อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน
28 มีนาคม 2024, 18:23:17 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ผลงานห้อง VIP (งวด 16 มี.ค.67)
อ.apichoke ปักหลักสิบหน่วย เข้า 2-6
อ.janya ถูกตรงเลขท้ายย๒ตัว 78
อ.goodrich ถูกตัวกลับเลขท้ายย๒ตัว 87
อ.พริม ฟันธงชุดเดียว ถูกตรงๆ เลขท้าย๒ตัว 78

ออก 626-78
   หน้าแรก   หวยรัฐบาล SUPER VIP หนังสือหวย VIP สมัคร vip ช่วยเหลือ แท็ก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก Register  
ฝากภาพ i-pic
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติสมเด็จองค์ปฐม(พระพุทธเจ้าพระองค์แรก)  (อ่าน 21557 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
=
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 7894
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,463


« เมื่อ: 03 มกราคม 2012, 23:00:56 »


คำนมัสการสมเด็จองค์ปฐมฯ ฉบับวัดท่าซุง

วันทามิ พุทธัง ภะวะปาระติณณัง
ตีโลกะเกตุง ติภะเวกะนาถัง
โยโลกะเสฏโฐ สะกะลัง กิเลสัง
เฉตะวานะ โพเธสิ ชะนัง อนันตังฯ
ตะมะหัง องค์ปฐม พุทธัง อภิปูชะยามิ
ตะมะหัง องค์ปฐม พุทธัง เม สิรสา นมามิ

มหากรุณิโก นาโถ อัตถายะ
หิตายะ สุขายะ สัพพะปาณิณัง
ปูเรตะวา ปารมี สัพพา
ปัตโต สัมโพธิมุตตมัง
สัพพะสันตุปสัคคา สัพพุปัททะวันตรายะ
นิวาระณะสะมัตถัสสะ
สุคะตะมะมิตะพุทธิง โลกะนาถัง
ปูชิตะวา

ปุญญัสสิทานิ กตัสสะ
ยานัญญานิ กตานิ เม
กุสะละมุปะจิตัง ยันเตนะ
เตชุสสะเทนะ จะ
ตัสสะ ปารมิเตเชนะ

วิละยะมุปะนะยันตะ สัพพุปัททะวา
สะทา มหาลาโภ ภะวันตุเม
เตสัง สัจเจนะ สีเลนะ
ขันติเมตตาพเลนะ จะ
เตปิ อัมเห อนุรักขันตุ

อโรคะเยนะ สุเขนะ จะ
สะทา อัมเห รักขันตุ สุรักขันตุ
นิรุปัททะวา สันตุปะสัคคา วูปะสะเมนตุ โน
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ฯ


:c< :c< :c< :c< :c< :c< :c<



ข้าพเจ้าขอนมัสการพระพุทธเจ้า ผู้ข้ามพ้น
ฝั่งแห่งภพ ผู้เป็นธงชัยแห่งโลกทั้งสาม
ผู้เป็นที่พึ่งเอกของสามภพ
ผู้ประเสริฐในโลก ตัดกิเลสทั้งสิ้นได้แล้ว
ช่วยปลุกชนหาที่สุดมิได้ ให้ตื่น

ข้าพเจ้าบูชาอย่างยิ่งเฉพาะสมเด็จองค์ปฐมพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมสมเด็จฯด้วยเศียรเกล้า
พระบรมโลกนาถประกอบแล้วด้วยพระกรุณา
อันยิ่งใหญ่

ยังบารมีทั้งสิ้นให้เต็มแล้วเพื่อประโยชน์เพื่อเกื้อกูล
เพื่อความสุขแก่สัตว์ทั้งปวง
ได้บรรลุแล้วซึ่งพระสัมโพธิญาณอันอุดม
พระองค์สามารถในอันห้ามเสียซึ่งความเดือดร้อน
อุปสรรค และ อุปัทวันตราย ทั้งปวง

กุศลใดเราบูชาแล้วซึ่งสมเด็จองค์ปฐม
สุคตโลกนาถเจ้า ผู้มีพระปัญญานับไม่ได้
บุญอันข้าพเจ้าทำแล้ว ณ กาลบัดนี้ด้วย
บุญทั้งหลายอื่น อันข้าพเจ้าทำแล้วในกาลก่อน
สร้างสมไว้แล้วด้วยเดชอันแรงกล้า
แห่งกุศลนั้นและด้วยเดชแห่งบารมี
ของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น

สรรพอุปัทวะ จงถึงความพินาศไป
ขอลาภใหญ่ จงมีแก่ข้าพเจ้า
ด้วย สัจจะ ด้วยศีล ด้วยพลังแห่งขันติ
และเมตตา ของพระพุทธเจ้านั้น
แม้คุณธรรมเหล่านั้น จงตามรักษาซึ่ง
เราทั้งหลาย

ด้วยความเป็นผู้ไม่มีโรค ด้วยความสุข
รักษาเราทั้งหลายเป็นอันดี ทุกเมื่อ
ให้ไม่มีอุปัทวะ แม้ความเดือดร้อนและ
อุปสรรคทั้งหลายของเราจงสงบไป
ด้วยกุศลผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัยแห่ง
พระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้เทอญ ฯ
   


:c< :c< :c< :c< :c< :c< :c<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 มกราคม 2012, 23:09:40 โดย ไชยา » บันทึกการเข้า

=
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 7894
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,463


« ตอบ #1 เมื่อ: 03 มกราคม 2012, 23:02:30 »

ประวัติสมเด็จองค์ปฐม(พระพุทธเจ้าพระองค์แรก)



ท่านสาธุชนทั้งหลาย ตอนนี้ก็มาพูดกันถึงเรื่อง สมเด็จองค์ปฐม
สำหรับคำว่า “สมเด็จองค์ปฐม” ก็คือพระพุทธเจ้าองค์แรกหรือองค์ที่ 1 เรียกว่า “องค์ปฐม”

ขอเล่าย้อนตอนหลังสักนิด คือเมื่อประมาณ พ.ศ. 2511 ตอนนั้นอาตมา (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)
มาอยู่ที่วัดท่าซุงแล้วและ พล.อ.อ.อาทร โรจนวิภาต เวลานั้นเป็นนาวาอากาศเอก
เป็นผู้บังคับกองฝึกโรงเรียนการบิน ที่นครราชสีมา

ทราบว่าอาตมาป่วย จึงนิมนต์ไปพักที่นั้น ตอนกลางคืน สามีภรรยาก็นั่งเจริญพระกรรมฐาน อาตมาเป็นคนแนะนำ
ขณะที่แนะนำเขาอยู่
เมื่อเสร็จแล้วก็ทำสมาธิ ขณะที่ทำสมาธิ บรรดาท่านพุทธบริษัท สิ่งที่คาดไม่ถึงก็ปรากฏขึ้น
นั่นคือเห็นเป็นพระพุทธเจ้าในปางนิพพานยืนสองแถวยางเหยียดไปข้างหน้า แล้วก็พนมมือ

จึงมีความรู้สึกในใจว่า บางทีอาจเป็นอุปทานของเรา เพราะว่าพระพุทธเจ้าไม่เคยก้มศีรษะให้ใคร
แม้แต่บ้านเรือนเล็กๆที่หลังคาต่ำๆ ที่พระพุทธเจ้าเข้าไป หลังคา ก็สูงขึ้น
แต่เวลานี้เราเห็นพระพุทธเจ้ายืนพนมมือ อุปาทานคือกิเลสคงกินใจมาก
เมื่อนึกเพียงเท่านี้ ก็เห็นภาพ หลวงพ่อปาน ปรากฏขึ้นข้างๆ ท่านบอกว่า
“คุณ…..ไม่ใช่อุปาทาน ประเดี๋ยวพระพุทธเจ้าองค์ปฐมจะเสด็จมา”

อีกประมาณสัก 5 นาที ปรากฏว่ามีพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง รูปร่างใหญ่โตมาก สูงมาก มาในรูปของปางนิพพาน
เดินมาระหว่างช่องกลาง พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ก้มศรีษะแสดงความเคารพ เพราะพนมมืออยู่แล้ว

พอท่านเดินมาถึงอาตมา ท่านก็พูดว่า “ข้าจะนั่งที่ไหนหว่า….ในเมื่อไม่มีที่นั่ง ข้าเอาหัวแกเป็นแท่นก็แล้วกัน”
ก็เลยนั่งบนหัว

แล้วก็บอกว่า “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก่อนที่แกจะสอนกรรมฐานก็ดี จะพูดธรรมะก็ดี จะเทศน์ก็ดี
บอกฉันก่อน ฉันให้พูด ตอนไหนจะเทศน์ตอนไหน ให้ว่าตามนั้น”

ก็เป็นความจริงบรรดาท่านพุทธบริษัท เวลาสอนกรรมฐานก็ดี เทศน์ก็ดี
บางทีคิดว่าวันนี้ จะพูดเรื่องอย่างนี้ แต่พอพูดเข้าจริงๆ เรื่องนั้นไม่ได้พูด ไปพูดอีกจุดหนึ่ง
อันนี้เป็นลีลาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

การเทศน์ของพระพุทธเจ้ามุ่งเฉพาะบุคคลสำคัญคนใดคนหนึ่ง
ไม่ได้หวังคนทั่วไป คนจะนั่งสักหนึ่งพัน สองพัน ห้าพันก็ตาม
ท่านจะดูจิตใจว่า บุคคลใดจะรับคำเทศนาของท่านได้ จะสามารถบรรลุมรรคผลได้
ท่านจะจี้จุดเฉพาะคนนั้น เอาจุดเด่น แต่ว่าคนที่มีความดี ใกล้เคียงกัน ก็พลอยบรรลุมรรคผลไปตามๆกัน "
 
หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า สมเด็จองค์ปฐมทรงพระนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขีที่1”
แต่พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ผ่านไปแล้ว อาจจะมีชื่อซ้ำกันก็ได้ โดยเฉพาะ ชื่อนี้มีด้วยกันถึง 5 พระองค์
จึงเรียกขานกันว่าเป็น “สมเด็จพระพุทธสิกขีที่ 1”
พระองค์จึงทรงเป็นต้นพระวงศ์ ของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
จึงสมควรยกย่องพระองค์ว่าทรงเป็น “สมเด็จองค์ปฐมบรมครู" อย่างแท้จริง
 
ครั้งหนึ่ง พระพุทธองค์เสด็จมาเล่าให้หลวงพ่อฟังที่บ้านสายลมว่า สมัยที่พระองค์ทรงอุบัติในโลกมนุษย์
ในเวลานั้นคนมีอายุขัย ประมาณ 8 หมื่นปี พระองค์เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์เมื่อพระชนมายุได้ 4 หมื่นปี
 หลังจากทรงผนวชแล้วเป็นเวลาอีก 2 หมื่นปี จึงได้ทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ
ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์แรกของโลก

พระองค์ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์อีกประมาณ 2 หมื่นปี จึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน
หลังจากทรงใช้เวลาอันยาวนานถึง 40 อสงไขยกัป
ในการบำเพ็ญพระบารมี เพื่อแสวงหาพระโพธิญาณด้วยพระองค์เอง



สมเด็จองค์ปฐม โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)


ประวัติสมเด็จองค์ปฐม(พระพุทธเจ้าพระองค์แรก)
http://www.jaksuyan.com/forum.php?mod=viewthread&tid=1




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 มกราคม 2012, 23:19:37 โดย ไชยา » บันทึกการเข้า
=
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 7894
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,463


« ตอบ #2 เมื่อ: 03 มกราคม 2012, 23:12:23 »

คำสอนของสมเด็จองค์ปฐม (1)
 
" ดูก่อนท่านทั้งหลาย ท่านที่มาประชุมทั้งหมดจะเป็นเทวดาก็ดี นางฟ้าก็ดี พรหมก็ดี ขอทุกท่านจงอย่าลืมความตาย นั่นหมายถึงว่า การจุติ ลืมความเป็นทิพย์เสียอย่าเพลิดเพลินเกินไปอย่ามีความสุขเกินไปและมันจะทุกข์ทีหลัง จงดูภาพมนุษย์ว่ามนุษย์เมืองไหนบ้างที่น่าเกิด ดินแดนไหนที่มีความสุขไม่มีการงาน เราจะมองไม่เห็นความสุขของมนุษย์ เมืองมนุษย์มีแต่ความทุกข์ ต้องประกอบกิจการงานทุกอย่าง ต้องกระทบกระทั่งกับอารมณ์ มีความปรารถนาไม่ค่อยจะสมหวัง ทุกอย่างต้องใช้แรงงาน แต่ว่ามาเป็นเทวดา มาเป็นนางฟ้า ทุกอย่างหมดสิ้น นั่นหมายความไม่ต้องทำอะไรทั้งหมด ร่างกายอิ่มเป็นปกติ ร่างกายเยือกเย็นอบอุ่นไม่ต้องห่มผ้าและมีความปรารถนาสมหวัง ก็หมายความถ้าจะไปทางไหน ก็สามารถลอยไปถึงที่นั่นได้ทันทีทันใดความป่วยไม่มีความแก่ไม่มี ร่างกายไม่มีการเปลี่ยนแปลง ความเป็นทิพย์อย่างนี้ ท่านทั้งหลายจงอย่ามัวเมา จงอย่ามีความเข้าใจผิดว่า เราจะอยู่ที่นี่ตลอดกาลตลอดสมัย ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะอายุเทวดาก็ดี นางฟ้าก็ดี พรหมก็ดี มีอายุจำกัดตามบุญ วาสนาบารมี ถ้าหมดบุญ วาสนาบารมี ก็ต้องจุติคือตาย แต่ว่าท่านทั้งหลาย จงอย่าลืมว่า เทวดาก็ดี นางฟ้าก็ดี พรหมทั้งหมดที่นั่ง อยู่ที่นี่ทั้งหมด แม้แต่จะเป็นพระอริยเจ้า ที่ท่านเป็นพระอริยเจ้าก็มาก จงอย่าลืมว่าทุกท่าน ยังมีบาปติด ตัวอยู่ และการสะสมบาปมาเป็นชาติๆ ยังมีมากมาย "
 
(พอพระพุทธเจ้าตรัสอย่างนี้ บรรดาท่านทั้งหลาย อาตมาก็ใช้กำลังใจ ดูร่างกายเทวดา นางฟ้ากับพรหม เห็นเงาบาปอยู่ใน หนามาก เป็นอันว่าทุกองค์ ต่างองค์ ต่างมีบาป แต่ก็มาเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหมได้ แล้วก็ดูตัวเองเวลานั้น ร่างกายของตัวเอง ก็เป็นทิพย์ บาปมันก็ท่วมท้นเหมือนกัน ต่อไปองค์ สมเด็จพระภควันต์ทรงตรัสว่า)
 
" ภิกขุเว..ดูก่อนภิกษุ ทั้งหลาย (เวลานั้นมีพระมาด้วยหลายองค์) และท่านทั้งหลาย ที่นั่งอยู่ที่นี่ทั้งหมดจงอย่าลืมว่า ทุกท่านมีบาป ติดตัวมามากมาย อาศัยบุญเล็กน้อย ก่อนจะตายจิตใจนึกถึงบุญก่อน จึงได้มาเกิดบนสวรรค์บ้าง มาเกิดบนพรหมบ้าง ถ้าหากว่าท่านจุติเมื่อไร โน่น นรก (ท่านชี้มือลงเห็นนรก ไฟสว่างจ้า แดงฉานไปหมด) ท่านทั้งหลายจะต้อง พุ่งหลาวลงนรก เพราะใช้กฎของกรรม คือบาป ชำระหนี้บาป กว่าจะมาเกิดเป็นคน ก็นานหนักหนา และมาเป็นคนแล้ว ก็ไม่แน่ว่าจะได้กลับมาเป็นเทวดา นางฟ้า หรือพรหมใหม่ ทั้งนี้เพราะอะไร ก็เพราะว่าเป็นคนอาจจะทำบาปใหม่ อาจลงนรกไปใหม่ก็ได้ ฉะนั้นเมื่อท่านทั้งหลายมาถึงที่นี่ มาอยู่สวรรค์ก็ดี พรหมก็ดี เป็นทางครึ่งหนึ่งของนิพพาน ระหว่างมนุษย์กับนิพพาน เป็นอันว่าท่านทั้งหลายได้ครึ่งทาง การมาได้ครึ่งทางของท่าน ท่านทั้งหลายจงดูนั่นนิพพาน "
 
(ท่านยกมือชี้ขึ้นให้ดูพระนิพพาน เวลานั้นเทวดานางฟ้ากับ พรหมทั้งหมด อาตมาก็เหมือนกัน เห็นพระนิพพานไสวสว่างจ้า มีวิมานสีเดียวกันคือ สีแก้ว แพรวพราวเป็นระยับ เป็นแก้วสีขาว พระอรหันต์ทั้งหลาย ที่อยู่ที่นั่น มีความสุขขนาดไหน มีความเข้าใจหมด รู้หมดเห็นหมด แล้วองค์สมเด็จพระบรมสุคตก็ทรงกลับมาพูดกับเทวดากับนางฟ้าใหม่ว่า)



ประวัติสมเด็จองค์ปฐม(พระพุทธเจ้าพระองค์แรก)
http://www.jaksuyan.com/forum.php?mod=viewthread&tid=1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 มกราคม 2012, 23:20:05 โดย ไชยา » บันทึกการเข้า
=
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 7894
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,463


« ตอบ #3 เมื่อ: 03 มกราคม 2012, 23:14:08 »

" ฤาษี เทวดาเขาไม่ต้องบวช อย่างเทวดาชั้นยามาก็ดี ชั้นดุสิตก็ดี อย่างนี้ เขามีศีลครบถ้วนบริบูรณ์ทั้ง 227 เหมือนกับความเป็นพระ พรหมก็ตามก็เช่นเดียวกัน ทุกท่านอยู่ด้วย ธรรมปีติ ทุกท่านอยู่ด้วยความสุข เขาไม่อาบัติ สิ่งที่จะเป็นอาบัติไม่มี สิ่งที่จะเป็นบาปไม่มี "
 
(แล้วท่านก็กลับ หันหน้าไปหาเทวดา นางฟ้า กับพรหมว่า)
 
" ขอทุกท่านจงอย่าลืมคิดว่า เราจะเป็นผู้มีศีล ให้ตั้งเฉพาะศีล 5 ก็ดี ศีล 8 ก็ได้ ศีล 10 ก็ได้ กรรมบถ 10 ก็ได้ ศีล 227 ก็ได้ ตั้งใจไว้ว่า เราจะไม่ละเมิดศีล หลังจากนั้นจึงมีจิตใช้ปัญญาคิดว่า การเกิดเป็น เทวดาก็ดี เป็นนางฟ้าก็ดี มีสภาพไม่เที่ยงจะต้องมีการจุติเป็นวาระสุดท้ายในเมื่อการจุติเกิดขึ้น อารมณ์จะทุกข์ จงคิดไว้เสมอว่า เราจะต้องจุติ ในเมื่อเราจะต้องจุติ เราจะไม่ยอมลงอบายภูมิ เราจะไม่เกิด เป็นมนุษย์ ท่านทั้งหลาย จงดูภาพของมนุษย์ (แล้วพระองค์ก็ชี้มาที่เมืองมนุษย์) มนุษย์เต็มไปด้วยความวุ่นวาย มนุษย์เต็มไปด้วยความโสโครก มนุษย์เต็มไปด้วยความทุกข์ มนุษย์เต็มไปด้วยการงานต่างๆ มนุษย์มีความหิว มีความกระหาย มีความอยาก มีความต้องการไม่สิ้นสุด สิ่งทั้งหลายที่ก่อสร้างขึ้นมาแล้ว จะเป็นทรัพย์สินยังไงก็ตาม ในเมื่อเราตายจากความเป็นมนุษย์ เราก็หมดสิทธิ์ อย่างบางท่านเป็นพระมหากษัตริย์ อยู่ในพระราชฐานดีๆ สร้างไว้เป็นเป็นที่หวงแหน คนภายนอกเข้าไม่ได้ เข้าได้แต่คนภายในแต่ว่าท่านทั้งหลาย เมื่อตายมาแล้วกลับไปเกิดเป็นคน หากว่าท่านไม่ได้เกิดในตระกูลกษัตริย์ตามเดิม ท่านเป็นประชาชนคนภายนอก ท่านจะไม่มีสิทธิ์เข้าเขตนั้นเลย ทั้งๆ ที่เป็นของที่ท่านสร้างเอาไว้ ท่านทำเอาไว้ทุกอย่าง แล้วท่านจะไม่มีสิทธิ นี่ความไม่แน่นอนของความเป็นมนุษย์ มันเป็นทุกข์อย่างนี้ ถ้าเกิดเป็นคนก็ต้องหยุด ต้องเดินไปเดินมา ทำกิจการงานทั้งวัน เพื่อผลประโยชน์หน่อยเดียวคือเงิน ถ้าไม่มีเงิน ก็ ไม่สามารถจะมีชีวิตทรงตัวอยู่ได้ เพราะมีความจำเป็นต้องหาเงิน "
 
(ในเมื่อท่านตรัสอย่างนี้แล้วก็บอกว่า)
 
" จงอย่าคิดเป็นมนุษย์ต่อไป ตัดความเป็นมนุษย์เสีย เลิกความหมายความเป็นมนุษย์ เห็นว่าโลกมนุษย์เป็นทุกข์ มนุษย์มีสภาพไม่เที่ยง ไม่มีการทรงตัว มีความเกิดขึ้นและมีความเปลี่ยนแปลง มีความแก่ มีความป่วย ในการพลัดพรากจากของรักของชอบใจ มีความตายในที่สุดและจงอย่าอยากเป็นเทวดา อยากเป็นนางฟ้า เป็นพรหมต่อไป เพราะเทวดา นางฟ้ากับพรหม ก็มีสภาพไม่เที่ยงเหมือนกัน เมื่อมีความเกิดขึ้นไนเบื้องต้น ก็มีความเปลี่ยนแปลงไปธรรมดา ก็มีความจุติไปในที่สุด ทุกคนหวังนิพพานเป็นที่ไป ตั้งใจไว้เสมอว่า เราจะเป็นผู้มีศีล เราจะนับถือพระไตรสรณคมน์ คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ แล้วก็เราจะต้องจุติในวันข้างหน้า ตถาคตมีความรู้สึกว่าท่านทั้งหลายที่เป็นเทวดานางฟ้าพรหมเก่าๆ มีความเข้าใจดีแล้ว คำว่าเข้าใจ บรรดาท่านพุทธบริษัท หมายถึงว่า เขาปฏิบัติได้ นี่คืออารมณ์พระโสดาบันกับอารมณ์พระอรหันต์ สำหรับเทวดา นางฟ้าและพรหมใหม่ๆ จงตั้งใจไว้เสมอว่า จงลืมความเป็นทิพย์เสีย อย่าเพลิดเพลินเกินไป อย่ามีความสุขเกินไปและมันจะทุกข์ทีหลัง ตั้งใจคิดว่าความสุขที่ได้มานี่ เราได้มาจากบุญเล็กน้อยเท่านั้นและบาปใหญ่ที่ขังอยู่ที่ตัวเรายังมีอยู่ ถ้าเราเผลอไม่สร้างความดี ในเมื่อจุติความเป็นเทวดาหรือพรหมในภพนี้แล้ว ทุกคนจะต้องลงอบายภูมิ จงดูภาพนรกว่าขุมไหนบ้างที่น่าอยู่น่ารัก มันไม่น่าอยู่ ไม่น่าเกิด ดินแดนไหน ที่มีความสุข ไม่มีการงาน เราจะมองไม่เห็นความสุขของมนุษย์และก็ดูเทวดา นางฟ้ากับพรหม มนุษย์ที่เดินเกลื่อนกล่น ทุกคนอยู่ในเมืองมนุษย์ เคยเป็นเทวดา เคยเป็นนางฟ้า เคยเป็นพรหม มาแล้วแต่ว่าท่านทั้งหลาย จงตั้งใจไว้เฉพาะนิพพาน จงดูภาพพระนิพพานให้ชัดเจนแจ่มใสว่าดินแดนพระนิพพานไม่มีที่สิ้นสุด... "
 
(เมื่อพระองค์ตรัสเพียงเท่านี้ พระองค์ก็จบ)
 
(คัดย่อจาก หนังสือธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 139 เดือนกันยายน 2535เรื่อง ชวนเทวดา นางฟ้า พรหม ไปนิพพาน)



ประวัติสมเด็จองค์ปฐม(พระพุทธเจ้าพระองค์แรก)
http://www.jaksuyan.com/forum.php?mod=viewthread&tid=1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 มกราคม 2012, 23:20:33 โดย ไชยา » บันทึกการเข้า
=
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 7894
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,463


« ตอบ #4 เมื่อ: 03 มกราคม 2012, 23:15:49 »

อานิสงส์การสร้างสมเด็จองค์ปฐม
 
หลวงพ่อ : ช่างมาถามเกี่ยวกับลักษณะองค์ปฐม อาตมาบอกสร้างแบบพระพุทธรูปธรรมดา แต่ต้องอ้วนหน่อยนะ คือมีเนื้อมากหน่อย
ไม่ใช่อ้วนพุงพลุ้ยนะ และก็เวลาลงไปสอนกรรมฐาน เมื่อเสร็จแล้วเขาก็คุยกัน เขาก็ถามปัญหา ถามไปถามมา
เขาถามถึงพระพุทธเจ้าองค์ปฐมว่า ถ้าจะสร้างจะมีอานิสงส์อย่างไร ลุงสองลุง นายบัญชี กับลุงพุฒิ ท่านมายืนอยู่นานแล้ว
ท่านไม่มีโอกาสคุย เพราะอาตมาขึ้นไปคุยกับพระซะ ท่านบอกว่า การสร้างองค์ปฐมนี่ ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่ เอาบัญชีมาให้ดู

บอกนี่…บัญชีเล่มนี้ (คือว่าเป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่ที่จดธรรมดา) "บัญชีทอง" เป็นทองคำล้วนทั้งเล่มเลย
ท่านบอกถ้าสร้างองค์ปฐมลงบัญชีเล่มนี้ โดยเฉพาะ ก็แสดงว่าคนที่สร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี่ ต้องเป็นคนมีบุญมาก….หรือไง
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเงินมากนะคือว่าโดยมากเราจะนึกไม่ถึงกันใช่ไหม เรานึกกันถึง พระกกุสันโธ พระโกนาคม พระพุทธกัสสป
แต่ยังไม่เคยนึกถึงองค์ปฐม ส่วนใหญ่ไปนึกถึงพระศรีอารีย์ ยังไม่เป็นพระพุทธเจ้าใช่ไหม นี่องค์นี้เป็นองค์แรกก็คุยกัน

แล้วท่านบอกว่า การสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมทำได้ยาก คือว่าเป็นพระพุทธเจ้าต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด ใช้ไหม
และการทำบุญเนื่องในการสร้างวิหารก็ดี สถานที่ก็ดี เอาของไปประดับก็ตาม ที่นี้อย่างคนมีเงินน้อยๆใช่ไหม ก็มีสตางค์ไม่มาก
เอาสตางค์ 9 สตางค์ 10 สตางค์ไปใส่แท่น อย่างนี้ลงบัญชีทองหมด คือไม่หมายความต้องมีเงินมากเสมอไปนะ
ที่เขามีน้อยๆ บากสองบาท 10 สตางค์ 20 สตางค์ พวกนี้เอาไปใส่แท่น อย่างนี้ลงบัญชีทองหมด
ก็ถามว่า บัญชีทองหมายถึงอะไร ท่านบอก มันหมายถึงกลับไม่ได้ เพราะว่าพระพุทธเจ้าทุกองค์ต้องโมทนาหมด
 
ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ การหล่อองค์ปฐมด้วยทองคำนี่อานิสงส์จะเหมือนกับหล่อพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
หรือว่าจะแตกต่างกันอย่างไรครับ ถ้าเป็นทองคำเหมือนกัน
 
หลวงพ่อ : ก็มีอานิสงส์เหมือนกัน แต่ว่าต่างกันอยู่นิดหนึ่ง ที่ไปนิพพานเร็ว ไปนิพพานเร็วมาก เพราะเขาเข้าบัญชีสีทอง
ไม่ใช่ตัวทอง บัญชีทั้งเล่มเป็นทอง ลงบัญชีเล่มนั้น
 
ผู้ถาม : หมายถึงเป็นเจ้าภาพหล่อองค์ปฐมนี่หรือครับ
 
หลวงพ่อ : ใช่ ๆๆ จะทองคำก็ดี จะเป็นเงินก็ตาม…..เหมือนกันลงบัญชีเล่มเดียวกัน
 
(จาก หนังสือประวัติการสร้างสมเด็จองค์ปฐม และคำสอนสมเด็จองค์ปฐม)



ประวัติสมเด็จองค์ปฐม(พระพุทธเจ้าพระองค์แรก)
http://www.jaksuyan.com/forum.php?mod=viewthread&tid=1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 มกราคม 2012, 23:21:07 โดย ไชยา » บันทึกการเข้า
=
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 7894
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,463


« ตอบ #5 เมื่อ: 03 มกราคม 2012, 23:42:12 »



สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๕
พี่ป๋าไชยา
และ สมช. ทุกๆ ท่าน love
ในปีใหม่นี้ขอตั้งจิตอธิษฐาน....

...ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย
และสิ่งศักดิ์ในสากลโลก
ช่วยดลบันดาลให้ทุกๆ ท่าน และครอบครัว
มีสุขภาพแข็งแรง
มีความสุขความเจริญ 
ร่ำรวยเงินทองยศฐาบรรดาศักดิ์
เจริญในหน้าที่การงาน 
มีโชคมีลาภ 
มีคนนับหน้าถือตา
อุปถัมภ์ค้ำชูคอยเกื้อกูล
คอยช่วยเหลือ  ชนะใจผู้คิดร้าย
มีความสุขเจริญยิ่งขึ้นๆ ด้วยเทอญ.
t[:

j|b .....พิมพ์ชนก ล่ะจ้า




love love


ไปด้วยกัน  ไปด้วยกัน     ไปด้วยกัน j|b ไปด้วยกัน     ไปด้วยกัน  ไปด้วยกัน






โพสครั้งเดียวสองวาระเลยนิ  ขอไปเล่นเกมซ่อนตาดำก่อนค่ะ  ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย



ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่
ขอให้ท่านสุขกายใจทั้งผอง
คิดสิ่งใดขอให้สมดั่งใจปอง
จิตใสผ่องเพริศแพร้วดุจแก้วกาญจน์
ความทุกข์โศกโรคภัยมลายสิ้น
ยามอยู่กินสุขโขสโมสร
มีโชคลาภมีความรักเอึ้ออาทร
ชื่อขจรเสียงขจายไปแสนนาน


ขอให้ นู๋พิมพ์ของพี่ป๋า มีความสุขตลอดปี 2555 ครับ
love อิอิ ลิ้น ส่งใจ love
บันทึกการเข้า
jiranan78900
Full Mb3
***

พลังน้ำใจ: 9
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 102


« ตอบ #6 เมื่อ: 26 เมษายน 2017, 08:52:59 »

 Hi สอบถามข้อมูลหน่อยค่ะ  Hi เกมส์ไฮโล
บันทึกการเข้า
แท็ก:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค "เว็บมหาชน คนมหาโชค"
 
คติ "กินอยู่อย่างพอเพียง เสี่ยงโชคแต่พอควร"
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย
คำเตือน -ทางเว็บไม่ได้ทราบเป็นการล่วงหน้าว่าหวยทางกองสลากจะออกตัวไหน แต่เราใช้การวิเคราะห์หรือประเมินตามหลักสถิติ
หรือวิธีการอื่นว่า เลขที่มีโอกาสออกมากที่สุดในแต่ละงวดควรจะเป็นเลขอะไรเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ การเล่นหวยถือว่ามีความเสียงมาก
Sitemap | Contact | WAP | xHTML | iMode | WAP 2 | RSS

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines | Sitemap
อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน ©
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.491 วินาที กับ 23 คำสั่ง
Copyright (c) 2008-2022 apichokeonline.com