อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน
20 เมษายน 2024, 06:45:00 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
"สนับสนุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น"

ผลงานห้อง VIP (งวด 16 เม.ย.67)
อ.apichoke ถูกสามตัวสลับ 589 ถูกตัวกลับเลขท้าย รว.ที่๑ 89 ถูกเลขท้าย๒ตัว 79
ถูกปักหลักสิบเต็มๆ 9 เลขเด่นวันหวยออก ถูกเด่น 5

ออก 598-79
   หน้าแรก   หวยรัฐบาล SUPER VIP หนังสือหวย VIP สมัคร vip ช่วยเหลือ แท็ก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก Register  
ฝากภาพ i-pic
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 ... 20   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แล้วใครล่ะ...จะไม่รัก..  (อ่าน 829566 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #25 เมื่อ: 26 เมษายน 2014, 14:37:00 »

[/quote]

[/center]

ข้าพระพุทธเจ้าน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิใด้ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ขวัญเองจ้า
Golden Hero 8
พลังน้ำใจ: 27279
[คลิกขอบคุณ]
ออนไลน์ ออนไลน์
กระทู้: 24,175



 สวัสดี สวัสดีครับคุณขวัญ
ขอบคุณที่เข้ามาแสดง
ความจงรักภักดีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราครับ
หากคุณขวัญมีพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านอยากนำมา
เผยแพร่ให้สมาชิกเว็บหวยอภิโชคได้รับชมบ้างยินดีนะครับ

 ขอบคุณ

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ตุลาคม 2016, 10:29:52 โดย FIRE » บันทึกการเข้า

Ananas
Hero Mb6
*

พลังน้ำใจ: 2023
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,082


« ตอบ #26 เมื่อ: 26 เมษายน 2014, 15:14:23 »

ขอบคุณมากๆ ที่นำสิ่งดีๆ มาให้ชมให้อ่าน  +1พลังน้ำใจ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #27 เมื่อ: 26 เมษายน 2014, 15:24:10 »



3 นาที เห็นแล้วแชร์ต่อไป ภาระกิจในหลวง
โปรดคลิกชม
https://www.facebook.com/photo.php?v=510966785664060&set=vb.497498593677546&type=2&theater
  ขอบคุณครับ




เรื่องเล่าของในหลวง เรื่อง "ทรงติดไฟแดง"
เหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อ30 กว่าปีก่อน บนถนนใน กทม. มีรถคันหนึ่ง
 ได้ขับไปบนถนนเส้นนั้นโดยในรถคันดังกล่าว
 มีเพียงชายผู้หนึ่งที่กำลังขับรถอยู่เพียงคนเดียวและในระหว่างทางที่ขับไปนั้น
ชายดังกล่าวได้จอดรถแวะข้างทางเพื่อซื้อกาแฟ 1 ถุง
 และได้ออกรถไปจนกระทั่งขับมาถึงสี่แยกไฟแดงแห่งหนึ่ง
 ชายดังกล่าวก็ได้จอดติดไฟแดงอยู่ จนมีรถตำรวจคันหนึ่งซึ่งขับนำรถเบนซ์มา
ได้บีบแตรไล่รถที่ชายผู้นั้นจอดติดไฟแดงอยู่นั้นให้ถอยไป
และรถตำรวจยังได้พูดผ่านไซเรนว่า "นี้เป็นรถนำขบวนรัฐมนตรีให้รถของชายดังกล่าวหลบไป"
 แต่รถของชายผู้นั้นก็ไม่หลบให้ จนกระทั่งตำรวจได้ลงจากรถมาที่รถของชายดังกล่าวและเรียกให้
ชายผู้นั้นลงจากรถ พอชายผู้นั้นได้ลงมาจากรถ ตำรวจได้เห็นชายคนนั้นถึงกลับเป็นลมล้มทั้งยืน
สร้างความตกใจให้แก่ตำรวจอีกคนที่นั่งอยู่ในรถ จนต้องเด่นลงมาดูพร้อมกับรัฐมนตรี
 พอตำรวจและรัฐมนตรีมาถึง ทั้งคู่ได้เห็นชายดังกล่าว ทั้งตำรวจและรัฐมนตรีได้นั่งลงไปกับพื้นทันที
 เสมือนกับว่าขาทั้ง 2 ข้างได้อ่อนแรงลงไปทันใด
และได้เงยหน้ามองดูชายซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าตนด้วยอาการตัวสั่น
ชายคนนั้นที่ทั้งคู่ได้เห็นเป็นชายที่มีรูปอยู่บนธนบัตร ซึ่งก็คือ ในหลวงองค์ปัจจุบันนั้นเอง
ในหลวงได้ทรงตรัสถามรัฐมนตรีและตำรวจติดตามว่า
"พวกท่านจะรีบไปไหนหรือถึงกลับจะต้องฝ่าไฟแดงข้าพเจ้ายังรอติดไฟแดงได้เลย
" รัฐมนตรีไม่ตอบได้แต่นั่ง ตัวสั่นและกราบลงบนพระบาทและในหลวงก็ได้ทรงขึ้นรถ
 ตำรวจที่นำขบวนรัฐมนตรีมานั้นก็ได้ทูลว่า
 "ให้ข้าพระพุทธเจ้าขับรถนำรถพระที่นั่งของพระองค์ไปมั๊ยพุทธเจ้าข้า"
ในหลวงทรงตรัสว่า "เราไม่ต้องให้ท่านมานำขบวนรถเราหรอก
เราขับไปเองคนเดียวได้ ท่านไปนำรถของท่านรัฐมนตรีเถอะ"
 และในหลวงก็ได้ทรงขับรถออกไปจากสี่แยกนั้น โดยไม่ได้มีรถตำรวจนำไปแต่อย่างใดเลย
ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ แม้ทรงเป็นถึงพระมหากษัตริย์ แต่ก็ทรงเคารพระเบียบวินัย
 และกฎจราจรได้อย่างเคร่งครัด เป็นแบบอย่างที่ถูกต้องให้ประชาชนได้ปฎิบัติตาม เพื่อความมีวินัยของจราจรบนท้องถนน
"ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล"
เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา
ข้าราชบริพารที่รับใช้เบื้องพระยุคลบาท


ทรงพระเจริญ
 




<a href="http://www.youtube.com/v/jbllB5bt-Hk?hl=th_TH&amp;amp;version=3&amp;amp;hl=cccfff&amp;amp;border=1&amp;autoplay=1&amp;loop=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/jbllB5bt-Hk?hl=th_TH&amp;amp;version=3&amp;amp;hl=cccfff&amp;amp;border=1&amp;autoplay=1&amp;loop=1</a>







ทรงขับรถพระที่นั่งเองเพื่อเยี่ยมราษฎร
อ่านแล้วสุดซึ้ง!…ทรงขับรถพระที่นั่งเองเพื่อเยี่ยมราษฎร…ที่สุดของพระมหากรุณาธิคุณ
ตลอด ๗๐ ปี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงงานหนักมากเพียงไร ทุกคนล้วนทราบกันดี ทรงไม่เคยปริปากบ่นเลยแม้เพียงครั้งเดียวว่า ทรงเหนื่อยเพียงไร…
คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า เวลาเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโปรดทรงขับรถยนต์ด้วยพระองค์เอง
ผมได้เคยตามเสด็จฯ ทั้งในและนอกรถพระที่นั่งมาหลายต่อหลายครั้ง เป็นระยะทางทั้งใกล้และไกล ถนนเรียบบ้าง ขรุขระบ้าง ลุ่มดอนบ้าง ตามสภาพภูมิประเทศ
บางครั้งเมื่อเสด็จฯ ถึงที่หมายแล้ว ทรงจอดรถพระที่นั่งและเสด็จฯ ลงไปประกอบพระราชกรณียกิจด้วยความตรากตรำพระวรกาย
พระราชดำเนินเป็นระยะทางไกลและเป็นเวลาหลายชั่วโมง ขากลับนึกว่าจะทรงพักผ่อนพระวรกายและให้นายสารถีทำหน้าที่ขับรถพระที่นั่งถวายก็เปล่า
กลับทรงขับเองอีกโดยไม่ทรงแสดงพระอาการเหนื่อยหรือง่วง เจ้าหน้าที่ผู้ตามเสด็จฯ นั้น พอกลับขึ้นไปบนรถก็ต้องผลัดกันทำหน้าที่และผลัดกันหลับไปในรถเพราะความเหน็ดเหนื่อย
จากหนังสือสองธรรมราชา โดย อัครวัฒน์ โอสถานุเคราะห์
ที่มา : ปัญญาญาณ สำนักข่าวทีนิวส์
ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้



https://scontent.fbkk2-2.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/14666150_694414290713334_4549444313934151226_n.jpg?oh=5f20353551e713cf780fab575d0387dd&oe=588B7043

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ตุลาคม 2016, 09:42:09 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #28 เมื่อ: 27 เมษายน 2014, 17:33:58 »



"...เศรษฐกิจพอเพียง เป็นเสมือนรากฐานของชีวิต..รากฐานความมั่นคงของแผ่นดิน

เปรียบเสมือนเสาเข็มที่ถูกตอก..รองรับบ้านเรือนตัวอาคารไว้นั่นเอง

สิ่งก่อสร้างจะมั่นคงได้...ก็อยู่ที่เสาเข็ม

แต่คนส่วนมากมองไม่เห็นเสาเข็ม..และลืมเสาเข็มเสียด้วยซ้ำไป..."

พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานผ่านมูลนิธิชัยพัฒนา



“...เศรษฐกิจพอเพียง จะทำความเจริญให้แก่ประเทศได้

แต่ต้องมีความเพียร...แล้วต้องอดทน

ต้องไม่ใจร้อน..ต้องไม่พูดมาก..ต้องไม่ทะเลาะกัน

ถ้าทำโดยเข้าใจกัน เชื่อว่าทุกคนจะมีความพอใจได้...”

พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 ตุลาคม 2016, 17:53:37 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #29 เมื่อ: 27 เมษายน 2014, 18:12:40 »



ในหลวงของเรา
..วีรบุรุษแห่งเอเชีย : Hero of Asia

โปรดคลิกเข้าชม
http://www.chaoprayanews.com/2013/10/24/time-%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87-a-monarchy-fights-for-freedom/


นิตยสาร ”ไทม์” นิตยสารที่ทรงอิทธิพลฉบับหนึ่งของโลก
ในวาระครบรอบการก่อตั้งนิตยสารครบ 60 ปี
ออกฉบับพิเศษจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2549
 ได้รวบรวมจัดอันดับวีรบุรุษแห่งเอเชีย
 ในหัวข้อ "60 Years of Asian Heroes"
โดยยกย่องบุคคลสำคัญของเอเชีย
 64 คน ใน 5 บทบาท
 คือ ผู้สร้างชาติ ศิลปินและนักคิด ผู้นำด้านธุรกิจ นักกีฬาและนักผจญภัย และผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจ

เป็นที่น่ายินดีสูงสุดสำหรับคนไทยทั้งประเทศ
 ที่หนึ่งในบุคคลที่ได้รับการยกย่องในครั้งนี้ นิตยสาร “ไทม์”
ได้สดุดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในบทบาทของผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจ (Inspirations)
โดยไทม์ระบุว่า พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก
 ทรงใช้พระบารมีแห่งราชธรรมชี้นำประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตหลายต่อหลายครั้ง


อนึ่ง สำหรับกลุ่มบุคคลที่ได้รับยกย่องให้มีบทบาทเป็นแรงบันดาลใจ (Inspirations)
 นั้นมีทั้งสิ้น 14 คน อาทิ ดาไลลามะ แห่งทิเบต และแม่ชีเทเรซา ส่วนอองซาน ซูจี
นักสู้เพื่อประชาธิปไตยของเมียนมาร์ ได้รับการเชิดชูในบทบาทผู้สร้างชาติ
ขณะที่บรูซ ลี ได้รับยกย่องในฐานะนักกีฬาและนักผจญภัย ฯลฯ


คลิกชม ในหลวงและสมเด็จพระบรมราชินีนารถเสด็จกรุงลอนดอน
 ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2503


<a href="http://www.youtube.com/v/GiOxADAFzwg?hl=th_TH&amp;amp;version=3&amp;amp;hl=cccfff&amp;amp;border=1&amp;autoplay=&amp;loop=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/GiOxADAFzwg?hl=th_TH&amp;amp;version=3&amp;amp;hl=cccfff&amp;amp;border=1&amp;autoplay=&amp;loop=1</a>


  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ตุลาคม 2016, 17:08:44 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #30 เมื่อ: 28 เมษายน 2014, 11:57:24 »




 



สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร
แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันราชาภิเษกสมรส (28 เมษายน)
ตั้งแต่วันที่ 25-29 เมษายน ระหว่างเวลา 8.30 น.- 16.30 น.




พิธีราชาภิเษกสมรส .....

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2493 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ
ให้จัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสขึ้น ณ พระตำหนักใหญ่ วังสระปทุม
 สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าทรงเป็นประธานในพระราชพิธี

เมื่อถึงเวลาพระฤกษ์ 09.30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย
 และหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ลงนามในสมุดทะเบียนสมรส ซึ่งถือเป็น
 “ครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ไทยทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย”

ต่อจากนั้นทั้งสองพระองค์เสด็จขึ้นประทับ ณ ห้องพระราชพิธี
สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าทรงรับดอกไม้ ธูปเทียน
พระราชทานน้ำพระพุทธมนต์ เทพมนตร์ และทรงเจิมพระนลาฏแด่ทั้งสองพระองค์

เมื่อสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าทรงเจิมแก่หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์
 แล้วมีรับสั่งว่า “หันออกไปยิ้มกับผู้คนที่เขามาซิ เขาอุตส่าห์มากันเต็ม ๆ
 ออกไปให้เขาเห็นหน่อย” พระราชดำรัสนี้เป็นที่มหัศจรรย์แก่ผู้เข้าเฝ้า ณ ที่นั้น
ด้วยสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้ามีพระชนมายุใกล้ 90 พรรษา
ทรงเลือนความจำด้วยพระชราภาพและมักจะไม่มีพระราชดำรัสแล้ว

อนึ่ง ในพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สถาปนา
 “หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร” เป็น “สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์”
และพระราชทานเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมวงศ์
ซึ่งเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดที่จะพระราชทานเฉพาะขัตติยตระกูล




พระคู่ฟ้า คู่บุญ คู่บารมี
ขอสองพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
 ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

 

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ตุลาคม 2016, 15:46:58 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #31 เมื่อ: 28 เมษายน 2014, 12:09:36 »

 

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2543
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ
เสด็จลง ณ ศาลาเริง วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องใน "งานราชาภิเษกสมรสครบ 50 ปี"


28 April 2000. Their Majesties the King and Queen,
 accompanied by members of the Royal Family,
 presiding over the Religious Rites on the occasion of
 "50th Royal Wedding Anniversary" at Klai Kangwol Palace.



 

<a href="http://www.youtube.com/v/oD5Xrz4StwA?hl=th_TH&amp;amp;version=3&amp;amp;hl=cccfff&amp;amp;border=1&amp;autoplay=&amp;loop=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/oD5Xrz4StwA?hl=th_TH&amp;amp;version=3&amp;amp;hl=cccfff&amp;amp;border=1&amp;autoplay=&amp;loop=1</a>





ทรงพระเจริญ
 
 

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ตุลาคม 2016, 16:18:15 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
♫♥♪♥ พ ริ ม ♫♥♪♥
สมาชิกกิตติมศักดิ์vip
۞Webmaster۞
ปรมาจารย์ C10

Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 318807
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 572,250


ข่าวหวย ข่าวดังเลขเด็ด


« ตอบ #32 เมื่อ: 28 เมษายน 2014, 14:10:57 »





        
บันทึกการเข้า
♥✿ (เอ๋) ✿♥
สมาชิกกิตติมศักดิ์วีไอพี
✤ Webmaster ✤
ยอดปรมาจารย์ C11

Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 246872
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 370,707



« ตอบ #33 เมื่อ: 28 เมษายน 2014, 22:30:58 »





วันที่ ๒๘ เมษายน ครบรอบ ๖๔ ปี พิธีราชาภิเษกสมรส ขอล้นเกล้าฯทั้งสองพระองค์ ทรงพระเจริญ

นับจากวันที่ 28 เมษายน 2493 จวบจนวันนี้ ยาวนานมาถึง 60 ปีแล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงเข้าพิธีราชาภิเษกสมรส
กับ หม่อมราชวงศ์ สิริกิติ์ กิติยากร พระธิดาพระองค์ใหญ่ใน พลเอกพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ
 และ หม่อมหลวงบัว กิติยากร ณ พระตำหนักสมเด็จพระศรีวสรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
วังสระปทุม หลังจากที่ทรงหมั้นกับ ม.ร.ว. สิริกิติ์ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2492
ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากเข้าพิฑีราชาภิเษกสมรสแล้ว
ได้ทรงสถาปนาหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในครั้งนั้น นับว่าเป็นครั้งแรกสำหรับพระมหากษัตริย์ไทยในยุคประชาธิปไตย
ที่ได้ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายเช่นเดียวกับประชาชนชาวไทยทั่วไป


"ขอพระองค์ทรงพระเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน"
     
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #34 เมื่อ: 29 เมษายน 2014, 12:16:44 »



"...เคยมีผู้กล่าวไว้ว่าราชอาณาจักรนั้นเปรียบเหมือนพีระมิด
มีพระมหากษัตริย์อยู่บนยอด และมีประชาชนอยู่ข้างล่าง แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว
 ดูเหมือนทุกอย่างจะตรงกันข้าม นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องปวดคอ และบริเวณไหล่อยู่เสมอ..."

#ความตอนหนึ่งในพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานสัมภาษณ์แก่คณะกองบรรณาธิการนิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก เมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๕

#ข้อมูลหนังสืออัจฉริยราชา :





  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ตุลาคม 2016, 16:09:45 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #35 เมื่อ: 30 เมษายน 2014, 11:06:07 »


"กษัตริย์" แปลว่านักรบ หน้าที่ของพระมหากษัตริย์โดยหลักจึงได้แก่การป้องกันขอบขัณฑสีมา
 หากแต่ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ทรงบำเพ็ญพระองค์ได้
 "สมหน้าที่" และ "วิเศษกว่าหน้าที่" ของความเป็นกษัตริย์หลายเท่าพันทวี

พระราชสถานะ พระราชสมัญญา รางวัลสดุดีพระเกียรติคุณ คือ
 เครื่องหมายอันปรากฏแสดงให้คนไทยได้ตระหนักว่า เราทั้งหลายโชคดีแค่ไหนที่มีพระประมุขผู้ประเสริฐสุด
เพราะเหตุว่า "ทรงเป็นยิ่งกว่ามหากษัตริย์"

 9 เรื่องเล่า จากในหลวงรัชกาลที่ 9

คลิกชม
 http://www.baabin.com/188883/

เรื่องราวจากในวังอ่านแล้วจะยิ่งรักในหลวง

http://baabin.com/188904/

เก็บไว้ให้ลูกหลานดู!! วิวัฒนาการธนบัตรไทย​ ตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ขึ้นครองราชย์

https://pepperrr.net/th/articles/6219


ส.ค.ส.พระราชทานจากในหลวง

https://www.facebook.com/radanlandi/media_set?set=a.1103264973047535.1073741904.100000921285413&type=3&pnref=story


  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ตุลาคม 2016, 16:32:57 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #36 เมื่อ: 30 เมษายน 2014, 11:06:56 »



ภาพเมื่อครั้งในหลวงผนวชขณะเสด็จฯผ่านพระตำหนักเพชร วัดบวรนิเวศน์ฯ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499


ในช่วงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมพรรษา ประมาณ ๔๐ พรรษา
 เป็นช่วงที่พระองค์เริ่มทรงงานหนักที่สุด อย่างต่อเนื่องและยาวนานหลายสิบปีเลยทีเดียว

ใจนึกนะว่าพระองค์ เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ไม่มีภาระหน้าที่ที่จะต้องทรงงานหนักขนาดนี้ก็ได้
งานเหล่านี้เป็นหน้าที่ของราชการอย่างพวกผมโดยตรง แต่พระองค์ก็อุทิศพระวรกาย เสด็จฯ ทรงงานทั่วผืนดินไทยทุกจังหวัด ทุกภาค

ไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง ทุกชนชาติศาสนา ใกล้ ไกล ลำบากแค่ไหน เรียกว่าไปหมด
 บางครั้งพื้นที่หลายแห่งหน่วยงานราชการยังเข้าไปไม่ถึงเลย ไปอย่างชนิดที่เรียกตามประสาชาวบ้านว่า

ถึงลูกถึงคน ไปให้รู้ดูให้เห็น สภาพความเป็นอยู่ด้วยพระองค์เองกับตา ไม่ใช้ใครไปดูแล้วมารายงานแค่นี้นะ

คัดลอกจากหนังสือการทรงงานของพ่อในความทรงจำ
โดย ปราโมทย์ ไม้กลัด

ขอขอบคุณ Cr.ราชบัลลังค์ และจักรีวงค์.


ที่มา https://www.facebook.com/ChwyKanPkpxngNihlwngLaeaSrangMeuxngThiyHiNaXyu/photos/a.526506130709077.137160.526498714043152/817916481568039/?type=3&theater

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ตุลาคม 2016, 16:54:52 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #37 เมื่อ: 30 เมษายน 2014, 11:18:56 »



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์เดียวในโลก
ที่เป็นนักประดิษฐ์



เรื่องเล่าเล็กๆ..จากแฉ..ความลับ..โดยเสธ.น้ำเงิน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์เดียวในโลก
ที่เป็นนักประดิษฐ์ ความสนพระทัยในงานช่างมีมาตอนพระเยาว์
 สมเด็จย่าเลี้ยงดูพระองค์อย่างค่อนข้างจะเข้มงวด
 ไม่มีแม้แต่ของเล่นมากมายสำเร็จรูป อย่างฟุ่มเฟือยเหมือนอย่างสมัยนี้
 เช่น หากพระองค์อยากได้วิทยุมาฟัง ก็ต้องเข้าหุ้นกับทูลกระหม่อมลุง
ซื้อชิ้นส่วนของวิทยุทีละชิ้นๆ แล้วก็เอามาประกอบเองเป็นวิทยุ
บางครั้งเงินที่ได้รับเป็นค่าขนมก็ไม่พอซื้อของที่พนะองค์ท่านอยากได้
ก็ต้องมีการหาเงินพิเศษ โดยต้องใช้ความสามารถของพระองค์ท่านเอง

ในหลวงทรงโปรดการช่างพิเศษ ตั้งแต่ในสมัยทรงพระเยาว์
 ทรงนำสิ่งของที่เหลือใช้ภายในพระตำหนักที่ประทับเท่าที่จะหาได้ เช่น
ไม้แขวนเสื้อมาสร้างรถไฟฟ้าแล่น มอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับทำให้รถไฟแล่นก็
ทรงประดิษฐ์เอง โดยเอาลวดทองแดงมาพันเข้าเป็นแกนกลางของเครื่องมอเตอร์
ในพระตำหนักจะเต็มไปด้วยเครื่องมือช่างไม้ เครื่องช่างกล และสิ่งของที่ทรงสนพระทัย
ทรงเป็นนักประดิษฐ์คิดค้นชั้นเลิศ เห็นได้จากสิ่งต่าง ๆ
 ที่พระองค์ทรงประดิษฐ์ หรือมีพระราชดำริให้จัดทำขึ้น

พระองค์ทรงเล่น “สร้างเขื่อนเก็บกักน้ำ“ โดยทรงขุดดินเป็นแอ่งน้ำเล็ก ๆ
 แล้วทรงจัดทำคลอง ทรงนำกิ่งไม้มาประดับไว้ริมคลอง
 เหมือนเป็นต้นไม้ที่อาศัยน้ำในบริเวณนั้น เพื่อให้เจริญงอกงาม
ซึ่งในขณะนั้นคงไม่มีใครคาดคิดว่าการเล่นของพระองค์
 คือ การทรงเริ่มงานเทคโนโลยีด้านชลประทานและการปลูกป่า

จนเมื่อกาลเวลาล่วงเลยไป ในระหว่างทรงครองราชย์ ฯ
 ได้ทรงสร้างสรรค์ผลงานด้านวิศวกรรมในการชลประทาน
การสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำ ฝายกั้นน้ำ คลองส่งน้ำ
และการปลูกป่าป้องกันไฟป่า เป็นโครงสร้างอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
 เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
 ยังความอุดมสมบูรณ์แก่ผืนแผ่นดินไทยอย่างกว้างขวาง..
พระองค์ทรงเตรียมพร้อม ในการเป็นพระมหากษัตริย์ ผู้ปกป้อง
ขจัดความทุกข์ยาก เตรียมจัดหาข้าว ปลา อาหาร ให้แก่ราษฎร
ในแผ่นดินของพระองค์ มาตั้งแต่ทรงพระเยาว์มากแล้ว

เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ทรงต่อเรือรบศรีอยุธยา ย่อสเกล 1:50
พระองค์ทรงภูมิพระทัยมาก ทูลสมเด็จพระราชชนนีว่ารักมาก ต่อเหมือนที่สุด
 ทรงใช้ความละเอียด ใช้เวลาในการต่อนานมาก วันดีคืนดีสมเด็จพระราชชนนี
 รับสั่งว่าจะเอาเรือที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อนี้ไปแล้ว
 พระทัยนี้วูบเลย คล้ายๆ กับว่าของที่เราต่อมา
 ของเล่น ต่อเรือ ต่อเรือบิน เมื่อเสร็จแล้วภูมิใจมาก

สมเด็จพระราชชนนี รับสั่งว่าต้องนำไปทำประโยชน์ให้กับส่วนรวม
ขอเรือลำนี้ไปประมูล เพื่อเอาเงินทำการกุศลหาทุนบำรุงโรงพยาบาลปราบวัณโรค
 พระองค์ทรงถูกฝึกมาตลอดเวลา จึงทรงยอม แต่ทรงมีรับสั่งว่า
ประมูลได้เท่าไหร่นั้น คนทำได้ 10 % ครั้งนั้นประมูลได้ราว 60,000 บาท
และทรงได้รับส่วนแบ่งมาเพียง 600 บาท เป็นเงินก้อนแรกที่ทรงได้มา
 และเอามาซื้อกล้องถ่ายรูปอันแรก ต่อมาได้ทรงจำลองเรือหลวงธนบุรี
 และทรงประดิษฐ์หุ่นเครื่องบินเล็กต่าง ๆ ที่มีสัดส่วนเหมือนของจริงด้วย
 และทรงมอบให้นำไปประมูลในงานการกุศลเช่นกัน

จะเห็นได้ว่าแต่ละสิ่ง แต่ละอย่างที่ทรงได้มาสมัยเด็กๆ
ไม่ใช่ได้มาจากความฟุ่มเฟือย แต่พระราชชนนีทรงฝึก
ให้ทรงทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมตลอดเวลา
เป็นสิ่งที่ทรงถูกปลูกฝังตลอดมาโดยพระราชชนนี
 เป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้พระองค์จึงเห็นแก่ประโยชน์ราษฎร์
มากกว่าความเหนื่อยยากของพระองค์เอง

แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจได้เกิดขึ้น
 คือ เมื่อวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปีนั้น
เรือลำนั้นได้กลับมาหาพระองค์อีกครั้งหนึ่ง
คนที่ประมูลได้ครั้งนั้นได้นำกลับมาทูลเกล้าฯ
ถวายคืนหลังจากที่เวลาผ่านไปหลายสิบปี
บุญกุศลนั้นก็ได้กลับคืนมาหาพระองค์อีกครั้งหนึ่ง ทรงได้รับสั่งว่า
"ประเทศของเราที่อยู่รอดมาได้นั้น เพราะประชาชนของเรานั้นยังให้กันอยู่"

คนไทยที่อยู่อาศัยในแผ่นดินพระบารมีของพระองค์
 จึงควรจะมินิสัยเป็นผู้ให้กับสังคมให้ติดเป็นนิสัย
ไม่ใช่ว่าจะรับแต่อย่างเดียว เห็นแก่ได้อย่างเดียวตลอดชีวิตก็คงไม่ได้
 เพราะสังคมไทยเรานั้นอยู่ได้เพราะ "การให้"
ดังที่ในหลวงทรงทำเป็นตัวอย่าง
ให้หมดทุกอย่างกับพสกนิกร และชาติบ้านเมือง






เรือรบหลวงศรีอยุธยาจำลอง ฝีพระหัตถ์ในหลวงของเรา


ทรงพระเจริญ
 

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ตุลาคม 2016, 12:54:34 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #38 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2014, 12:23:53 »























  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 ตุลาคม 2016, 13:01:03 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #39 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2014, 12:36:52 »

พ่อของแผ่นดินใช้รถคันเก่าคันเดิมทรงงานเสด็จหลายสิบปี จนรถพังท่อไอเสียหลุดกลางทาง
คลิกอ่านที่ลิงค์
 http://www.kratisod.com/mainnews/889
“รถในหลวง” ที่ใช้ทรงงานและเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในที่ห่างไกลทั่วทุกภาคของพระองค์จนกลายเป็นตำนานที่ได้รับการกล่าวขานมาถึงทุกวันนี้




พระจริยวัตรอันเรียบง่ายของ ร.๙ เรื่องเล่าจากหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี
คลิกดูที่ลิงค์
http://manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9590000106220





หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เมื่อครั้งถวายงานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

         
       แม้ในวันนี้ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี หรือ "ท่านภี" จะมีชันษาเกือบร้อยปี แต่ ก็ยังคงมีสุขภาพแข็งแรง และมีความจำดีเยี่ยม โดยเฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ท่านยังทรงจดจำได้แม่นยำ พร้อมทรงถ่ายทอดเรื่องราวพระราชกรณียกิจ และความซาบซึ้งเมื่อครั้งถวายงานให้ได้ฟังราวกับเหตุการณ์นั้นเพิ่งผ่านพ้นมาได้ไม่เพียงไม่กี่วัน โดยหวังให้ประชาชนได้ทราบและจดจำพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ท่านไว้ในความทรงจำ
       
      เชื่อว่าเมื่อได้อ่านแล้ว ทุกคนจะมีรอยยิ้มและอิ่มใจกับเรื่องของพระองค์ท่านอย่างแน่นอน




“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงต่อเรือในช่วงเวลาว่าง

        “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ท่านทรงงานได้หนัก ละเอียด และทรงงานได้นานด้วยนะ ผมทราบเรื่องนี้ได้ดีเลย เพราะว่าผมเห็นด้วยตาตัวเอง จุดเริ่มต้นที่มาถวายงานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น มาจากเรื่องเรือใบ” ท่านภี เริ่มต้นเล่าเรื่อง
       
       ด้วยความที่ชอบเล่นเรือใบ เมื่อกลับจากเมืองนอกเงินแต่มีเงินน้อย จึงไปซื้อตำราและไม้มาต่อเองจนสำเร็จจึงนำไปเล่นที่ทะเลหัวหิน เวลานั้นในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงเรือกรรเชียงเพื่อทรงออกพระกำลังในตอนเช้า เมื่อพระองค์ท่านทอดพระเนตรเห็นเรือใบที่ต่อเองของท่านภี ก็มีรับสั่งให้เข้าเฝ้าฯและรับสั่งว่า อยากทรงเรือใบ และต่อเรือเอง



 ตั้งแต่นั้น “ท่านภี” ก็ได้เข้าเฝ้าฯที่วังสวนจิตรลดา เพื่อร่วมต่อเรือใบกับพระองค์ท่านจนเรือใบลำแรกสำเร็จ ทรงพระราชทานนามว่า “ราชปะแตน” “ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงเป็นช่างฝีมือดี หลังกลับจากทรงงานข้างนอกเข้ามาก็จะรีบเปลี่ยนฉลองพระองค์จากชุดเครื่องแบบ เป็นเสื้อยืด เวลาทรงต่อเรือ ท่านก็ต่ออยู่ตั้งนาน และจะทำงานเรียบร้อยไม่เลอะสีหรือกาวเลย…ขณะที่ผมเองเลอะเต็มตัวไปหมด” ท่านภี ย้อนรำลึกความหลังด้วยรอยยิ้มแห่งความศรัทธาและชื่นชม



 เมื่อเรือเสร็จ ท่านภีก็ต้องเล่นเป็นลูกเรือของในหลวงรัชกาลที่ ๙ โดยรับสั่งว่าท่านภีนั้นเป็นทั้ง ‘ครู’ ภาษาไทย (Teacher) และ ‘ครูว์’ ภาษาอังกฤษ (Crew ลูกเรือ) ของพระองค์ท่าน
       
       ท่านภี ทรงเล่าว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงพระปรีชาสามารถในเรื่องการแข่งเรือมาก โดยการแข่งครั้งแรก ทรงเรือพระที่นั่งราชปะแตน แล่นออกไปก็นำเพื่อน ลำอื่นจะขึ้นหน้าท่านก็ลำบากเพราะว่าอยู่ใต้ลม “ท่านได้ที่หนึ่ง ไม่ใช่ว่าพวกฝรั่ง หรือพวกไทยจะยอมแพ้ให้ท่านนะครับ ท่านชนะเพราะพระปรีชาจริงๆ พระหัตถ์ถือท้ายเรือท่านละเอียดถี่ถ้วนมาก ท่านถือท้ายเก่งโดยธรรมชาติ อย่างเวลาเล่นเรือ เจอลมแรง เราต้องเอนตัวเอาเท้าใส่ตรงท้องเรือ แล้วก็เอนลงไป เพื่อไม่ให้เรือเอียง ขาเนี่ยจะปวดมากเลย ยิ่งเวลาแล่นไปไกลๆ ผมเจ็บขา ผมจะเลี้ยวเปลี่ยนไปนั่งอีกทางหนึ่ง เพื่อให้เรือแล่นช้าลง แต่พระเจ้าอยู่หัวท่านทนไปได้ไกลมากเลย อีกอย่างหนึ่งคือ ท่านมีความสังเกตมากเลย อย่างพวกเราอยู่ในทะเล ก็ไม่ได้นึกถึงกระแสน้ำว่าเป็นยังไง แต่ท่านทรงทราบนะ มีตอนนึงที่เด่นอยู่น้ำมันเด่นไปทางนี้แรงกว่าอยู่ทางนี้ เพราะฉะนั้นอย่างเวลาแข่งกัน ท่านก็พยายามหนีไปอีกทาง”


  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 ตุลาคม 2016, 13:14:04 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #40 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2014, 12:50:59 »



 คำพ่อสอน...'สงบ หนักแน่น มั่นคงในกาลทุกเมื่อ'
". . .ในชีวิตคนเรานั้น..ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดจะอยู่เป็นปกติสุขอย่างเดียวได้
ย่อมจะมีทั้งภัย..ทั้งอุปสรรค..ทั้งเคราะห์ร้ายผ่านเข้ามาบ้าง อย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงพ้น
ข้อสำคัญ...เมื่อต้องประสบเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่บางครั้งทำให้ใจหายใจคว่ำได้..
.จะต้องไม่ใจเสีย ..เพราะจะทำให้เสียขวัญ..เสียกำลังใจ..ทำให้จนปัญญา..คิดไม่ออก..ทำไม่ถูก และที่สุดก็อาจผิดพลาดเสียหายต่างๆได้
ทางที่ถูก...จะต้องพยายามสงบใจ..ทำใจให้ดี..หายใจยาวเผชิญหน้ากับสถานการณ์...อย่างที่เรียกว่า 'ทำใจดีสู้เสือ'
ก็จะทำให้เกิดสติรู้เท่าทัน..สามารถใช้ปัญญาพิจารณาเห็นเหตุเห็นผลได้กระจ่างชัด..หาทางปฏิบัติได้ถูกต้อง..พอเหมาะพอดี..ไม่มีอับจน
บัณฑิตจึงควรอย่างยิ่งที่จะฝึกฝนอบรมตนเอง...ให้เป็นผู้มีใจดี..มีใจที่สงบ..และหนักแน่นมั่นคง ในกาลทุกเมื่อ. . ."
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๔๑




'เหตุที่ดินยังคงหลงรักฟ้า'

มีคำกล่าวของกวีเอกของโลกว่า "ผืนดินและแผ่นฟ้านั้นแตกต่างและอยู่ห่างไกลกัน
 อย่างที่ไม่มีทางจะมาบรรจบพบกันได้ ในอนันตกาล"
 แต่ดูเหมือนคำกล่าวนี้จะถูกท้าทายให้พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง และนำมาใช้ไม่ได้เลยในสยามประเทศ

เนื่องเพราะ..ประเทศเล็กๆแห่งนี้ ผืนดินและแผ่นฟ้าสามารถเลื่อนมาบรรจบพบกันได้อย่างเนียนสนิทมาเป็นเวลาเกือบ ๗๐ ปีแล้ว
 และจะยังคงเป็นเช่นนั้นตลอดไปตราบนานกาลนิรันดร

หากจะถามว่าปรากฏการณ์ 'ฟ้าจรดดิน' เกิดขึ้นได้อย่างไรในราชอาณาจักรนี้ ก็ขอตอบว่า
 "ด้วยอานุภาพแห่งความรักอันบริสุทธิ์ใจที่ฟ้ามอบให้แก่ดิน และที่ดินมีตอบ...มอบให้แก่ฟ้านั่นเอง"

('ที่สุดแห่งความดี' ว.วชิรเมธี)

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ตุลาคม 2016, 12:32:44 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #41 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2014, 13:06:22 »










  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ตุลาคม 2016, 12:36:37 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
♥✿ (เอ๋) ✿♥
สมาชิกกิตติมศักดิ์วีไอพี
✤ Webmaster ✤
ยอดปรมาจารย์ C11

Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 246872
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 370,707



« ตอบ #42 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2014, 10:02:19 »


วันฉัตรมงคล  ตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม คือวันรำลึกถึงวันที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน
ได้ทรงกระทำพิธีบรมราชาภิเษกเสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีอย่างสมบูรณ์
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 และทรงมีพระปฐมบรมราชโองการว่า
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”



       
บันทึกการเข้า
♫♥♪♥ พ ริ ม ♫♥♪♥
สมาชิกกิตติมศักดิ์vip
۞Webmaster۞
ปรมาจารย์ C10

Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 318807
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 572,250


ข่าวหวย ข่าวดังเลขเด็ด


« ตอบ #43 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2014, 11:02:51 »



วันฉัตรมงคล
ตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม จวบจนบัดนี้ถือเป็นวันรำลึก ในวโรกาสครบรอบ 64 ปี
ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงรับพระบรมราชาภิเษก
เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ แห่งราชอาณาจักรไทยโดยสมบูรณ์
ทั้งนี้ ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นว่า
"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"

จะขอเป็นข้าบาททุกชาติไป
แม้ชาติไหนจะไม่ลืมพระคุณนี้
ตัวยอมตาย ใจพร้อมจะยอมพลี
ขอเทิดทูนสดุดีด้วยหัวใจ


ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

    

บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #44 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2014, 09:02:24 »


"ชาติไทยเรานั้นได้มีเอกราช มีภาษา ศิลปะ และขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นของตนเอง
 มาช้านานหลายศตวรรษแล้ว ทั้งนี้เพราะบรรพบุรุษของเราได้เสียสละอุทิศชีวิต กำลังทั้งกายและใจ
 สะสมสิ่งเหล่านี้ไว้ให้เพื่อพวกเรา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ให้คงทนถาวร
เป็นมรดกของอนุชนรุ่นหลังต่อไป ข้าพเจ้าเห็นว่าโบราณวัตถุและศิลปวัตถุทั้งหลายนั้นเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
ที่ชี้ให้เห็นอดีตอันรุ่งโรจน์ของชาติไทยเรา เป็นประโยชน์แก่การศึกษาทั้งในทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ
โบราณคดี และวัฒนธรรม จึงควรที่ทุกฝ่ายจะได้ช่วยกันทะนุถนอมบำรุงรักษาอย่าให้สูญสลายไป”

พระบรมราโชวาท
ในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ รามคำแหง จังหวัดสุโขทัย
วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๐๗
***

 

ตามรอยพ่อ




พระราชพิธีฉัตรมงคล พุทธศักราช ๒๕๕๗ (15 รูป)
วันจันทร์ ที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๒๙ น.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพร้อมด้วย
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์
พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ
 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ
พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ณ ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล
 อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในการพระราชพิธีฉัตรมงคล

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระตำหนักเปี่ยมสุข
ถึงศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จเข้าท้องพระโรง ศาลาราชประชาสมาคม
ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาล
ที่ด้านหลังพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร แล้วประทับพระราชอาสน์
สมเด็จพระราชาคณะถวายศีล พระสงฆ์ ๒๐ รูป ถวายพรพระ จบแล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนจตุปัจจัยแทนเครื่องไทยธรรมแด่สมเด็จพระราชาคณะ
แล้วทรงยืนประเคนจตุปัจจัยแทนเครื่องไทยธรรมแด่รองสมเด็จพระราชาคณะ
และพระราชาคณะ เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหลั่งทักษิโณทก
พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรกถวายพระพรลา
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย
บูชาเทพยดารักษานพปฎลมหาเศวตฉัตรสิริราชกกุธภัณฑ์
พระราชทานแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปตั้งที่หน้า
พระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร ซึ่งประดิษฐานเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์
เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงคมพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ด้านหลังพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร
 แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับพระตำหนักเปี่ยมสุข
วังไกลกังวล พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
และพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ
การนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
และพระบรมวงศานุวงศ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ส่งเสด็จ

ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์
ในการสมโภชนพปฎลมหาเศวตฉัตรสิริราชกกุธภัณฑ์

ครั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
 เสด็จเข้าท้องพระโรง ศาลาราชประชาสมาคม
พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชนพปฎลมหาเศวตฉัตรสิริราชกกุธภัณฑ์
 แล้ว พราหมณ์เจิมนพปฎลมหาเศวตฉัตร โหรผูกผ้าสีชมพู
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ทรงพระสุหร่ายเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์
 และพระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ทองคำประจำรัชกาล
 เสร็จแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ทรงคมพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ด้านหลังพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร
 แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ



[ภาพโดย ฝ่ายช่างภาพส่วนพระองค์ สำนักพระราชวัง]




ครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชปรารภว่า

"ฉันครองราชย์สองปีแรก ฉันไม่มีผลงาน เพราะฉันยังไม่รู้ว่าราษฎรต้องการอะไร"

เป็นที่ประจักษ์ว่า ทรงมองการเป็นพระมหากษัตริย์เป็นเรื่องของงาน
 เป็นพระราชภาระ ที่จะสนองความต้องการของราษฎร
เพื่อราษฎรจะได้ดำรงชีวิตอย่างมีความสุข
 และการที่จะทรงงานให้ได้ผลตรงเป้าหมายได้นั้น
 ต้องทราบว่า ประชาชนต้องการอะไร


ที่มา : "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับคณะองคมนตรี". พลอากาศเอก กำธน สินธวานนท์. หน้า ๑๕๑. ๒๕๕๕.




พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงละเอียดถี่ถ้วน เมื่อเสด็จ ฯ
ไปในพื้นที่ด้วยพระองค์เอง จะทรงถามไถ่ทุกข์สุขราษฎรถึงความเป็นอยู่
 การทำมาหากิน แม้กระทั่งว่า ในการเดินทางมานั้นผ่านอะไรมาบ้าง
 ทรงรวบรวมรายละเอียดทุกอย่างที่เกี่ยวกับพื้นที่ไว้ด้วย
ข้อมูลที่ทรงได้รับจึงเป็นข้อมูลปฐมภูมิที่เชื่อถือได้

แผนที่ของพระองค์ท่านจึงมักใช้ได้ทันสมัยกว่าที่ราชการทำไว้
ครั้งหนึ่งทอดพระเนตรแผนที่กับตำรวจตระเวนชายแดน
 ในแผนที่ของตำรวจลงไว้ว่า มีบ้านร้าง กลับรับสั่งว่า
 ไม่ร้าง มีคนอาศัยอยู่ อย่างน้อย ๓ ครอบครัว ที่ทรงทราบเช่นนั้น
เพราะเพิ่งทรงถามจากราษฎรที่มาเฝ้า ฯ เมื่อทางตำรวจไปดูก็ปรากฏว่าเป็นความจริง

เมื่อทรงได้รับข้อมูลและสรุปปัญหาความต้องการแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ก็จะทรงพระราชดำริว่า จะช่วยเหลืออย่างไร
 จึงเกิดเป็นโครงการตามพระราชดำริว่า ๔,๐๐๐ โครงการ
 ส่วนใหญ่จะเป็นขนาดเล็กที่ช่วยบรรเทาทุกข์ของราษฎรได้โดยเร็ว
 เป็นงานที่สนับสนุนและกระตุ้นรัฐบาล
โดยไม่ขัดต่อแผนใหญ่ของรัฐในการพัฒนาประเทศ มีหน่วยงานที่เรียกย่อ ๆ
ว่า กปร. อยู่ในสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
 ช่วยประสานระหว่างกัน ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ
ให้ตั้งมูลนิธิชัยพัฒนาขึ้นดูแลโครงการต่าง ๆ เหล่านี้
 เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อเนื่องของโครงการ

ที่มา : "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับคณะองคมนตรี". พลอากาศเอก กำธน สินธวานนท์. หน้า ๑๕๒-๑๕๔. ๒๕๕๕.



 



คลิกชม
ภาพชุด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย พระบรมวงศ์ศานุวงศ์
เสด็จฯยัง ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล จ.ประจวบคิรีขันธ์
 เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีวันฉัตรมงคล


https://www.facebook.com/photo.php?v=10152379471942450&set=vb.359255107449&type=2&theater



 

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ตุลาคม 2016, 12:39:09 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #45 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2014, 09:08:05 »

















ตามรอยพ่อ

 

วันพุธ ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๑.๑๒ น.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง
จากพระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ไปทรงติดตามความก้าวหน้ากิจการด้านโคนมของโครงการชั่งหัวมัน
 ตามพระราชดำริ อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เป็นการส่วนพระองค์



รอยแย้มสรวลของพ่อ คือความสุขของคนไทย

ประมวลภาพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ
ไปทรงติดตามการดำเนินงาน ด้านการเลี้ยงโคนม ณ พื้นที่ฟาร์มโคนม ชั่งหัวมัน
 ซึ่งขณะนี้กำลังก่อสร้างโรงนม เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้อย่างครบวงจรให้แก่เกษตรกร
เช่นเดียวกับที่โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา
 นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งฝึกงานของนิสิตนักศึกษา
ในด้านเทคโนโลยีการเกษตรและสัตวศาสตร์อีกด้วย ( 7 พฤษภาคม 2557)

[ภาพโดยฝ่ายช่างภาพส่วนพระองค์ สำนักพระราชวัง]

วันนี้ในอดีต

วันนี้ในอดีต : วันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๒๔
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
 พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์
 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงกระทำพิธีเปิดอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า


ขอทุกพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
 

คลิกชมคลิปในหลวงเสด็จโครงการชั่งหัวมัน
https://www.facebook.com/photo.php?v=1445754145665917&set=vb.1433459853562013&type=2&theater


  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ตุลาคม 2016, 12:45:34 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #46 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2014, 16:21:51 »



“....งานพัฒนาบ้านเมืองนั้น ต้องอาศัยบุคคลสองประเภท คือนักวิชากับผู้ปฏิบัติ นักวิชาการเป็นผู้วางโครงการ เป็นผู้นำ เป็นผู้ชี้ทาง
เป็นที่ปรึกษาของผู้ปฏิบัติ
ส่วนผู้ปฏิบัตนั้นเป็นผู้ลงมือลงแรงกระทำงาน งานจะได้ผลหรือไม่เพียงไร ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสองฝ่ายนี้....”

พระบรมราโชวาท ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๑๓




ความเจริญของประเทศชาติ เป็นความเจริญส่วนรวม
ซึ่งเกิดจากผลงานหรือผลของการกระทำของคนทั้งชาติ
ถือได้ว่าทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำประโยชน์ให้แก่ชาติ

ตามความถนัดและความสามารถ และเกื้อกูลกันและกัน
 ไม่มีผู้ใดจะอยู่ได้และทำงานให้แก่ประเทศชาติได้โดยลำพังตนเอง

พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

(ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
10 กรกฎาคม 2513)



 
เล่นตามพ่อ
คลิกอ่าน
http://www.tkpark.or.th/tha/articles_detail/204/



  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 ตุลาคม 2016, 16:39:06 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #47 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2014, 16:33:50 »




 "นาข้าวทดลอง"




เมื่อปี ๒๕๐๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ
ให้ทำการฟื้นฟูพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญขึ้น
 หลังจากที่ว่างเว้นไปตั้งแต่ปี ๒๔๗๙ และปรับปรุงพิธีการบางอย่างให้เข้ากับยุคสมัย
 เพื่อเป็นการรักษาขนบธรรมเนียมโบราณราชประเพณี และเป็นการบำรุงขวัญกำลังใจแก่เกษตรกร

ต่อมาในปี ๒๕๐๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ
ให้กรมการข้าว (ปัจจุบัน คือ กรมวิชาการเกษตร) นำข้าวสายพันธุ์ต่าง ๆ
จากทั่วประเทศ มาทดลองปลูกในนาข้าวทดลอง
 ทั้งแบบนาดำและนาหว่านที่ปลูกในพื้นที่ลุ่มมีน้ำขัง (หรือที่เรียกว่า นาสวน)

โดยในปีแรก ในวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๐๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงขับควายเหล็ก หรือรถไถแบบสี่ล้อคันแรกของประเทศไทย
 ซึ่งออกแบบโดย หม่อมราชวงศ์เทพฤทธิ์ เทวกุล
(โดยพระราชทานคำแนะนำในการปรับปรุงให้เหมาะสมกับการใช้งาน)
เตรียมแปลงปลูกข้าว ทรงหว่านข้าว (พันธุ์ “นางมล”) และทรงเกี่ยวข้าวด้วยพระองค์เอง


นอกจากนี้ เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๐๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้จัดพิธีทำขวัญข้าวหรือขวัญแม่โพสพขึ้น
 ณ แปลงนาข้าวทดลอง ขณะที่ต้นข้าวอยู่ในระยะกำลังตั้งท้อง
เพื่อรอจะออกรวง ซึ่งเป็นประเพณีโบราณ และเป็นอุบายชนิดหนึ่งของชาวนา
ในการตัดแต่งใบข้าว เพื่อไม่ให้ต้นข้าวสูง และล้มพับ เป็นเหตุให้เมล็ดลีบ และผลผลิตน้อย



และเมื่อปี ๒๕๑๗ ชาวนิคมช่วยตนเอง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ได้กราบบังคมทูลเกี่ยวกับปัญหาผลผลิตจากข้าวไร่น้อย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ
ให้มีการทดลองปลูกข้าวในลักษณะที่เรียกว่าข้าวไร่ หรือข้าวหยอดหลุม
ซึ่งเป็นลักษณะการทำนาบนที่ดอน และที่สูงแบบชาวไทยภูเขา
 ซึ่งจะอาศัยเฉพาะนํ้าฝน โดยมีการทดลองปลูกทั้งพันธุ์ข้าวเจ้า
(พันธุ์ดอกพะยอม) และข้าวเหนียว (พันธุ์ซิวแม่จัน)

ผลผลิตข้าวที่ได้จากแปลงนาข้าวทดลอง
 นอกเหนือจากที่นำไปเก็บรักษาพันธุ์ไว้ที่กรมการข้าว
 เพื่อใช้ในการเพาะปลูกในปีถัดไปแล้ว
ส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ
ให้พระยาแรกนาทำการหว่านข้าวในแปลงนาข้าวทดลอง
โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา เมื่อเสร็จสิ้นพระราชพิธีที่สนามหลวง
และผลผลิตข้าวอีกส่วนหนึ่งจะนำไปบรรจุถุงเป็น
พันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทาน”
สำหรับแจกจ่ายแก่เกษตรกร
 เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการเพาะปลูก




ที่มา : เว็บไซต์โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ตุลาคม 2016, 17:06:32 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #48 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2014, 19:37:23 »



มิใด้เป็นเพียงกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่ยังทรงเป็นพ่อผู้ให้ที่ไม่เคยถือพระองค์








เรื่อง : นายช่าง ยื่นมือมาสิ จะทายาให้"

ขณะที่ในหลวงทรงงาน เพื่อหาที่สร้างฝายทดน้ำ โดยมี อ.ปราโมทย์
 ช่วยถือแผนที่ให้พระองค์ ปรากฎว่ามีตัวคุ่นได้กัดที่มือของอาจารย์
 แต่อาจารย์ก็ได้เก็บอาการเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อหน้าพระพักตร์แต่อาจารย์
คิดว่าพระองค์คงไม่ทรงสังเกตเห็น อาจารย์ก็ได้แต่เอามือถูเพื่อคลายความเจ็บปวดแบบเนียนๆ

ก่อนจะเสด็จฯ กลับ ในหลวงทรงเสด็จฯ พระราชดำเนินไปที่รถยนต์พระที่นั่ง
(การเสด็จฯ ครั้งนั้น ทรงขับรถยนต์ด้วยพระองค์เอง) เหมือนทรงค้นหาอะไรบางอย่าง
 สักพักพระองค์ก็เสด็จฯ พระราชดำเนินกลับไปหาอาจารย์ โดยถือหลอดยามาด้วย

"นายช่าง ยื่นมือมาสิ จะทายาให้"

อาจารย์ได้แต่ยืนตะลึง ใจมิกล้าอาจเอื้อมยื่นมือไปให้พระองค์
 และไม่คิดว่าจะทรงสังเกตเห็นและมีพระเมตตาใส่พระทัยถึงขนาดนี้
... พระองค์ทรงทายาให้อาจารย์ พร้อมตรัสว่า

"ตัวคุ่นมันกัด ถ้าแพ้จะบวม ไม่เป็นไร ทายานี้แล้วเดี๋ยวก็ค่อยยังชั่ว"

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยเกล้ากระหม่อม ขอเดชะ

หนังสือ : การทรงงานของพ่อในความทรงจำ
โดย : ปราโมยท์ ไม้กลัด

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ตุลาคม 2016, 17:03:18 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #49 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2014, 10:38:43 »





ตามรอยพ่อ

พระมหากรุณาธิคุณอันแผ่ไพศาลทั่วแผ่นดิน...

.
ในหลวงทรงพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ ปชช.
นายสัมฤทธิ์ สวามิภักดิ์ นายอำเภอพาน จ.เชียงราย
 กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ทางมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์
 นำเครื่องอุปโภคบริโภคพระราชทานมอบให้แก่ประชาชน
ในจังหวัดเชียงรายจำนวนมาก ส่วนประชาชนในพื้นที่
 อ.พาน จ.เชียงราย ได้รับมอบ 2,300 ชุด ซึ่งวันนี้(8 พ.ค.)
ได้มอบให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบหนักในพื้นที่ 4 ตำบล
คือ ตำบลทรายขาว ตำบลพานทอง ตำบลเจริญเมือง และตำบลสันกลาง
.
นอกจากนี้ การช่วยเหลือเบื้องต้นทางโรงพยาบาลต่าง ๆ
 ได้จัดแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพและปรับสภาพจิตใจ
 ให้ประชาชนที่หวาดกลัวจากเหตุแผ่นดินไหว อีกทั้งภาคเอกชนในจังหวัดเชียงราย
 ได้ระดมทุนมอบข้าวสารอาหารแห้งและเครื่องดื่ม
ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบมาตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.แล้วอีกด้วย


ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมเกล้าฯ
ถวายพระพรชัยมงคลด้วยความจงรักภักดี
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย
 และอานุภาพแห่งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากล
ดวงพระวิญญาณสมเด็จบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์
ได้โปรดอภิบาลรักษาพ่อแห่งแผ่นดินให้ทรงพระสิริสวัสดิ์
 มีพระพลานามัยที่สมบูรณ์ มีพระราชประสงค์ในสิ่งใด
ขอจงสัมฤทธิ์ดังพระราชหฤทัยปรารถนา
สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
 ตราบชั่วนิรันดร์กาล ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ กราบแทบพระบาท

 

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ตุลาคม 2016, 16:58:04 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
แท็ก:
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 ... 20   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค "เว็บมหาชน คนมหาโชค"
 
คติ "กินอยู่อย่างพอเพียง เสี่ยงโชคแต่พอควร"
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย
คำเตือน -ทางเว็บไม่ได้ทราบเป็นการล่วงหน้าว่าหวยทางกองสลากจะออกตัวไหน แต่เราใช้การวิเคราะห์หรือประเมินตามหลักสถิติ
หรือวิธีการอื่นว่า เลขที่มีโอกาสออกมากที่สุดในแต่ละงวดควรจะเป็นเลขอะไรเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ การเล่นหวยถือว่ามีความเสียงมาก
Sitemap | Contact | WAP | xHTML | iMode | WAP 2 | RSS

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines | Sitemap
อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน ©
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.12 วินาที กับ 23 คำสั่ง
Copyright (c) 2008-2022 apichokeonline.com