารช่วยให้น้ำย่อยดี ขับถ่ายดีท้องไม่ผูก เพราะรากบัวมีเส้นใยอาหารมาก บางท่านที่เคยกินรากบัวต้มกระดูกหมู บอกว่ากินแล้วช่วยบำรุงกำลัง บรรเทาอาการเจ็บคอ ขับเสมหะ แก้ร้อนใน กระหายน้ำได้ดี

    รากบัว เป็นสมุนไพรที่เป็นทั้งยาและอาหารอยู่ในตัว ทำหน้าที่ทั้งป้องกัน บำรุงและรักษาไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นอันหนึ่งของสมุนไพรที่ทุกคนยอมรับ

ที่มา pdamobiz.com
บันทึกการเข้า

ฺBaby Uthai
Golden Hero 8
*

พลังน้ำใจ: 22861
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11,475



« ตอบ #1 เมื่อ: 08 มกราคม 2013, 12:39:15 »

 t"* t"* t"* t"* t"* t"*

 สุดยอด สุดยอด สุดยอด สุดยอด สุดยอด

 ดอกไม้ให้คุณ ดอกไม้ให้คุณ ดอกไม้ให้คุณ ดอกไม้ให้คุณ ดอกไม้ให้คุณ ดอกไม้ให้คุณ

 โชคดี โชคดี โชคดี โชคดี โชคดี
บันทึกการเข้า
แท็ก:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค "เว็บมหาชน คนมหาโชค"
 
คติ "กินอยู่อย่างพอเพียง เสี่ยงโชคแต่พอควร"
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย
คำเตือน -ทางเว็บไม่ได้ทราบเป็นการล่วงหน้าว่าหวยทางกองสลากจะออกตัวไหน แต่เราใช้การวิเคราะห์หรือประเมินตามหลักสถิติ
หรือวิธีการอื่นว่า เลขที่มีโอกาสออกมากที่สุดในแต่ละงวดควรจะเป็นเลขอะไรเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ การเล่นหวยถือว่ามีความเสียงมาก
Sitemap | Contact | WAP | xHTML | iMode | WAP 2 | RSS

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines | Sitemap
อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน ©
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.147 วินาที กับ 23 คำสั่ง
Copyright (c) 2008-2022 apichokeonline.com