อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน
25 เมษายน 2024, 07:28:54 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
"สนับสนุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น"

ผลงานห้อง VIP (งวด 16 เม.ย.67)
อ.apichoke ถูกสามตัวสลับ 589 ถูกตัวกลับเลขท้าย รว.ที่๑ 89 ถูกเลขท้าย๒ตัว 79
ถูกปักหลักสิบเต็มๆ 9 เลขเด่นวันหวยออก ถูกเด่น 5

ออก 598-79
   หน้าแรก   หวยรัฐบาล SUPER VIP หนังสือหวย VIP สมัคร vip ช่วยเหลือ แท็ก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก Register  
ฝากภาพ i-pic
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 [9] 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แล้วใครล่ะ...จะไม่รัก..  (อ่าน 829667 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #200 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2014, 09:43:42 »





<a href="http://www.youtube.com/v/d4C1lA5zrtc?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color3=00FFFF&amp;amp;&amp;aborder=&amp;autoplay=1&amp;loop=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/d4C1lA5zrtc?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color3=00FFFF&amp;amp;&amp;aborder=&amp;autoplay=1&amp;loop=1</a>




"...ศรีสิทธิเตชา มหาภูมิพโล บรมโพธิสัตว์
 เสด็จอุบัติบังเกิด ประเสริฐสุดสูงส่ง เสด็จทรงบริบาล
 ผ่านมหาเศวตฉัตร เป็นรัชกาลที่เก้า พระนวมินทร์มหาราช
 ประชาชาติจงรัก ถวายภักดีพร้อม ถวายน้อมนำมาลย์
ถวายกรานสักการะ ถวายพระพรชัย
 ถวายใจทุกดวง ของปวงพสกนิกร
 ถวายพระภูธรแทบเบื้องบาทา

อนึ่งข้าพระพุทธเจ้า จักขอสักการ
 ดวงพระวิญญาณ บูรพกษัตรา
 แลเทพยดาโดยรอบจักรวาฬ พรหมานโสฬส
 จรดพระนิพพาน อันพระผู้ทรงญาณ
สัพพัญญูตรัสรู้ประทับ กับทั้งพระอรหันตขีณาสวะทั้งหลาย ดังสาธยายยกมา

ทรงโมทนาสาธุการ ในทักขิณานุประทาน
อันพระภูบาล ทรงพระกรุณาบำเพ็ญบุญญาอุทิศถวาย
 ขอปวงเทพเจ้าทั้งหลาย ถวายพระพรสรรเสริญ
ให้ทรงพระเจริญ เลิศล้วนลาภา จำเริญพระชันษา
 มายุยืนนาน ปราศพ้นภัยพาล หมู่มารมลาย
 ที่คดกลับกลาย ที่ร้ายกลับดี ขอพระภูมี มีพระพลานามัย

ขอพระรัตนตรัย พรใดบันดล
 ถวายพระภูมิพล เทิดถกลกษัตริย์เทอญ"


คัดลอกช่วงท้ายของ
'บทบวงสรวงสมเด็จพระบุรพมหากษัตราธิราช'
ในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี
อ่านโดย ราชครูวามเทพมุนี
 ประพันธ์โดย อาจารย์วัลลภิศร์ สดประเสริฐ


ท ร ง พ ร ะ เ จ ริ ญ ยิ่ ง ยื น น า น
ทีฆายุโก โหตุ มหาราชา
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
 ทรงพระเกษมสำราญ ตลอดกาล ตลอดไป
 เป็นมิ่งขวัญให้ปวงชนชาวไทย ตราบนานเท่านาน
 ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

 

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 พฤศจิกายน 2016, 14:34:04 โดย FIRE » บันทึกการเข้า

FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #201 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2014, 10:03:24 »



มีอะไรใน "บ้านพ่อ"
คุณรู้ไหมเอ่ย ว่าใน “บ้าน” ของพระเจ้าอยู่หัว มีอะไรบ้าง


คลิกเข้าชมตามลิงค์

http://www.siamdrama.com/view-1721.html


พระตำหนักจิตรลดารโหฐานพระราชวังดุสิต
หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า “วังสวนจิตร” ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตดุสิต
 กรุงเทพมหานคร เป็นผืนดินรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีเนื้อที่กว่า ๔๐๐ ไร่
ในบริเวณร่มรื่นด้วยแมกไม้ใหญ่น้อย มีคูน้ำล้อมรอบทั้ง ๔ ด้าน
ถ้าเดินผ่านจะเห็นว่า น้ำในคูรอบวังสวนจิตรจะใส มีปลาน้อยใหญ่
เช่นปลานิล และปลาช่อนลอยตัวอย่างสบายใจ เพราะมีทหารถือปืนเฝ้า
วังสวนจิตรฯสร้างขึ้น ในสมัยของรัชกาลที่ ๕ ค่ะ
 จัดเป็นอาณาบริเวณส่วนหนึ่งของพระราชวังดุสิต จนในสมัยรัชกาลที่ ๖
 ผู้เป็นบิดาแห่งวงการประพันธ์ พระราชอัธยาศัยของกษัตริย์นักประพันธ์
จึงโปรดการประทับในที่เงียบสงัด เช่นเดียวกับนักเขียนทั้งหลาย
 พอปี ๒๔๕๖ จึงโปรดให้ใช้เงินพระคลังข้างที่สร้างพระตำหนัก
 "จิตรลดารโหฐาน"นี้ขึ้น ณ บริเวณที่เรียกกันว่า
 “ทุ่งส้มป่อย” (สงสัยจะมีต้นส้มป่อยเยอะ)
ชื่อของพระตำหนักนั้นมาจากชื่อพระตำหนักเดิมในวังปารุสกวัน
 แต่มาเพิ่มสร้อยว่า “รโหฐาน” เข้าไปรวมเป็น
 “พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน”
คำว่า “รโหฐาน” คือ “ที่เฉพาะส่วนตัว”
เพราะพระราชประสงค์ให้พระตำหนักแห่งนี้เป็นที่เงียบสงัด
 ไว้ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือต่างๆ และเป็นสถานที่ประทับส่วนพระองค์
ที่ไม่ใช่ท้องพระโรงที่ใช้ในการพระราชพิธีอย่างพระบรมมหาราชวัง
แต่หลังจากที่รัชกาลที่ ๖ เสด็จสู่สวงสวรรค์แล้ว พระตำหนักนี้ก็มิได้ถูกใช้
 จนกระทั่งในปี ๒๔๙๗ หรือ ๙๘ ในหลวงของเราทรงมีพระราชดำริ
ให้ซ่อมแซมต่อเติม และประทับมาตลอดหลังแล้วเสร็จในปี ๒๕๐๐
 (เห็นแววต้นแบบ "พ่อแห่งความพอเพียง" แต่แรก เพราะทรงซ่อมแซมเพื่อใช้ แทนที่จะสร้างใหม่)
วังสวนจิตรฯ เต็มไปด้วยบ่อเลี้ยงปลา ไร่นาทดลอง โรงโคนม
โรงสีและสารพัดโรงงานที่หลากหลาย มีรายการยาวเหยียด
วันนี้จะเอามาให้ตาเหลือกกันแค่“ครึ่งวัง” เท่านั้น เกาะตามแผนที่กันไปเลยนะคะ
๑. บ้านพลังงานแสงอาทิตย์
ในปี ๒๕๓๙ กรมการพลังงานทหาร ได้น้อมเกล้าฯ ถวาย บ้าน
 "พลังงานแสงอาทิตย์" พร้อมด้วยอุปกรณ์ต่างๆ
 เพื่อทรงใช้ในการทดลองเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์
 ซึ่งเป็นพลังงานทดแทนในอนาคตเพื่อเผยแพร่ความรู้สู่ราษฎรต่อไปปัจจุบัน
 ถ้าคุณไปในถิ่นทุรกันดาร จะเห็นแผงโซล่าร์เซลล์
ขนาดไม่โตนัก ตั้งอยู่ในเขตบ้านเรือนคน ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้นั่นเป็นเศษเสี้ยวจากโครงการนี้ค่ะ
๒. ศูนย์คอมพิวเตอร์
จัดขึ้นเพื่อให้โครงการเข้ามาตรฐานสากล มีการทำบาร์โค๊ดให้สินค้า
 จัดเก็บข้อมูลในการศึกษาวิจัย และเผยแพร่ข่าวสารอีกด้วย
 (เช่นข้อมูลเหล่านี้... จากเวบกาญจนาภิเษก ๑ ในโครงการนี้เอง )
๓. โรงโคนมสวนจิตรลดา
ก่อตั้ง เมื่อ ๑๒ มกราคม ๒๕๐๕ เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่การเลี้ยงโคนม
โดยสาธิตให้เป็นตัวอย่างแก่เกษตรกร รวมถึงเพื่อศึกษา
ค้นคว้าและทดลองเทคนิคการเลี้ยงโคนมแบบที่มีประสิทธิภาพ
จึงค่อยเผยแพร่ไปสู่เกษตรกร ครั้งแรกได้มีผู้ถวายโคเพศเมีย ๕ ตัว เพศผู้ ๑ ตัว
 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้โครงการส่วนพระองค์ฯ
 จัดการเลี้ยงโคร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์
และจำหน่ายนมสดที่รีดได้แก่สมาชิกของโรงโคนมสวนจิตรลดา
ทั้งยังพระราชทานลูกวัวเพศผู้เป็นวัวพันธุ์
 และแม่โคที่คัดออกแก่ผู้ที่สนใจไปหัดรีดนม
 ปัจจุบันนี้โรงโคนมสวนจิตรลดานี้เลี้ยงโคประมาณ ๔๐ ตัว (ข้อมูลปี ๔๘)
๔. ศูนย์รวมนม (มีถังพักนม และโรงนม UHT)
ช่วงต้นปี ๒๕๔๖ เกิดภาวะนมสดล้นตลาดขึ้นอีกครั้ง
 พระเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงนม UHT
แห่งนี้ขึ้นเพื่อรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร มาแปรรูปเป็นนมสดUHT
และนั่นคือที่มาของโรงนม UHT จิตรลดาเมื่อสร้างขึ้น
ตามพระราชประสงค์ในการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม
 จึงทำหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริงและข้อมูลต่างๆ
 เพื่อแก้ไขปัญหานมสดล้นตลาด ซึ่งมักเกิดบ่อยๆ ที่สำคัญ
 โรงงานแห่งนี้จะผลิตนมสดพร้อมดื่มที่มีคุณภาพ
โดยไม่เน้นการผลิตเพื่อการพาณิชย์และไม่แสวงหาผลกำไร
จากการดำเนินงาน เพื่อผู้บริโภคในเขตกรุงเทพฯ และผู้ที่อยู่ห่างไกล
 อาจเคยกินกันมาบ้าง นมถุงแช่เย็นไงคะ คราวหน้า
 มองหาตรา "สวนจิตรลดา" นะคะ
๕. โรงเนยแข็ง
สร้างขึ้นในวโรกาสมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๕ รอบ เมื่อปี ๒๕๓๐
 หลังศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตเนยแข็ง
 เพื่อการค้นคว้าทดลองและส่งเสริมแนะนำเป็นอาชีพต่อไป
 โดยได้รับความช่วยเหลือ ด้านเครื่องมือและการฝึกอบรม
ในการผลิตเนยแข็งจากประเทศเนเธอร์แลนด์ สมเด็จพระเทพฯ
 ได้พระราชทานชื่อเนยแข็งว่า “เนยแข็งมหามงคล”
สไลด์เป็นแผ่นบางๆ เหมาะแก่การแปะบนขนมปังแผ่น
 และมีกล้วยหอมประกบยิ่งนัก (กล่องแบนๆ มีตราสีเหลือง โปรดมองหา)
ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้มีผลิตภัณฑ์จากนมหลากหลายชนิด
 เช่น เนยแข็งปรุงแต่ง นมปราศจากไขมัน นมเปรี้ยวพร้อมดื่ม
 เนยสด โยเกิร์ต นมข้นหวาน และไอศกรีม
๖. โรงนมผงสวนดุสิต (มีโรงนมผงเพิ่มแล้ว ในปัจจุบัน)
เกิดขึ้นเพราะ ปี ๒๕๑๒ เกิดภาวะนมสดล้นตลาด
 กลุ่มผู้เลี้ยงโคนมได้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาให้ทรงช่วยเหลือ
 จึงได้ทรงจัดตั้งโรงงาน"นมผง" ขึ้น เพื่อผลิตนมผง
จากนมสดของเกษตรกรสมาชิกผู้เลี้ยงโคนม
 นมผงของที่นี่มีคุณภาพและราคาถูก
พระราชดำริในครั้งแรกเมื่อตั้งโรงนมผงแห่งนี้คือ
 เพื่อเป็นโรงงานตัวอย่างให้แก่เกษตรกรและผู้ที่สนใจ
ได้มาเห็นและศึกษาวิธีการทำนมผง
 ซึ่งโรงงานแห่งนี้ใช้เงินเป็นค่าก่อสร้าง
และค่าอุปกรณ์เป็นเงินที่ต่ำมาก
 สามารถที่จะนำไปเป็นแบบอย่างได้ง่าย(ถูก - ดี - พร้อม)
๗. โรงนมเม็ด
ปี ๒๕๒๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำริ
ให้ปรับปรุงการจัดทำนมอัดเม็ดขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่งภายหลัง
จากที่เคยทดลองผลิตครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๑๒ แล้ว
 ซึ่งมีอุปสรรคทางเทคนิคทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้
 ปัจจุบันโรงนมอัดเม็ดแห่งนี้มีเครื่องตอกเม็ดนม ๔ เครื่อง
 เครื่องบรรจุลงถุง ๒ เครื่อง สามารถผลิตนมอัดเม็ดได้วันละ
 ๗๐๐๐-๑๒๐๐๐ ถุง ถุงหนึ่งบรรจุ ๒๐ เม็ด ปี ๒๕๓๒
 เริ่มการผลิตนมเม็ดช็อกโกแลต ปี ๒๕๓๙
 เริ่มผลิตนมเม็ดรสกาแฟเรื่อยมาจนถึงปี ๒๕๔๑
จึงปรับปรุงคุณภาพจนสามารถผลิตนมเม็ดสำหรับเลี้ยงสัตว์ได้
 ในปี ๒๕๔๔ มีการปรับปรุงและขยายพื้นที่โรงนมอัดเม็ด
 ทำให้มีพื้นที่กว้างขึ้นเพื่อรับการขยายตัวของการผลิตต่างๆ
สามารถรองรับการฝึกงานของนิสิตนักศึกษา
 และผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชม ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี
๘. ตรวจสอบ – ควบคุม คุณภาพ
๙. ธุรการ-การเงิน
๑๐. ห้องเย็น
เพื่อเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืช จากหน่วยปฏิบัติการเก็บรักษาพันธุ์พืช และผลิตภัณฑ์ต่างๆ
๑๑. ยุ้งข้าว
๑๒. โรงสีข้าว
ตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๑๔ เนื่องจากในปีนั้นได้มีผู้น้อมเกล้าฯ
ถวายเครื่องสีข้าวแบบต่าง ณ วันนี้โรงสีข้าวได้ใช้เครื่องสีข้าวขนาดเล็ก
 สีได้ครั้งละ ๑ เกวียนและได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างยุ้งฉางเก็บข้าวแบบต่างๆ รวมทั้งยุ้งฉางข้าวแบบสหกรณ์
 ซึ่งขณะนี้ได้ดัดแปลงให้สามารถนำข้าวเปลือกเข้า
 และออกจากยุ้งไปสู่โรงสีโดยที่ไม่ต้องมีคนแบกขน
๑๓. พัสดุ
๑๔. โรงบดแกลบ ปี ๒๕๑๘ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้จัดสร้างโรงบดแกลบแล้วอัดให้เป็นเชื้อเพลิงแท่ง
และทดลองเผาแกลบอัดแท่งให้เป็นถ่านได้ครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๒๙
(สิบปีกว่าค่ะ แต่ก็ทรงบากบั่น) นอกจากนี้ยังได้ผลิตแกลบบดผสมปุ๋ยเคมี
 หรือปุ๋ยคอกชนิดต่างๆ จำหน่ายซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก
ด้วยพระอัจฉริยภาพทรงค้นพบว่าแกลบที่อัดแล้ว
จะไม่สามารถรักษาเป็นแท่งอยู่ได้เมื่อถูกน้ำหรือฝน
จะแปรสภาพเป็นแกลบบดดังเดิม
 แต่เมื่อนำแกลบที่อัดเป็นแท่งแล้วไปเผาเป็นถ่าน
 แม้โดนน้ำก็ยังสามารถรักษาสภาพเดิมอยู่ได้
 พอออกมารูปทรงสวย หักเป็นชิ้นก็ง่าย ก็นิยมใช้กัน เพราะควันน้อย
ให้ความร้อนสูงอีกด้วย ในโรงบดยังมี “เตาอัดแกลบ”
ถ้าเรายังไม่ทราบว่า นอกจากแกลบแล้ว เศษไม้จากอุตสาหกรรม
 เช่น ซังข้าวโพด กะลา เปลือกยางกับเปลือกทุเรียน
 ก็ทำได้ค่ะ... โดยวัสดุประกอบก็เป็นพวก ฟางข้าว
 ผักตบชวาแห้ง แกลบ ฯลฯ เหล่านี้เป็นของ “หาได้ไม่ยาก” ทั้งสิ้น



โปรดอ่านต่อกระทู้ล่าง


  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 พฤศจิกายน 2016, 14:30:41 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #202 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2014, 10:17:12 »



 คลิกชมฝนหลวง ตามเสด็จพระราชดำเนินทอดหระเนตรกิจการฝนหลวง SP FILM
https://youtu.be/PvuTsghmdY4

๑๕. อนุรักษ์พันธุกรรมพืช
๑๖. เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช
๑๗. กรมวิชาการ
๑๘. ปลูกพืชปราศจากดิน
เพื่อทดลองสำหรับแก้ไขปัญหาพื้นที่ที่มีปัญหา และมีเนื้อที่จำกัด เพื่อให้ได้ผลผลิตสูง
๑๙. ธนาคารพันธุ์พืช (และมีธนาคารข้อมูลพันธุ์พืช)
เป็นโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ในสมเด็จพระเทพฯ ในปี ๒๕๓๕-๓๖ คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการ
 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้สนับสนุนงบประมาณให้แก่โครงการนี้
 เพื่อจัดสร้างธนาคารพืชพรรณ เป็นที่เก็บรวบรวมและรักษาพันธุกรรม
ของพืชทั้งในรูปของเมล็ดและเนื้อเยื่อ มีหน่วยงานปฏิบัติการเมล็ดพันธุ์พืช
 ห้องเย็นเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืช หน่วยปฏิบัติการเก็บรักษาพันธุ์พืช
โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ หน่วยปฏิบัติการกักกันพืช และสุดท้าย
 คือหน่วยปฏิบัติการชีวโมเลกุลพืช
 เพื่อศึกษาประเมินพันธุกรรมพืชด้านชีวเคมี
ส่วนธนาคารข้อมูลพันธุกรรมพืช เป็นงานต่อเนื่องจากโครงการอนุรักษ์ฯ
ด้วยสมเด็จพระเทพ ทรงมีพระราชดำริว่า
“การทำศูนย์ข้อมูลพันธุกรรมพืชโดยมีคอมพิวเตอร์นั้น
 ควรมีโปรแกรมที่สามารถแสดงลักษณะของพืชออกมาเป็นสีได้ เพื่อความสะดวก
ในการอ้างอิงและค้นคว้าของผู้ที่สนใจ”
โครงการนี้ดำเนินการจัดตั้งธนาคารข้อมูลพันธุกรรมพืช
 เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการพัฒนาพันธุ์พืช โดยจัดทำข้อมูลด้านการเก็บรวบรวม
 การประเมินพันธุกรรม การอนุรักษ์ และการใช้ประโยชน์
 อีกทั้งดำเนินการจัดทำข้อมูลพันธุกรรมพืช
 เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกแก่เยาวชนให้เห็นความงดงาม
 น่าสนใจจนเกิดความปิติที่จะทำการศึกษาอนุรักษ์พืชพรรณต่อไป
๒๐. โรงค้นคว้าน้ำมันเชื้อเพลิง
คงเคยดูโฆษณา “น้ำมันมะพร้าว” กันแล้วนะคะ
 เกิดที่นี่ค่ะ เมื่อปี ๒๕๒๘ พระบาทพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชกระแสรับสั่ง
 ให้ทดลองนำเอาแอลกอฮอล์ที่ผลิตจากอ้อยมาใช้เป็นเชื้อเพลิง
 ทรงคาดว่าในอนาคตอาจจะเกิดภาวะน้ำมันขาดแคลนหรือราคาอ้อยตกต่ำ
การนำเอาอ้อยมาแปรรูปเป็นแอลกอฮอล์เพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน
จึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีทางหนึ่ง โรงงานแห่งนี้ได้
ดำเนินการเรื่อยมาจวบจนปัจจุบันนี้ โดยเมื่อปี ๒๕๓๘
กลุ่มบริษัท สุราทิพย์ ได้น้อมเกล้าฯถวายระบบผลิตแอลกอฮอล์ ๙๕ %
 พร้อมอุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงอาคารใหม่เพื่อเป็นการ
เฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ ๕๐ ปี
 ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้สามารถผลิตแอลกอฮอล์ได้ถึง ๙๙.๕ %
วัตถุดิบหลักในการหมักคือ กากน้ำตาล แอลกอฮอล์ที่ใช้
ในการผลิตเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ , ดีโซฮอล์
 นอกจากนั้นโรงแอลกอฮอล์ยังได้ผลิตภัณฑ์จากแอลกอฮอล์อีกหลายชนิด
ไม่ว่าจะเป็น เจลล้างมือ สเปรย์ฉีดเท้า น้ำหอม
 โลชั่นกันยุง เพื่อจำหน่ายเป็นรายได้
เสริมหล่อเลี้ยงหน่วยงานอีกทางหนึ่งเจลล้างมือเป็นหลอดเล็กๆค่ะ
๒๑. ศาลามหามงคล
๒๒. วิจัยพัฒนา (ปัจจุบันมี ๒ จุด)
๒๓. สำนักงานขาย
๒๔. โรงหล่อเทียนหลวง
ปี ๒๕๒๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
 ให้จัดสร้างโรงหล่อเทียนหลวงสวนจิตรลดาขึ้น
 เพื่อใช้ผลิตเทียนหลวงที่ใช้ในการพระราชพิธีของสำนักพระราชวัง
แทนการฟั่นเทียนด้วยมืออย่างโบราณ
 เพื่อให้ได้เทียนที่มีคุณภาพที่ใช้ในการพระราชพิธีต่างๆ
 ในราชสำนัก ตลอดจนฝึกหัดบุคลากรให้มีความรู้
ความสามารถเพื่อลดงบประมาณแผ่นดินในการจัดซื้อ
 อ่านแล้ว... ยิ่งเชื่อมั่น ในหลวงทรงประหยัดที่สุดในวังสวนจิตรจริงๆ
๒๕. โรงน้ำผลไม้สวนจิตรลดา (พาสเจอร์ไรซ์)
ปี ๒๕๒๗ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา
ได้ผลิตน้ำส้มคั้นและน้ำอ้อยพาสเจอไรซ์
ตามแนวพระราชดำริ โดยใช้เครื่องพาสเจอไรซ์นมสดเดิม
 ซึ่งมีอายุการใช้งานเกือบ ๑๐ ปี (ในหลวงประหยัดจริงๆ)
เป็นโครงการแนะนำชาวไร่ส้ม และไร่อ้อย
 เพื่อแก้ไขปัญหาทางด้านการตลาดของส้มและอ้อย
นอกจากนี้แล้วโรงงานแห่งนี้ยังทำการผลิตน้ำกระเจี๊ยบพาสเจอไรซ์ออกสู่ตลาดเป็นโครงการแนะนำ
๒๖. โรงน้ำผลไม้กระป๋อง (ปัจจุบันมี ๒ จุด)
ปี ๒๕๓๕ มีพระราชดำริให้ก่อสร้างโรงน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง
 เพื่อเป็นโรงงานต้นแบบ และครบวงจรของการผลิตน้ำผลไม้
อันได้แก่ การผลิตน้ำผลไม้แบบเข้มข้น
 น้ำผลไม้แบบพาสเจอไรซ์ น้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง
 เพื่อเป็นต้นแบบให้แก่เกษตรกรและผู้ที่สนใจ
 สามารถเข้ามาศึกษานำความรู้ใน การผลิตน้ำผลไม้แต่ละชนิดไปใช้ประโยชน์ต่อไป
๒๗. โรงเพาะเห็ด
ปี ๒๕๓๑ มีพระราชดำริให้จัดสร้างโรงเพาะเห็ดชนิดต่างๆ
ขึ้นด้วยเศษวัสดุที่เหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อปลูกเห็ดชนิดต่างๆ
 เช่น เห็ดฟาง เห็ดหูหนู เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม เห็ดเป๋าฮื้อ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเห็ดหลินจือ...
นอกจากนี้ยังได้พระราชทานแนวพระราชดำริให้นำเอาเศษวัสดุ
ที่เหลือใช้จากการเพาะเห็ดมาทำเป็นปุ๋ยหมักอีกด้วย
๒๘. โรงกระดาษสา
เริ่มในปี ๒๕๓๖ โดยการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกระดาษสา
เป็นดอกไม้นานาชนิด และเป็นของชำร่วยที่สวยงาม
 มีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินงาน
 ดัดแปลงผลิตภัณฑ์จากกระดาษสาในรูปแบบเดียวกัน
เป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบต่าง ๆ ตามความเหมาะสมและความต้องการ
ของท้องตลาด โดยใช้วัสดุที่เหลือใช้จากกระดาษสาแปรรูป
เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่จนครบวงจร เพื่ออนุรักษ์ศิลปะความเป็นไทยจากผลิตภัณฑ์กระดาษสา
นอกจากนี้แล้วยังได้มีการนำปอสาไทยมาประยุกต์ผลิตเป็นกระดาษสาแบบญี่ปุ่นด้วย
 โดยผ่านการต้มและฟอกขาว ใส่สารยูรามีนเพื่อให้
เยื่อกระดาษกระจายตัวและเพิ่มความเหนียวและความเงาให้กระดาษสา
 ใช้ตะแกรงช้อนแบบญี่ปุ่นจะได้กระดาษสาแบบญี่ปุ่นที่มีความบางเรียบ
 สีสันสดใส เหมาะกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องเขียน
และงานบาติกในกลุ่มงานนี้ ยังประกอบด้วยกลุ่มงานหัตถศิลป์ที่น่าสนใจอีกเช่น
งานบาติก - การทำบาติกของโครงการส่วนพระองค์ฯใช้กรรมวิธีแบบโบราณ คือเขียนด้วยมือ
งานสกรีน - พิมพ์ลวดลายต่างๆ ลงบนกระดาษสา
 แล้วจึงใช้สีและยางปาดพิมพ์ผ่านแผ่นผ้าที่ต้องการให้เกิดลวดลาย
งานเครื่องหอมและของชำร่วย - ปัจจุบันนี้มีงานทั้งหมด ๗ชนิด
 คือ น้ำอบไทยสวนจิตรลดา น้ำปรุงสวนจิตรลดา ยาหม่องสวนจิตรลดา
ยาหม่องน้ำสวนจิตรลดา พิมเสนน้ำสวนจิตรลดา
 ยาดมส้มโอมือสวนจิตรลดา ออดิโคโลญ
(แน่นอน มีขายที่โกลเด้นเพลสค่ะ)
งานเกล็ดปลา - นำเอาเกล็ดปลาน้ำจืด รวมถึงปลาน้ำเค็มชนิดต่างๆ
 มาล้างให้สะอาด ปรับให้หอมและนุ่ม จึงย้อมสี ผึ่งแห้ง
 แล้วมาประดิษฐ์เป็นกลีบดอกไม้ชนิดต่างๆ
งานบุหงา - นำเอากลีบดอกไม้ชนิดต่างๆ มาตากแห้ง
 อบและร่ำให้หอมด้วยน้ำปรุงและน้ำหอม
 แล้วจึงนำใบยางที่ตากแห้งแล้วมาประกบทั้งสองข้างยึดให้
ติดกันด้วยกาวลาเทกซ์ชนิดใสตัดแต่งให้เป็นรูปบุหงา
พัดโบก ผีเสื้อ หรือรูปดอกไม้ตามความต้องการ
๒๙. เรือนเพาะชำ
๓๐. สาหร่ายเกลียวทองและผลิตภัณฑ์
๓๑. โรงอาหารปลา (สองโรงนี้ จะทำงานควบกัน)
เริ่มโครงการปี ๒๕๒๙ โดยได้รับการปรึกษาและแนะนำจากภาควิชาจุลชีววิทยา
 คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย รวมถึงสถาบันประมงน้ำจืด
แห่งชาติหลังการศึกษาวิจัยการผลิตอาหารปลาตามแนวพระราชดำริ
ทั้งแบบจมน้ำและแบบที่ลอยน้ำ จากการศึกษาพบว่า
 อาหารปลาที่มีสาหร่ายเกลียวทองผสม
 มีผลทำให้ปลาแฟนซีคราฟเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
 มีสีสันมากกว่าที่เลี้ยงจากอาหารปลาธรรมดา
และการเจริญวัยในการสืบพันธุ์เร็วขึ้นด้วย พอปี ๒๕๔๕
โรงอาหารปลาฯ ได้ก่อสร้างอ่างซีเมนต์ขึ้นอีก ๖ อ่าง
และสร้างห้องปฏิบัติการแปรรูปผลิตภัณฑ์สาหร่ายเกลียวทองเพิ่มขึ้น
ได้แก่ ห้องเพาะเลี้ยงเชื้อสาหร่ายเกลียวทอง ห้องตู้อบความร้อน
 ห้องแปรรูปผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบผสมสาหร่ายเกลียวทอง
 ห้องทอดข้าวเกรียบสาหร่ายเกลียวทอง
 ห้องแปรรูปผลิตภัณฑ์เยลลีผสมสาหร่ายเกลียวทอง
และห้องบรรจุแคปซูลสาหร่ายเกลียวทอง
๓๒. อาคารเอนกประสงค์
๓๓. โรงเพาะเห็ดหลินจือ และโรงทำผลิตภัณฑ์แปรรูปเห็ดหลินจือ
ในปี ๒๕๓๘ กระแส “เห็ดหลินจือ” มาแรง
 โรงเพาะเห็ดจึงต้องขยายการผลิต และมีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
 ในต้นปี ๒๕๓๙ โรงงานได้พัฒนา ผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือ
เป็นแคปซูลขึ้นเพื่อง่ายต่อการบริโภคและในปี ๒๕๔๓
ได้เริ่มมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชงพร้อมดื่มจากสมุนไพรชนิดต่างๆ
 เพื่อสะดวกในการบริโภค และในปีต่อมาคือปี ๒๕๔๔
ได้มีการพัฒนาเป็นแบบอัดเม็ดเพื่อสะดวกสำหรับการพกพา
๓๔. โรงปุ๋ยหมัก
สร้างในปี ๒๕๒๘ เพื่อศึกษากระบวนการผลิตปุ๋ยหมัก
จากเศษวัสดุที่เหลือใช้จากการเกษตร โดยการใช้น้ำกากส่า
 ซึ่งเป็นน้ำทิ้งจากโรงงานผลิตแอลกอฮอล์เป็นตัวเร่งใน
กระบวนการย่อยสลายนอกจากนี้ ทางโรงงานยังศึกษาสายพันธุ์และกรรมวิธี
การผลิตจุลินทรีย์ ที่มีประสิทธิภาพสูงในการย่อยสลายเศษวัสดุเหลือใช้
เป็นปุ๋ยหมักปัจจุบันได้มีการพัฒนาปุ๋ยหมักชนิดต่างๆ ขึ้น
เพื่อเพิ่มความหลากหลายและความสะดวกให้แก่ผู้ต้องการใช้ปุ๋ยหมัก คือ ปุ๋ยอัดเม็ด
๓๕. ปั๊มน้ำมัน (ยังมีปั๊ม แกสโซฮอลล์ ด้วย)
ยัง... ยังไม่พอค่ะ ภายในเขตพระราชฐานแห่งนี้ยังมี
 "โรงเรียนจิตรลดา" อีกนะคะ “ผู้ทำ”
จะไม่เหน็ดเหนื่อยพระวรกายบ้างเลยฤๅดังนั้น
ไม่มีคำพูดใด ดีเท่ากับคำนี้...

ขอขอบคุณเจ้าของบทความผู้ใช้นามว่า
 "ป้าหนอน"
ที่มา : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=baa500&mon

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 พฤศจิกายน 2016, 14:32:45 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #203 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2014, 10:33:43 »

 เรารักking

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 พฤศจิกายน 2016, 14:33:12 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #204 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2014, 13:02:55 »



 






ในหลวง พระราชินี เสด็จกลับโรงพยาบาลศิริราชอีกครั้ง เบื้องต้นทรงมีไข้

ในหลวง-ราชินี” เสด็จฯจากที่ประทับ ณ วังไกลกังวล
 กลับเข้าสู่โรงพยาบาลศิริราช อีกครั้ง เบื้องต้นพระองค์ท่านทรงมีไข้
คณะแพทย์ถวายการรักษาใกล้ชิด ปชช.ที่ทราบข่าวเฝ้ารับเสด็จฯชื่นชมพระบารมี

หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จพระราชดำเนินมาทรงตรวจพระวรกาย ณ โรงพยาบาลศิริราช
ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา
 ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา รวมเวลาที่ประทับ
 ณ โรงพยาบาลศิริราช 41 วัน ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับไปประทับ
 ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา

วันที่(3ต.ค.) เวลา 21.07 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย
 สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯประทับรถตู้พระที่นั่ง
จากที่ประทับ ณ วังไกลกังวล กลับเข้าสู่โรงพยาบาลศิริราช อีกครั้ง
โดยถึงประตู 8 โรงพยาบาลศิริราช เวลา 23.00 น.
ท่ามกลางพสกนิกรที่ทราบข่าวมาเฝ้ารับเสด็จฯ ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเบื้องต้นพระองค์ท่านทรงมีไข้
 คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา ดูแลใกล้ชิด
อย่างไรก็ดีรอฟังแถลงการณ์จาก สำนักพระราชวังอีกครั้ง ในวันพรุ่งนี้

จากผู้จัดการออนไลน์



ขอให้พระองค์ทรงมีพระวรกายที่สมบูรณ์แข็งแรง
 อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดไป
และสุขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

 

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 ตุลาคม 2014, 15:23:36 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #205 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2014, 18:30:55 »



แถลงการณ์สำนักพระราชวัง
 เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จ ฯ ไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ ๑



แถลงการณ์สำนักพระราชวัง
เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ ๑

วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รายงานพระอาการว่า เมื่อเย็นวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๗
 ทรงมีพระปรอท (ไข้) สูง ๓๘.๒ องศาเซลเซียส
 ผลการตรวจพระโลหิตแสดงว่ามีภาวะติดเชื้อ มีการเปลี่ยนแปลงความดันพระโลหิต
และอัตราการเต้นของพระหทัยเร็วขึ้น
 จึงได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช
เพื่อถวายการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ
ถวายการตรวจพระโลหิตด้วยวิธีพิเศษเพิ่มเติม และถวายการรักษาต่อไป

เมื่อเช้าวันนี้ คณะแพทย์ได้รายงานเพิ่มเติมว่า
หลังจากถวายการรักษาด้วยพระโอสถปฏิชีวนะทางหลอดพระโลหิต
ความดันพระโลหิตคงที่ พระปรอท (ไข้) ลดลง
 สภาวะทางโภชนาการดีขึ้นเป็นลำดับ คณะแพทย์ฯ
 จะได้ถวายการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ
เพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุของการติดเชื้อและถวายการรักษาต่อไป

จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง



แถลงการณ์สำนักพระราชวัง
 เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จ ฯ
 ไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ ๒



ท ร ง พ ร ะ เ จ ริ ญ ยิ่ ง ยื น น า น
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล
ด้วยความจงรักภักดี ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย
 และอานุภาพแห่งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากล
ดวงพระวิญญาณสมเด็จบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์
ได้โปรดอภิบาลรักษาพ่อแห่งแผ่นดินให้ทรงพระสิริสวัสดิ์
 ทรงสำราญพระวรกายและมีพระพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์
มีพระราชประสงค์ในสิ่งใด ขอจงสัมฤทธิ์ดังพระราชหฤทัยปรารถนา
 สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
 ตราบนานเท่านาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
กราบแทบพระบาท

 

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 ตุลาคม 2014, 12:09:31 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #206 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2014, 21:33:02 »

ตามรอยพ่อ



รอยยิ้มของฉันคือเธอ
เมื่อปีพุทธศักราช 2503
 เป็นปีแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
 เสด็จฯ เยือน14ประเทศในยุโรปและอเมริกา
 เป็นการเสด็จเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรก
 และยาวนานที่สุดถึง 7 เดือนเต็ม
การเสด็จฯ ในครั้งนี้เป็นที่สนใจของสื่อมวลชนในสหรัฐฯเป็นอย่างมาก
 ต่างเข้ามาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตฉายพระรูปและสัมภาษณ์กันมากมาย
 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้สัมภาษณ์นักข่าวอย่างเป็นกันเอง
โดยมีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถประทับอยู่เคียงข้าง
ตอนหนึ่งนักข่าวได้กราบบังคมทูลถามความรู้สึกส่วนพระองค์ว่า
"นี่เป็นการเสด็จฯ เยือนอเมริกาเป็นครั้งแรก ทรงรู้สึกอย่างไรบ้าง"
มีพระราชดำรัสตอบว่า "ก็ตื่นเต้นที่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิด
เพราะข้าพเจ้าเกิดที่นี่ ที่เมืองบอสตัน"
พระราชดำรัสตอบดังกล่าวสร้างความ"ใกล้ชิด"
ให้เกิดขึ้นกับเหล่านักข่าวได้ทันที จากความรู้สึกที่ว่า
พระองค์ไม่ใช่"คนต่างประเทศ" หากแต่เป็น"คนบอสตัน"คนหนึ่ง
รอยแย้มสรวลที่มิใคร่ปรากฏให้เห็นบนพระพักตร์บ่อยนัก
ทำให้นักข่าวหนุ่มผู้หนึ่งได้ทูลถามพระองค์ท่านเป็นการปิดท้าย
 ก่อนที่กลุ่มนักข่าวทั้งหมดจะกราบบังคมทูลลาว่า
"ทำไมพระองค์จึงทรงเคร่งขรึมนัก...ไม่ทรงยิ้มเลย?"
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิได้พระราชทานถึง"เหตุผล"
แต่ทรงแสดงออกถึงพระราชอารมณ์ขันอันล้ำลึกที่มีในพระราชหฤทัย
โดยผินพระพักตร์ไปทางสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พลางรับสั่งว่า
"She's my smile.."
เมื่อนักข่าวเหล่านั้นมองไปที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ ในขณะนั้น
ท่านก็ทรงพระเมตตาแย้มพระสรวลประทานให้
นับเป็นรอยพระสรวลที่ประทับใจชาวต่างชาติอย่างมิรู้ลืม

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #207 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2014, 21:40:20 »



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงอุทิศพระองค์
 พระอัจฉริยะและพระอุตสาหะทั้งมวล เพื่อราษฎรในทุกภูมิภาค
 พระองค์ทรงมีดำริให้มีการพัฒนาด้านระบบวิทยุสื่อสารอย่างจริงจัง
 และต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กล่าวคือสามารถรับส่งได้ไกลยิ่งขึ้น
 ดังจะเห็นได้จากการที่พระองค์ทรงใช้เครื่องมือสื่อสารพกติดพระองค์
 เพื่อประกอบพระราชกรณียกิจต่างๆ อยู่เสมอ
เพราะสิ่งที่พระองค์ทรงขาดไม่ได้คือการสดับตรับฟังข่าวทุกข์สุขของประชาชน
 ดังเช่น ในระหว่างการเสด็จเยี่ยมราษฎรได้ทรงพบว่า
 มีผู้ใดที่กำลังป่วยเจ็บจำเป็นต้องบำบัดรักษา จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้คณะแพทย์ผู้ตามเสด็จดูแลตรวจรักษาทันที ในบางรายที่มีอาการป่วยหนัก
จำเป็นต้องส่งตัวเข้าบำบัดรักษาในโรงพยาบาลท้องถิ่นหรือโรงพยาบาลใ
นกรุงเทพมหานครโดยเร็ว หากมีเวลาเพียงพอ
พระองค์ท่านจะรับสั่งผ่านทางวิทยุถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อาทิ ตำรวจตระเวนชายแดน ขอรับการสนับสนุนเรื่องการขนส่ง
 เช่น เฮลิคอปเตอร์ เพื่อนำผู้ป่วยเจ็บส่งยังที่หมายปลายทางด้วยพระองค์เอง
 นอกจากนี้ พระองค์ได้ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาต
ให้นำระบบสื่อสารแบบถ่ายทอดสัญญาณหรือ Repeater
ซึ่งเชื่อมต่อทางวงจรทางไกลขององค์การโทรศัพท์ฯ
 ให้มูลนิธิแพทย์อาสาฯ (พอ.สว.)
นำไปใช้เพื่อช่วยเหลือรักษาพยาบาลแก่ผู้เจ็บป่วยในท้องถิ่นห่างไกล

ในเรื่องการปฏิบัติการฝนเทียมหรือฝนหลวงพระราชทาน
 ในการปฏิบัติระยะแรกๆ ได้ประสบปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
ที่ไม่ทราบล่วงหน้า ซึ่งนักบินผู้ปฏิบัติจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำแก้ไขโดยฉับพลัน
เนื่องจากยังไม่มีการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ปฏิบัติการด้วยกัน
จึงเป็นเหตุให้ไม่ได้ผลเท่าที่ควร กล่าวคือฝนไม่ตกในเป้าหมายบ้าง
 ตกน้อย หรือไม่ตกตามที่คิดบ้าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้ทรงสดับตรับฟังข่าวการปฏิบัติการฝนเทียมทุกครั้ง
 และทรงทราบถึงปัญหาสำคัญคือ การขาดการติดต่อสื่อสารที่ดี
จึงโปรดเกล้าฯ ให้ติดตั้งวิทยุให้แก่หน่วยปฏิบัติการฝนเทียม
ทั้งทางอากาศและทางภาคพื้นดิน



ภาพ : นิตยสารสกุลไทย รายสัปดาห์ ฉบับวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๖
เผดิมกาลอภิเษกแจ้ง.........จวบปัจ-จุบันเฮย
บุญคู่บุญทรงสวัสดิ์...........ก่อเกื้อ
ไผทไทยเพริศพิพัฒน์.........เย็นร่ม อุดมแล
พระกฤษดาเอกเอื้อ...........โอบอุ้มประชาชน

ชุมชนตามรอยพ่อ

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #208 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2014, 21:47:23 »



จะหากษัตริย์พระองค์ไหนที่ในหล้า............มาเทียบเท่าจอมราชาของพวกฉัน
กษัตริย์ผู้ทรงงานมานานวัน....................กษัตริย์ผู้ครองธรรม์ครองแผ่นดิน
กษัตริย์ผู้ห่วงใยไทยทั้งชาติ....................กษัตริย์ผู้บำรุงศาสน์ทำนุศิลป์
กษัตริย์ผู้ช่วยประชาทั่วธานินทร์...............กษัตริย์ผู้เป็นทั้งสิ้นของคนไทย
หลากหลายโครงการหลวงเพื่อปวงราษฎร์...หลากเหลือฝ่าพระบาทดำริให้
ยังประโยชน์หลากล้นเพื่อคนไทย..............ยังสุขคลายทุกข์ให้ปวงประชา
....หลอมดวงใจไทยทุกหน.....................ถวายชัยเฉลิมชนมพรรษา
ทรงพระเจริญสวัสดิ์ครองฉัตรา................เป็นมิ่งขวัญไทยทั่วหล้านิรันดร์ เทอญฯ


ภาพ/ร้อยกรอง นิตยสารดิฉัน ปักษ์แรก เดือนธันวาคม 2556




คือหยาดทิพย์แห่งภูมินทร์หลั่งรินรื่น
ชนเย็นชื่นพระกรุณามหาศาล
ดับโศกศัลย์แร้นแค้นแดนกันดาร
ธ บันดาลสุขประชาสถาวร

ตามรอยพ่อ

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #209 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2014, 21:54:03 »


พ่อสอนว่า...

"...ทุกสิ่งทุกอย่างแปรเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา
 สังคมก็เช่นเดียวกัน ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามวิวัฒนาการของโลก
 ข้อนี้จึงไม่ควรวิตกให้มากเกินไปอีกข้อหนึ่ง ท่านทั้งหลายจะต้องไม่ลืมว่า
พระพุทธศาสนานั้นถ้าหมายถึงคำสั่งสอนที่เที่ยงตรงตามพระพุทโธวาทแท้ ๆ แล้ว
 ย่อมมีความแน่นอนมั่นคงอยู่ในตัว เช่น ความดีก็เป็นความดี ความชั่วก็เป็นความชั่ว
และทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่วอย่างปราศจากข้อสงสัย เหตุนี้
 พระธรรมจึงชื่อว่าอกาลิโก คือถูกต้องเที่ยงแท้ และไม่ประกอบด้วยกาล
เหมาะที่จะน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติเสมอไม่ว่าในกาลไหน ๆ ข้อสำคัญ
 ชาวพุทธจะต้องขวนขวายศึกษาพุทธธรรมให้ทราบชัด
 และน้อมนำมาปฏิบัติอย่างจริงจัง ด้วยการพยายามลดละความโลภ
ความโกรธ ความหลง อันเป็นต้นเหตุแห่งการกระทำชั่วกระทำผิด
และกล้าที่จะบากบั่นกระทำสิ่งที่เป็นความดี
โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นสิ่งที่พ้นสมัยหรือน่ากระดากอาย
ถ้าชาวพุทธทำได้ดังนี้ ก็จะเป็นเหตุเกื้อกูลอย่างสำคัญ
ที่จะช่วยจรรโลงรักษาพระพุทธศาสนาไว้
ให้มั่นคงในทุกสถานะและในกาลทุกเมื่อ ..."


พระบรมราโชวาท
เพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดการประชุมสมาคมพุทธศาสนาทั่วราชอาณาจักร ครั้งที่ ๓๙
เรื่อง "พระพุทธศาสนาในสังคมยุคโลกาภิวัฒน์"
ณ หอประชุมพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
วันศุกร์ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๘







พ่อสอนว่า.....

..ท่านทั้งหลายที่สำเร็จการศึกษาและจะได้ออกไปประกอบการงาน
เริ่มต้นชีวิตใหม่ของท่านนั้น ข้าพเจ้าขอฝากคติไว้เป็นเครื่องกำกับใจ
มีคุณธรรมข้อหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งท่านต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ
 คือ ความสัตย์สุจริต ประเทศบ้านเมืองจะวัฒนาถาวรอยู่ได้
ก็ย่อมอาศัยความสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐาน ท่านทั้งหลาย
จะออกไปรับราชการก็ดีหรือประกอบกิจการงานส่วนตัวก็ดี
ขอให้มั่นอยู่ในธรรมทั้ง ๓ ประการ คือ สุจริตต่อบ้านเมือง
 สุจริตต่อประชาชนและสุจริตต่อหน้าที่
 ท่านจึงจะเป็นผู้ที่ควรแก่การสรรเสริญของมวลชนทั่วไป
ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีต่อท่านทั้งหลาย ในเกียรติที่ท่านได้รับ
 ณ ท่ามกลางสันนิบาตนี้และขอให้ท่านจงรำลึกถึงเกียรตินี้และรักษาไว้
ด้วยความสุจริต ให้สมกับพุทธภาษิต ว่า
“คนย่อมได้เกียรติคือชื่อเสียงเพราะความสัตย์”


พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๒ มิถุนายน ๒๔๙๗



ดนตรีมีอิทธิพลในการสร้างความบันเทิง และสร้างสรรค์แนวคิดที่ดีในการดำรงชีวิต

“...ดนตรีนั้นเป็นสิ่งที่จะแสดงออกซึ่งความรู้สึกของชนหมู่หนึ่ง
ในที่นี้ก็คือ ชนคนไทยทั้งหลายจะแสดงความรู้สึกออกมา
 หรือจะรับความรู้สึกที่แสดงออกมาด้วยดนตรี
 พวกเราที่เป็นนักดนตรีจึงมีความสำคัญยิ่ง
 ถ้าเราทำในสิ่งที่จะทำให้คนฟังแล้วมีความพอใจ
มีความครึกครื้น มีความอดทน มีความขยัน แล้วก็มีความบันเทิง
ทุกสิ่งทุกอย่างในดนตรีมีจุดประสงค์ที่จะทำ เขาก็มีความสำเร็จ
ยิ่งเดี๋ยวนี้ และยิ่งในเมืองไทยเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ
 นักดนตรีทั้งหลาย นักเพลงทั้งหลายก็มีหน้าที่เหมือนที่จะช่วยอุ้มชูความรู้สึก
ที่พี่น้องชาวไทยทั้งหลายต้องมี คือความเข้มแข็ง
และความเป็นอันหนึ่งอันเดียว...นักเพลง นักร้อง
 นักอะไรๆก็ให้แสดงในสิ่งที่จะเป็นการสร้างสรรค์
 ให้เป็นทางที่ชักนำให้คนเป็นคนดี
และมีความเจริญ ความก้าวหน้า...”

พระบรมราโชวาทที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเนื่องในวันสังคีตมงคล ครั้งที่ ๒
ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๓๑ กรกฏาคม พ.ศ ๒๕๑๒


  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 ตุลาคม 2014, 22:12:57 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
p2507
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 17783
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,017



« ตอบ #210 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2014, 22:00:32 »

 +1พลังน้ำใจ +1พลังน้ำใจ +1พลังน้ำใจ +1พลังน้ำใจ +1พลังน้ำใจ
บันทึกการเข้า
•❤ yada •❤
รอง Webmaster
อาจารย์มงกุฎทอง C7

Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 209732
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 127,216


ขอให้โชคดี มีตังค์ใช้


« ตอบ #211 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2014, 22:01:18 »


บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #212 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2014, 21:14:21 »








แถลงการณ์ฉบับที่3พระอาการ‘ในหลวง’
แพทย์รายงานหลังการผ่าตัด ทรงรู้พระองค์ดี หายพระทัยได้ดี ยังมีพระปรอท(ไข้)
เมื่อเวลา 19.07 น. วันที่ 7 ตุลาคม สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3
เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ความว่า

วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้รายงานพระอาการทั่วไปหลังผ่าตัดว่า รู้พระองค์ดี หายพระทัยได้ดี
 ยังคงมีพระปรอท (ไข้) บางช่วงเวลา การเต้นของพระหทัยลดลงใกล้เคียงปรกติ
 การตรวจพระหทัยด้วยคลื่นไฟฟ้าเป็นระยะติดต่อกัน ไม่ปรากฏว่ามีการเปลี่ยนแปลง
 ยังมีพระอาการเจ็บบริเวณแผลที่ส่องกล้องตัดถุงพระปิตตะ (ถุงน้ำดี) คณะแพทย์ฯ
ได้ถวายการดูแลอย่างใกล้ชิด และยังคงถวายน้ำเกลือ
พระโอสถปฏิชีวนะ กับสารอาหารทางหลอดพระโลหิตต่อไป

ผลการตรวจทางพยาธิวิทยาของพระปิตตะ (ถุงน้ำดี) ที่ตัดออกมาแล้ว
 พบว่ามีการอักเสบ และไม่พบความผิดปรกติของเซลล์ในผนังของพระปิตตะ (ถุงน้ำดี)


http://www.komchadluek.net/mobile/detail/20141007/193603.html


ข้าพระพุทธเจ้า ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย
 และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก โปรดอภิบาลรักษาพระองค์
ขอจงทรงพระเจริญ ทรงพระเกษมสำราญ พระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์
 สถิตเป็นมิ่งขวัญปวงชนชาวไทยตลอดนานแสนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

 


แถลงการณ์สำนักพระราชวัง
 เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ
 ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 4 (8 ตุลาคม 2557)

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 ตุลาคม 2014, 21:55:20 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #213 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2014, 21:39:10 »

ตามรอยพ่อ










กราบพระบาทชาตินี้ภักดีมั่น
ไหว้พระทุกคืนวันหมั่นรักษา
พระทรงชัยให้สมบูรณ์พูนพลา
นามัยยืนชื่นหน้าไพร่ฟ้าไทย

โอ้ เทวัญถ้วนสวรรค์ทุกชั้นฟ้า
ทุกเวลาอย่านิทราลืมตาตื่น
เฝ้าปกปักพระภูวไนยให้ยั่งยืน
เป็นมิ่งประชาชาติชื่นพระชนม์นาน

ตามรอยพ่อ

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #214 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2014, 21:53:12 »





 

จะมีใครรู้บ้างไม่ว่า
พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ
ทรงพระราชทานปัจจัยให้กับโรงพยาบาลสงฆ์ทุกๆเดือน



  

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #215 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2014, 17:14:10 »

พระราชกรณียกิจ
วันนี้ในอดีต



"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2528 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 พระราชทานพระราชดำรัสกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องการจัดหา
ทำเลที่เหมาะสมในการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก
ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรภูมิประเทศและแหล่งน้ำ
ณ บริเวณหมู่บ้านนากอ ตำบลจอเบาะ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส




"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2536 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 เสด็จออก ณ พระตำหนัก ทักษิณราชนิเวศน์
 พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายจุลนภ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา องคมนตรี
ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง
 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ นำคณะกรรมการบริหาร ฯ
เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานผลความก้าวหน้า
ของแผนงานที่ได้พระราชทานแนวพระราชดำริไว้ เมื่อ พ.ศ. 2535






"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2533 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 มีพระราชดำรัสกับเจ้าอาวาสวัดพระพุทธ
ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระพุทธ
ตำบลพร่อน อำเภอตากไบ จังหวัดนราธิวาส



"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานพระราชดำรัสกับราษฎรที่มาเฝ้ารับเสด็จ
ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตร
โครงการชลประทานขนาดเล็ก และฝายทดน้ำ
 บ้านปาแดกือแย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
 ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส
 ซึ่งมีพระราชดำริให้กรมชลประทานดำเนินการก่อสร้าง
เพื่อจัดหาน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค




"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2536 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรบริเวณพื้นที่
โครงการพัฒนาลุ่มน้ำคลองจืด-คลองแฆแฆ
 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อพิจารณาการก่อสร้างระบบระบายน้ำ
ออกจากพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมขังและจัดหาน้ำสนับสนุนพื้นที่ทำการเกษตร
ให้กับราษฎรในเขตอำเภอสายบุรี และอำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี



"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2523 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 พระราชทานพระราชดำริกับเจ้าหน้าที่กรมชล ประทาน
และเจ้าหน้าที่อำเภอสุไหงโก-ลก เกี่ยวกับการสำรวจพื้นที่
 หาแหล่งน้ำสำหรับการจัดสรรน้ำเพื่อใช้ในการเพาะปลูกได้ตลอดปี
 ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร
 ณ บ้านบาโงแบกอ ตำบลปูโยะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส



  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
ขวัญเองจ้า
Junior Public Relations
Golden Hero 8
*

พลังน้ำใจ: 52701
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 44,899



« ตอบ #216 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2014, 17:24:25 »


บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #217 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2014, 17:25:51 »



1 ตุลาคม 2557 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
 เสด็จฯแทนพระองค์ ไปทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระราชวังสราญรมย์ กรุงเทพมหานค�






2 ตุลาคม 2557 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ
 ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และทรงตัดหวายลูกนิมิตอุโบสถ
 วัดบึงครอบศรัทธาราม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย [NBT]



 
๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
.
วันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์
พระธิดาใน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
ทรงเจริญพระชันษา ๓๒ ปี ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ ทรงพระเจริญ

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #218 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2014, 17:29:29 »




วันนี้ในอดีต 8 ตุลาคม

เหตุการณ์
พ.ศ. 2414 (ค.ศ. 1871) - เกิดอัคคีภัยครั้งใหญ่ตามฝั่งทะเลสาบมิชิแกน ทำให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยเกือบ 100,000 คน
พ.ศ. 2483 (ค.ศ. 1940) - นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และประชาชนชาวไทย ร่วมกันเดินขบวนเรียกร้องดินแดนคืนจากฝรั่งเศส
พ.ศ. 2510 (ค.ศ. 1967) - เช กูวารา นักปฏิวัติผู้นิยมลัทธิมาร์กซ และผู้นำกองโจรชาวคิวบา ถูกจับในโบลิเวีย
พ.ศ. 2513 (ค.ศ. 1970) - เวลา 16.13 น. มิตร ชัยบัญชา ประสบอุบัติเหตุ ตกเฮลิคอปเตอร์เสียชีวิต ระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง อินทรีทอง ที่หาดดงตาล อ่าวพัทยาใต้ จ.ชลบุรี
พ.ศ. 2519 (ค.ศ. 1976) - เหตุการณ์ 6 ตุลา: นายธานินทร์ กรัยวิเชียร เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ภายหลังคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินได้ทำการรัฐประหาร รัฐบาลของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เมื่อวันที่ 6 ต.ค.
พ.ศ. 2537 (ค.ศ. 1994) - ดาวเทียมไทยคม 2 ถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวดแอเรียนจากฐานยิงจรวดที่เฟรนช์เกียนา
พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสแก่คณะผู้ว่าราชการแบบบูรณาการในโอกาสเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ มีใจความว่าถึงการทุจริต โดยมีพระราชดำรัสตอนที่สำคัญว่า "...ถ้าทุจริตแม้แต่นิดเดียว ก็ขอแช่งให้มีอันเป็นไป พูดอย่างนี้หยาบคาย แต่ว่าขอให้ มีอันเป็นไป แต่ถ้าไม่ทุจริต สุจริตและมีความตั้งใจมุ่งมั่นสร้างความเจริญ ก็ขอให้ต่ออายุ ได้ถึง 100 ปี ส่วนคนไหนที่มีอายุมากแล้ว ขอให้แข็งแรง ความสุจริตจะทำให้ประเทศไทยรอดพ้นอันตราย...ภายใน 10 ปี เมืองไทยน่าจะเจริญ ข้อสำคัญคือ ต้องหยุดการทุจริตให้สำเร็จ และไม่ทุจริตเสียเอง..."
พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) นายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและคณะ แถลงผลการวิจัยบั้งไฟพญานาค ที่มักเกิดขึ้นในวันออกพรรษาบริเวณกลางแม่น้ำโขง จ.หนองคาย ว่าทีมนักวิจัยสรุปว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
พ.ศ. 2548 (ค.ศ. 2005) - เวลา 8:50 น. (10.50 น.เวลาประเทศไทย) เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 7.6 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่ในบริเวณแคว้นแคชเมียร์ ลึกลงไปสลากกินแบ่งรัฐบาลประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิตในปากีสถาน อินเดีย และอัฟกานิสถาน มากกว่า 74,500 คน

วันเกิด
พ.ศ. 2438 (ค.ศ. 1895) - ฮวน เปรอง อดีตนายกรัฐมนตรีอาร์เจนตินา (ถึงแก่กรรม 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2517)
พ.ศ. 2465 (ค.ศ. 1922) - พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินุทปญโญ ปธ. 6) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง (มรณภาพ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551)
พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1949) - ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ นักแสดงชาวอเมริกัน
พ.ศ. 2513 (ค.ศ. 1970) แมตต์ เดมอน นักแสดงชาวอเมริกัน
เท็ตสึยะ โนมูระ นักออกแบบตัวละครในเกม ชาวญี่ปุ่น
บุษกร วงศ์พัวพัน นักแสดงชาวไทย

พ.ศ. 2525 (ค.ศ. 1982) - พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์
พ.ศ. 2530 (ค.ศ. 1987) - อายะ ฮิราโนะ นักพากย์ชาวญี่ปุ่น
พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991) - แซมมี่ เคาวเวลล์ นักแสดงและนางแบบชาวไทย

วันถึงแก่กรรม
พ.ศ. 2513 (ค.ศ. 1970) - มิตร ชัยบัญชา นักแสดง (เกิด 28 มกราคม พ.ศ. 2477)
พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981) - แก้ว อัจฉริยะกุล นักประพันธ์เนื้อร้องเพลงชื่อดัง (เกิด 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2458



  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #219 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2014, 17:39:11 »

ตามรอยพ่อ


 
พ่อแห่งแผ่นดินผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงกล่าวกับชาวไทยว่า...

.
ฉันถือว่า...ฉันเป็นพลเมืองคนหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่ง
ตราบใดที่ยังอยู่ในตำแหน่งนี้
ตราบนั้น...ฉันต้องปฎิบัติหน้าที่
ที่ได้รับมอบหมาย ให้สมบูรณ์...
.
พระราชปรารภในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช






"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยขน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"

.
หลังตรัสสัจวาจาอันศักดิ์สิทธิ์นี้แล้ว
พระองค์ก็ได้เสด็จออกจากใต้ร่มพระมหาเศวตฉัตร
ประทับลงเบื้องหน้าประชาชนของพระองค์
 แล้วทรงงานอย่างหนักโดยไม่มีวันหยุดเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า ๗๐ ปี
 เพื่อให้ประชาชนของพระองค์ทุกข์น้อยลง และให้แผ่นดินนี้ร่มเย็น





เบื้องพระปฤษฎางค์พ่อแห่งแผ่นดิน...

.
เบื้องพระปฤษฎางค์ที่ชุ่มโชกไปด้วยพระเสโทนี้...
ได้แบกรับเอาทุกข์ของประชาชน และแผ่นดินนี้เอาไว้
เป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า ๗๐ ปี ด้วยความเหนื่อยยาก




กว่า ๗๐ ปี ที่พระองค์ทรงตรากตรำพระวรกายเพื่อชาวไทย
พ่อของแผ่นดินทรงเหนื่อยหนักเหลือเกิน...


ขอพระอาการประชวรจงปลาสนาการไปในเร็ววันด้วยเทอญ
.
ภูมิพะโล มะหาราชา นะวะโม จักกิวังสิโก
รัฏฐัปปะสาสะเน พยัตโต นีติจาริตตะโกวิโท
สัมพุทธะมามะโก อัคโค สาสะนัสสูปะถัมภะโก
ธัมมิโก ทะสะธัมเมหิ รัชชัง กาเรติ สัพพะทา
สะวีริโย สะมุสสาโห ทีฆะทัสสี วิจักขะโณ
ทัยยานัง วุฑฒิเปกโข โส สันติมัคคะนิโยชะโก
เตสัง ทุกขาปะเนตาจะ สะทา สุโข ปะสังหะโร
สัพพัตถะ สัพพะทัยยานัง อะติปปิโย มะโนหะโร
สัพเพเปเต ปิยายันโต ปิยะปุตเต ปิตาริวะ
สัพพะทัยยานะมัตถายะ ฐาเนสุ จะระมัตตะนา
สัมมาอาชีวะ โยคัสสะ วิธิง วิเนติ โยนิโส
ยา เจสา โลกะนาเถนะ ภาสิตา สะมะชีวิตา
อัตตานัง อุปะมัง กัตวา อะนุยุญชะติ ตัง สะทา
ทัยยานัง รัฏฐะปาลีนัง เอตัญเจวานุสาสะติ
ภิกขูนัง สิกขะกามานัง ปิฏะ กัตตะ ยะ สิกขะนัง
สุพพะตัง ภิกขุสังฆัญจะ ภิยโยโส อุปะถัมภะติ
อิทาเนโส มะหาราชา ทัยยานัง รัฏฐะวัฑฒะโน
สัฏฐิวัสสานิ ธัมเมนะ รัชชัง กาเรติ โสตถินา
อีทิเส มังคะเล กาเล เทมัสสะ ชะยะมังคะลัง
ระตะนัตตะยานุภาเวนะ ระตะนัตตะยะ เตชะสา
จิรัญชีวะตุ ทีฆายุ ทัยยานัง ธัมมะ ขัตติโย
วัณณะวา พะละสัมปันโน นิรามะโย จะ นิพภะโย
อิจฉิตัง ปัตถิตัง ยัง ยัง ตัง ตัง ตัสสะ สะมิชฌะตุ
สะทา ปัสสะตุ ภัทรานิ นิจจัง รัชเช ปะติฏฐะตูติฯ

.
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมเกล้าฯ
 ถวายพระพรชัยมงคลด้วยความจงรักภักดี
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย
 และอานุภาพแห่งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากล
 ดวงพระวิญญาณสมเด็จบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์
ได้โปรดอภิบาลรักษาองค์พ่อและแม่แห่งแผ่นดิน
 ให้ทรงพระสิริสวัสดิ์ หายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน
มีพระพลานามัยที่ดีและแข็งแรง ทรงพระราชประสงค์ในสิ่งใด
ขอจงสัมฤทธิ์ดังพระราชหฤทัยปรารถนา
 สถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าเหล่าปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ตราบชั่วนิรันดร์กาล
 ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ กราบแทบพระบาท
ตามรอยพ่อ


  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #220 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2014, 16:08:25 »









 

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง
 เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
เสด็จมาประทับ ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ฉบับที่ 5 (9 ตุลาคม 2557)





ทรงมีพระเมตตา เวลาเสด็จเยี่ยมหน่วยแพทย์พอ.สว.
ณ ที่ใด ก็จะทรงโปรดให้นำของเล่นเล็กๆน้อยๆพระราชทานให้
กับเด็กๆด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง


ขอพระอาการประชวรของพระองค์จงปลาสนาการไปในเร็ววัน
ทรงพระพลานามัยที่แข็งแรง
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #221 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2014, 16:18:13 »

<a href="http://www.youtube.com/v/aApCdyTdj5A?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color3=00FFFF&amp;amp;&amp;aborder=&amp;autoplay=&amp;loop=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/aApCdyTdj5A?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color3=00FFFF&amp;amp;&amp;aborder=&amp;autoplay=&amp;loop=1</a>

สยามประเทศในปี 2511
17 นาที กับ 5 วินาที
 วิดีโอประวัติศาสตร์ที่หาชมได้ยากอีกวิดีโอ
ที่อยากให้ท่านที่เคารพได้ดูได้ชม
 ท่านจะได้เรียนรู้เกียวกับ สังคม ศาสนาวัฒนธรรม
 อันทรงคุณค่าของไทยในครั้งอดีต
 รับประกันความภาคภูมิใจหลังจากดูจบแล้ว
ดูแล้วน้ำตาจะไหลเลย
 ขนาดชาวต่างชาติยังทำวีดีโอสาระคดีเกี่ยวกับประเทศไทย
 นี่แหละที่คนทั่วโลกเรียกประเทศไทยเราว่า
 "สยามเมืองยิ้ม" รักคุณจังประเทศไทย
cr.ขงเบ้ง

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #222 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2014, 16:23:29 »





จ.นครพนม สร้างอนุสรณ์สถานแม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์
จากภาพดอกไม้แห่งหัวใจ

ทั้งนี้การจัดสร้างอนุสรณ์สถานดังกล่าว
เป็นส่วนหนึ่งในโครงการตามรอยพ่อของแผ่นดิน
 ซึ่งภาพดอกไม้แห่งหัวใจนั้น หลายคนจะรู้จักในชื่อ
 ผู้เฒ่าแห่งอีสาน (แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์)
 จัดขึ้นเพื่อปลูกจิตสำนึกรักชาติ ศาสนา กษัตริย์
 เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวนครพนม
 และเพื่อให้ทุกคนประจักษ์ว่า
 ไม่มีพื้นที่ไหนเลยในประเทศไทยที่พระเจ้าอยู่หัวไม่เคยเสด็จพระราชดำเนินไปถึง..

ส่วนภาพดอกไม้แห่งหัวใจนั้น
 ถือเป็นสัญญาใจที่พระมหากษัตริย์ทรงทุ่มเทพระวรกาย
เพื่อพัฒนาคุณภาพราษฎรด้วยโครงการพระราชดำริ
 เพื่อพลิกฟื้นแผ่นดินที่แห้งแล้ง ให้เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์
ปลูกข้าวหอมมะลิ แคนตาลูป ยางพารา และพืชผักอื่น ๆ
 สร้างชื่อเสียงและให้ชาวอีสานอยู่ดีกินดีมาถึงทุกวันนี้

สำหรับแม่เฒ่าตุ้มนั้น เป็นหญิงชราวัย 102 ปี (ในขณะนั้น)
อาศัยอยู่ที่บ้านธาตุน้อย รอรับเสด็จฯ
 ในหลวงบนเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินทางสามแยกชยางกูร-เรณูนคร
ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 พฤศจิกายน 2498
เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
 เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรภาคอีสานเป็นครั้งแรก

โดยแม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ ไปรอรับเสด็จฯ
 พร้อมดอกบัวสายสีชมพูจำนวน 3 ดอก ตั้งแต่เช้าจนบ่าย
 แสงแดดแผดเผาจนดอกบัวสายในมือแห้งเหี่ยว
 แต่ด้วยหัวใจจงรักภักดีแม่เฒ่าตุ้มก็ยังคงรับเสด็จฯ
ต่อไปด้วยความตื่นเต้นและเบิกบานใจ และเมื่อในหลวงเสด็จฯ
มาถึง ทรงตรงมาที่แม่เฒ่า
ด้านแม่เฒ่าก็ได้ยกดอกบัวสายโรยราสามดอกนั้นขึ้นจนเหนือศีรษะ
 แสดงความจงรักภักดีอย่างสุดซึ้ง
 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
 ทรงโน้มพระองค์ลงมาจนพระพักตร์เกือบชิดกับศีรษะของแม่เฒ่า
 ทรงแย้มพระสรวลอย่างอ่อนโยน
 พระหัตถ์แตะมือกร้านคล้ำของแม่เฒ่าอย่างนุ่มนวล

หลังจากที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพฯ แล้ว
ทางสำนักพระราชวัง ได้ส่งภาพรับเสด็จฯ ของแม่เฒ่าตุ้ม
 พร้อมพระบรมรูปหล่อด้วยปูนพาสเตอร์
 ผ่านมาทางอำเภอธาตุพนม ให้แม่เฒ่าตุ้มไว้เป็นที่ระลึก
เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ซึ่งแม่เฒ่าตุุ้มก็มีอายุต่อหลังจากนั้นอีก 3 ปี
และถึงแก่กรรมเมื่อปี พ.ศ. 2501
หลังจากนั้นลูกหลานได้สร้างธาตุเจดีย์บรรจุอัฐิแม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์
 ไว้ ณ หน้าบ้านเลขที่ 22 หมู่ที่ 11
 ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
ในบริเวณพื้นที่ 2 งาน โดยยกผืนดินดังกล่าวให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ สมบัติของแผ่นดิน

ส่วนภาพที่แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ ทูลเกล้าฯ ถวายดอกบัวสามดอก
ถ่ายโดย อาณัติ บุนนาค
ช่างภาพส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
 ที่ถูกเรียกว่า "ภาพดอกไม้แห่งหัวใจ"
ทำให้ประชาชนชาวไทยซาบซึ้งในพระจริยาวัตรอันงดงามของพระองค์

ขอบคุณ ข้อมูลจาก http://hilight.kapook.com/view/109220



  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 ตุลาคม 2014, 16:47:30 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #223 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2014, 16:36:35 »



พระบรมราโชวาท

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลเดชมหาราช



“การทำความดีแม้นไม่รู้ว่าทำไปทำไมก็ต้องทำ
การทำความดีแม้นไม่รู้ว่าทำไปถึงไหนก็ต้องทำ
การทำความดีแม้นไม่รู้ว่ามีใครทำบ้างก็ต้องทำ
การทำความดีแม้นไม่มีใครชื่นชมยินดีก็ต้องทำ
การทำความดีแม้นว่าต้องฝืนใจทำก็ต้องทำ
การทำความดีแม้นไม่มีใครเห็นก็ต้องทำ
การทำความดีแม้นไม่เห็นผลตอบแทนก็ต้องทำ
การทำความดีแม้นมีเวลาน้อยนิดก็ต้องทำ
เพราะความดีก็ยังคงเป็นความดีอยู่ตลอดเวลา
เพราะคนดีต้องทำความดี
เพราะคนดีได้กำลังใจจากการทำความดี
ขอให้เชื่อมั่นในความดี ทำดีต้องได้ดีมิเปลี่ยนแปลง”




พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่ผู้สำเร็จการศึกษา
จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันที่ 14 สิงหาคม 2525



..•°•.★* คำสอน เรื่องความดี.•°•.★*

ลูก...อันเป็นที่รักของพ่อ      ◡‿◡✿

          ลูกควรระลึกอยู่เสมอว่า คนดี คือ คนที่คิดดี พูดดี และทำดี  โดยเฉพาะการทำดี เป็นการแสดงออกทางการประพฤติปฏิบัติ อันเห็นได้อย่างชัดเจน ตามพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลเดชมหาราชที่ตรัสว่า...

* ...การทำดีนั้นยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ  เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว แต่ละคนจึงต้องตั้งใจ  และเพียรพยายามให้สุดกำลัง ในการสร้างเสริมและสะสมความดี...

          พระบรมราโชวาทนี้ พระองค์ท่านทรงพระราชทาน ณ อาคารใหม่สวนอัมพร  วันที่ 14 สิงหาคม 2525 ผู้เข้าพระราชทานพระบรมราโชวาท เป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ

          ผู้ที่จักเข้ารับราชการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ อันเป็นหน้าที่สนองงานต่างพระเนตร พระกรรณ พระองค์ท่านจึงได้ตรัสสอนให้ตั้งใจและเพียรพยายามในการกระทำความดีให้สุดกำลัง

          พ่อจึงขอบอกแก่ลูกว่า...ลูกจักต้องตั้งใจทำความดีอย่างสุดกำลังตามพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ถึงแม้ว่าจักทำยากหรือเห้นผลช้า เราก็ต้องทำ ความดีที่ลูกควรกระทำนั้นจักต้องกระทำให้ครบ สามทาง ได้แก่ การกระทำความดีทางกาย  การกระทำความดีทางใจ  การกระทำความดีทางวาจา  โดยยึดหลักคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ในหลักกุศลกรรมบถ 10  เป็นแนวทางแห่งความดี  ดังนี้

1) เว้นจากการทำลายชีวิต

2) เว้นจากการเอาของที่เขาให้มา

3) เว้นจากการประพฤติผิดในกาม

4) เว้นจากการพูดเท็จ

5) เว้นจากการพูดส่อเสียด

6) เว้นจากการพูดคำหยาบ

7) เว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ

8) ความไม่คิดโลภอยากได้ของผู้อื่น

9) ความไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น

10) ความเห็นชอบถูกต้องตามทำนองคลองธรรม

          เมื่อลูกประพฤติปฏิบัติกุศลกรรมบถ 10 ครบถ้วนลูกก็จักได้ชื่อว่าเป็นคนดี ตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  และถือว่าลูกได้ปฏิบัติตามพระบรมราโชวาทฯ อันจักก่อให้เกิดความสุขความเจริญ และเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวอย่างแน่นอน


.

.

.•°•.★*  บันทึก คำสอนของพ่อ .•°•.★*

ลูกรัก...คนจะทำความดีหรือความชั่ว

ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตนเอง

และการตัดสินใจนั้นจะตั้งอยู่บนความคิดและข้อมูล

ถ้าเราคิดดีและรอบคอบ

เราก็จักสามารถตัดสินใจได้ดีและถูกต้อง

.

ในชีวิตของคนเรามีสิ่งสำคัญมากมาย

ความรู้ ความรัก การงาน ก็ล้วนสำคัญ

สุขภาพก็สำคัญ  อนาคตก็สำคัญ

ทุกสิ่งมีความสำคัญทุกอย่างอยู่ในตัว

แต่สุขภาพนั้นสำคัญที่สุด

เพราะถ้าเสียสุขภาพก็เท่ากับเสียอนาคต

จงรักษาดูแลบำรุงสุขภาพของลูกให้ดีเถิด

.

ลูกรัก...พ่อขอบอกแก่ลูกไว้ว่า

บุคคลที่เป็นที่รักของผู้อื่น

ใช่ว่าจะมีความสุขอยู่ตลอดเวลา

แต่บุคคลที่รักผู้อื่นต่างหาก

ที่มีความสุขตลอดเวลา

แต่รักที่ว่านี้ต้องเป็นรักด้วยเมตตา มิใช่ตัณหา

...รักด้วยกรุณา      มิใช่หวังเอา

รักด้วยมุทิตา       มิใช่ต้องการตอบแทน

รักด้วยอุเบกขา     มิใช่ละเลย นิ่งเฉย.....

.

ลูกรัก...ยอกมถอยให้ผู้อื่นหนึ่งก้าว

และรักเขาเพิ่มมากขึ้นอีกสักนิด

เมตตาเขาอีกสักหน่อย

ชีวิตของเราจักค่อยๆ มีความสุขเพิ่มขึ้น ๆ

         

◡‿◡✿

ที่มาหนังสือ คำสอนของพ่อ

วัชชา  blog ok nation    




  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #224 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2014, 16:45:18 »



"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2543 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้
 นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
 นำ นายโจเซฟ ไดสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสมาพันธรัฐสวิส
 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
 ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ






วันนี้ในอดีต 9 ตุลาคม

เหตุการณ์
พ.ศ. 2417 (ค.ศ. 1874) - วันก่อตั้งสหภาพสากลไปรษณีย์
พ.ศ. 2431 (ค.ศ. 1888) - อนุสาวรีย์วอชิงตัน อนุสรณ์ที่ระลึก จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก ณ เวลานั้น ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
พ.ศ. 2479 (ค.ศ. 1936) - เขื่อนฮูเวอร์เริ่มส่งกระแสไฟฟ้าจากแม่น้ำโคโลราโดไปยังลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย
พ.ศ. 2506 (ค.ศ. 1963) - เหตุแผ่นดินถล่มเหนือเขื่อนในประเทศอิตาลี ทำให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตเกือบ 2,000 คน
พ.ศ. 2513 (ค.ศ. 1970) - ประเทศกัมพูชาประกาศสถาปนาเป็นสาธารณรัฐเขมร
พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989) - พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามมหาวิทยาลัยนเรศวร
พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) - อฏัล พิหารี วาชเปยี นายกรัฐมนตรีอินเดียและคณะ เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 9-12 ตุลาคม 2546 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในด้านต่าง ๆ
พ.ศ. 2549 (ค.ศ. 2006) - เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่

วันเกิด
พ.ศ. 2200 (ค.ศ. 1757) - พระเจ้าชาร์ลที่ 10 แห่งฝรั่งเศส
พ.ศ. 2378 (ค.ศ. 1835) - กามีย์ แซ็ง-ซ็องส์ คีตกวีชาวฝรั่งเศส (ถึงแก่กรรม 16 ธันวาคม พ.ศ. 2464)
พ.ศ. 2478 (ค.ศ. 1935) - เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งเคนต์
พ.ศ. 2483 (ค.ศ. 1940) - จอห์น เลนนอน นักร้องและนักดนตรีชาวอังกฤษ (เดอะ บีเทิลส์) (ถึงแก่กรรม 8 ธันวาคม พ.ศ. 2523)
พ.ศ. 2522 (ค.ศ. 1979) - แบรนดอน เราธ์ นักแสดงชายชาวอเมริกัน
พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981) - กาแอล ฌีแว นักฟุตบอลชาวฝรั่งเศส
พ.ศ. 2530 (ค.ศ. 1987) - คนึงพิมพ์ พรมกร (หนิม AF5)
พ.ศ. 2530 (ค.ศ. 1987) - โชติกา เบนเนลลี่ (บรูน่า เอเอฟ 3) นักร้อง
พ.ศ. 2531 (ค.ศ. 1988) - พชร ธรรมมล (ฟลุค เดอะสตาร์ 5) นักร้องนักแสดง
พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990) - หทัยภัทร สมรรถวิทยาเวช นักแสดงหญิงชาวไทย

วันถึงแก่กรรม
พ.ศ. 1590 (ค.ศ. 1047) - สมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 2
พ.ศ. 2477 (ค.ศ. 1934) - สมเด็จพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งยูโกสลาเวีย
พ.ศ. 2501 (ค.ศ. 1958) - สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12
พ.ศ. 2510 (ค.ศ. 1967) - เช เกบารา นักปฏิวัติและผู้นำการเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวอาร์เจนตินา (ถูกประหารชีวิต) (เกิด 14 มิถุนายน พ.ศ. 2471)
พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995) - หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี คนที่ 13 ของไทย (เกิด 20 เมษายน พ.ศ. 2454)

วันสำคัญและวันหยุดเทศกาล
โรมันคาทอลิก - วันฉลองนักบุญดิโอนิสิอัสสมาชิกสภาอาเรโอปากัส นักบุญเดนิส และนักบุญโจวันนี เลโอนาร์ดี
ยูกันดา - วันเอกราช
เกาหลีใต้ - วันฮันกุล รำลึกวันที่อักษรฮันกุลออกตีพิมพ์ครั้งแรก
วันไปรษณีย์โลก (World Post Day)

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
แท็ก:
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 [9] 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค "เว็บมหาชน คนมหาโชค"
 
คติ "กินอยู่อย่างพอเพียง เสี่ยงโชคแต่พอควร"
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย
คำเตือน -ทางเว็บไม่ได้ทราบเป็นการล่วงหน้าว่าหวยทางกองสลากจะออกตัวไหน แต่เราใช้การวิเคราะห์หรือประเมินตามหลักสถิติ
หรือวิธีการอื่นว่า เลขที่มีโอกาสออกมากที่สุดในแต่ละงวดควรจะเป็นเลขอะไรเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ การเล่นหวยถือว่ามีความเสียงมาก
Sitemap | Contact | WAP | xHTML | iMode | WAP 2 | RSS

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines | Sitemap
อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน ©
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.755 วินาที กับ 23 คำสั่ง
Copyright (c) 2008-2022 apichokeonline.com