อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน
20 เมษายน 2024, 09:28:11 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
"สนับสนุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น"

ผลงานห้อง VIP (งวด 16 เม.ย.67)
อ.apichoke ถูกสามตัวสลับ 589 ถูกตัวกลับเลขท้าย รว.ที่๑ 89 ถูกเลขท้าย๒ตัว 79
ถูกปักหลักสิบเต็มๆ 9 เลขเด่นวันหวยออก ถูกเด่น 5

ออก 598-79
   หน้าแรก   หวยรัฐบาล SUPER VIP หนังสือหวย VIP สมัคร vip ช่วยเหลือ แท็ก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก Register  
ฝากภาพ i-pic
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 [10] 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แล้วใครล่ะ...จะไม่รัก..  (อ่าน 829568 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #225 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2014, 16:45:51 »



แม่ตอบว่าให้กราบรูปนั้นทุกวัน
ท่านเป็นเทวดาที่มีลมหายใจ
ที่เราพอมีกินอย่างวันนี้
ท่านดูแลคนไทยมานานเหลือเกิน ให้จำไว้


 




<a href="http://www.youtube.com/v/0s9v0SNIXuE?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color3=00FFFF&amp;amp;&amp;aborder=&amp;autoplay=1&amp;loop=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/0s9v0SNIXuE?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color3=00FFFF&amp;amp;&amp;aborder=&amp;autoplay=1&amp;loop=1</a>





ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมเกล้าฯ
ถวายพระพรชัยมงคลด้วยความจงรักภักดี
 ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย
 และอานุภาพแห่งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากล
ดวงพระวิญญาณสมเด็จบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์
 ได้โปรดอภิบาลรักษาองค์พ่อและแม่แห่งแผ่นดิน
 ให้ทรงพระสิริสวัสดิ์ หายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน
 มีพระพลานามัยที่ดีและแข็งแรง ทรงพระราชประสงค์ในสิ่งใด
 ขอจงสัมฤทธิ์ดังพระราชหฤทัยปรารถนา
 สถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าเหล่าปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ตราบชั่วนิรันดร์กาล
 ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
 กราบแทบพระบาท

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ตุลาคม 2016, 14:29:25 โดย FIRE » บันทึกการเข้า

FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #226 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2014, 17:18:40 »

ตามรอยพ่อ


พุทธศักราช ๒๔๙๘ เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรหลายจังหวัดภาคอิสาน

<a href="http://www.youtube.com/v/nayGDVkoW08?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color3=00FFFF&amp;amp;&amp;aborder=&amp;autoplay=&amp;loop=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/nayGDVkoW08?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color3=00FFFF&amp;amp;&amp;aborder=&amp;autoplay=&amp;loop=1</a>







 
<a href="http://www.youtube.com/v/C4tDwPAzhKA?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color3=00FFFF&amp;amp;&amp;aborder=&amp;autoplay=&amp;loop=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/C4tDwPAzhKA?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color3=00FFFF&amp;amp;&amp;aborder=&amp;autoplay=&amp;loop=1</a>



'พระอรหันต์ ของข้าพระพุทธเจ้า'

"...อันคำว่าอรหันต์นั้น
โดยตรงท่านหมายถึงท่านผู้ไกลกิเลสแล้วสิ้นเชิง
 แต่ท่านยกท่านผู้เป็นมารดาบิดาว่า
 เป็นพระอรหันต์ของบุตรธิดา เพราะมารดาบิดาไม่เป็นโทษเป็นภัยแก่บุตรธิดา..

..สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ
ไม่ทรงเป็นโทษเป็นภัยของพสกนิกรไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน
 ไม่ทรงอาศัยความโลภ ความโกรธ ความหลง
 ในความทรงเกี่ยวข้องด้วย ทรงอาศัยพระมหากรุณาธิคุณเป็นที่ตั้ง
ปรากฏชัดในสารพัดสิ่งที่ทรงกระทำเพื่อข้าแผ่นดิน
ของสมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ขอรับพระราชทานกล่าวว่า
 ทรงเป็นพระอรหันต์ไม่เพียงของพระราชโอรสพระราชธิดา
แต่ยังทรงเป็นพระอรหันต์ของพสกนิกรข้าแผ่นดินสิ้นทั้งปวง
ทรงแหนหวงห่วงใยไม่ต่างจากบุตรธิดาที่แท้จริง
 เสด็จพระราชดำเนินถึงที่ใด ไม่ว่าบ้านก็ตาม ป่าก็ตาม
 ที่ลุ่มก็ตาม ที่ดอนก็ตาม ทรงยังความรื่นรมย์ให้เกิดขึ้นได้
 นี้เป็นจริง นี้เป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดอาจคัดค้านได้
..ทรงเลิศล้นด้วยด้วยคุณวิเศษแห่งพระอรหันต์ท่าน..."

พระมงคลวิเสสกถา
 ของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๓๘

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #227 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2014, 12:22:20 »



แถลงการณ์สำนักพระราชวัง
 เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ
 ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 5 (วันที่ 9 ตุลาคม 2557)






เรียนเชิญร่วมกันเขียนคำถวายพระพร...
.
ถวายพ่อหลวงแห่งแผ่นดินผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยิ่ง
 ให้พระอาการประชวรจงปลาสนาการไปในเร็ววัน
 ทรงพระพลานามัยที่ดีและแข็งแรง
 สถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าชาวไทยตราบนานเท่านาน
...
.
http://oa.kapook.com/king/allwishs





คลิก
http://oa.kapook.com/king/allwishs

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
ขวัญเองจ้า
Junior Public Relations
Golden Hero 8
*

พลังน้ำใจ: 52701
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 44,899



« ตอบ #228 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2014, 12:43:16 »


บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #229 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2014, 09:13:20 »



แถลงการณ์สำนักพระราชวัง
 เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ
 ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 6 (วันที่ 11 ตุลาคม 2557)






น้อมกราบแทบพระบาทพระองค์ผู้ทรงอยู่เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมชาวไทย
ด้วยพระเมตตาคุณและพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
ขอทรงพระสิริสวัสดิ์ ทรงพระพลานามัยที่ดีและแข็งแรง
 ทรงพระชนมายุที่ยืนยาว ทรงพระเกษมสำราญพระวรกายและพระทัย
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญพระพุทธเจ้าข้า
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ตามรอยพ่อ

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #230 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2014, 09:18:36 »



แถลงการณ์สำนักพระราชวัง
 เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
เสด็จมาประทับ ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ฉบับที่ 6 (11 ตุลาคม 2557)




 



แถลงการณ์สำนักพระราชวัง
 เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
เสด็จมาประทับ ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ฉบับที่ 7 (16 ตุลาคม 2557)






ขอพระองค์ทรงพระพลานามัยที่ดีและแข็งแรงในเร็ววัน
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ตามรอยพ่อ







  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ตุลาคม 2014, 11:46:05 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #231 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2014, 09:43:47 »



เมื่อแรกที่ทรงเริ่มหางานหาอาชีพเสริมให้ราษฎร
 ต้องทรงใช้เวลาซักถามหาข้อมูลจากราษฎรในท้องถิ่นนั้นๆ
ว่ามีความรู้หรือคุ้นเคยกับงานฝีมือชนิดใดบ้าง ทั้งงานทอ
 งานสานและอื่นๆ หรือสอบถามจากผู้เฒ่าผู้แก่ที่อยู่
 ณ ที่นั้นว่าในอดีตเคยมีงานฝีมือประจำท้องถิ่นนั้นหรือไม่
 วัสดุที่จะใช้ทำงานมีมากน้อยแค่ไหน
งานเหล่านั้นยังมีผู้ทำเป็นอยู่หรือสูญหายไปแล้ว

ด้วยทรงมีพระวิริยะอุตสาหะและตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะช่วยเหลือราษฎรของพระองค์
จึงทรงใช้จ่ายจากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ บรรดาข้าราชบริพารกราบบังคมทูล
ขอพระราชทานให้ทรงจัดตั้งเป็นมูลนิธิขึ้น
 แต่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงมีพระราชดำริว่า
 โครงการของพระองค์ยังไม่มีรากฐานมั่นคง และยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร
 จึงไม่มีพระราชประสงค์จะรบกวนให้ใครมารับภาระ

พระองค์ทรงดำเนินโครงการต่อไป
 จนคุณประโยชน์ของโครงการแพร่หลายเป็นที่ประจักษ์ชัด
 และต้องใช้บุคลากรเพิ่มขึ้นหลายฝ่าย
ประกอบกับมีผู้มีจิตศรัทธารวบรวมเงินจำนวนหนึ่งขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย
 ขอพระราชทานให้ทรงจัดตั้งเป็นมูลนิธิได้สำเร็จ ได้รับพระราชทานนามว่า
"มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษ"
ถือกำเนิดเมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๑๙

Edit จากหนังสือของราชบัณฑิตยสถาน เขียนโดยนายสมพร เทพสิทธา
ในภาพ..ฉลองพระองค์เปื้อนดินโคลนขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บนพระกรของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงแบ่งเบาพระราชภาระ

ตามรอยพ่อ

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #232 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2014, 10:06:20 »



"..การที่ข้าพเจ้ามีกำลังใจ กำลังกายปฏิบัติหน้าที่รับใช้บ้านเมือง
 ก็ด้วยนึกถึงคำของพ่อที่สั่งสอนไว้ตั้งแต่เด็ก และเมื่อแต่งงาน
 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงสอนตลอดมาว่า
 แผ่นดินนี้มีบุญคุณแก่ชีวิตพวกเรามากมายนัก
 เพราะฉะนั้นชีวิตที่เกิดมาอย่าให้ว่างเปล่า
จงคอยตอบแทน ให้รู้สึกเสมอว่าเป็นหนี้บุญคุณ"
พระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ




cr.ตามรอยพ่อ

"หน้าที่สำคัญที่สุดของสตรี
คือการเป็นแม่
อบรมลูกให้มีสุขภาพกายสุขภาพจิตสมบูรณ์
เพราะเยาวชน คือ ขุมพลังอันมีค่า
ถ้าประชาชนมีจิตใจสูง เข้มแข็ง เสียสละ
รู้จักประโยชน์ส่วนรวมแล้ว
ประเทศชาติจึงจะก้าวหน้าไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้"


พระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ในพิธีเปิดงานฉลองปีสตรีระหว่างประเทศ
 ณ สวนอัมพร เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๘



แม่ของแผ่นดินผู้ทรงคุณอันประเสริฐ
 ขอจงทรงพระสิริสวัสดิ์ ทรงพระเกษมสำราญ
มีพระพลานามัยแข็งแรง
 ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าฯ
cr.ตามรอยพ่อ

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #233 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2014, 13:59:17 »



"โลกระบือลือนามสยามประเทศ
ผองภัยเภทนิราศชาติสถิต
บุญเบื้องบาทสุขล้วนถ้วนทุกทิศ
หมู่อมิตรพ่ายพระบารมี

ด้วยพระ"ภูมิพล"องค์ล้นเกล้า
แผ่ร่มเงายิ่งใหญ่ไปทุกที่
ทรงคุณล้ำกษัตริย์ใดในปฐพี
สุขทวีภายใต้ร่มใบบุญ"


ท ร ง พ ร ะ เ จ ริ ญ ยิ่ ง ยื น น า น
ตามรอยพ่อ
 





 
ตามรอยพ่อ

พ่อหลวงผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงสอนคนไทยว่า..

“...จิตใจที่สะอาดปลอดโปร่งจากสิ่งรบกวนนี้สำคัญมาก
เพราะเป็นจิตใจสงบระงับและเยือกเย็น ทำให้บุคคลมีสติรู้ตัว
 มีความคิดเที่ยงตรงเป็นกลาง
มีวิจารณญาณละเอียดกว้างขวาง และถูกต้องตรงจุด

..ความคิดวิจารณญาณที่เกิดจากจิตใจที่สงบนี้มีศักยภาพสูง
 อาจนำไปใช้คิดอ่านสร้างสรรค์สิ่งที่จะอำนวยประโยชน์สุข
 ความเจริญก้าวหน้า ตลอดจนชื่อเสียงเกียรติคุณ
 อันเป็นสิ่งที่ปรารถนาของแต่ละคนให้สัมฤทธิ์ผลได้...”


พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๓๕

 

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #234 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2014, 14:05:59 »

ตามรอยพ่อ


พ่อแห่งแผ่นดินผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยิ่งของคนไทย...
พระองค์ทรงสอนและชักชวนคนไทยให้บำเพ็ญความดี และมีความเสียสละว่า...

.
“…พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ว่า บุคคลใดประกอบความดี
 คุณความดีนั้นย่อมต้องสนองตอบ ข้าพเจ้าจึงขอชักชวนแต่ละท่าน
 ให้พยายามบำเพ็ญความดีด้วยน้ำใจอันบริสุทธิ์
 แม้บางโอกาสอาจจะต้องเสียสละบ้าง
 ก็จงมานะอย่าท้อถอย จงสมัครสมานสามัคคีร่วมใจกันให้มั่นคงด้วยดี
 ทั้งนี้ เพื่อความสุขสวัสดีของท่าน
 และเพื่อความวัฒนาถาวรของประเทศชาติ อันเป็นที่รักของเราทั้งหลาย…”
.
***พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีพุทธศักราช ๒๔๙๗***




 

ทำไมในหลวงฉลองพระองค์ เสื้อสีชมพู..สีชมพูมีความสำคัญอย่างไร ?

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ฉลองพระองค์สูทสีชมพูเนื่องจากเสื้อชมพู
เป็นเสื้อสีประจำพระชนมายุของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 เป็นสีที่เสริมดวงพระชะตาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ให้มีพระชนมพรรษายืนนาน ตามโหราศาสตร์ทักษาพยากรณ์ว่า
 เป็นตำแหน่งพระชนมายุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 วันอังคารเป็นวันเสริมดวงพระชะตาให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 ที่เสด็จพระราชสมภพในวันจันทร์
 สีชมพู หมายถึง การมีสุขภาพและพลานามัยที่สมบูรณ์

หลังจากที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทรงทราบความหมายของสีชมพู
 พระองค์ทรงฉลองพระองค์สีชมพูทุกวันอังคาร
 เพื่อถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


ปรากฏการณ์เสื้อชมพู
 แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีที่ปวงชนชาวไทย
มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกครั้ง
 หลัง จากได้ทราบข้อเท็จจริงว่า “สีชมพู”
นั้นเป็นสีที่จะเสริมดวงพระชะตา
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้มีพระพลานามัยแข็งแรง
 และพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน

 

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #235 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2014, 14:11:13 »

ตามรอยพ่อ



พ่อแห่งแผ่นดินผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยิ่งของคนไทย


ย่างพระบาทที่ยาตรา
ยาวรอบหล้าฟ้าสากล
พระเสโทที่ถั่งท้น
ถ้าไหลรวมคงท่วมไทย

 



'กระต่ายกับเต่า'

"...ความรอบคอบ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาไปแล้ว
จะทำการสิ่งใดให้พิจารณาให้รอบคอบเสียก่อน
อย่าทะนงตัวว่า เราเป็นบัณฑิตแล้ว
 เราต้องเก่งกว่า ฉลาดกว่าผู้อื่น อย่าลืมว่า
 ฉลาดแต่อย่างเดียวเท่านั้นไม่พอ
 ต้องเฉลียวด้วย ต้องทั้งเฉลียวและฉลาด..

..ท่านทั้งหลายคงจะรู้จักนิทานเรื่องกระต่ายแข่งกับเต่า
 กระต่ายมีฝีเท้าดี ทะนงตนว่าไม่มีผู้ใดเด่นเร็วเสมอเหมือน
 ยิ่งเต่านั้นก็เป็นคนละชั้น แต่ความที่ทะนงตัวว่า
 ตัวเองเก่ง เด่นไปยังไม่ทันถึงที่หมาย ไปนอนหลับเสีย
ปล่อยให้เต่าซึ่งเดินช้ากว่ามาก ไปถึงที่หมายได้ก่อน..."

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
แก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๐๕


ท ร ง พ ร ะ เ จ ริ ญ ยิ่ ง ยื น น า น
 

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
ขวัญเองจ้า
Junior Public Relations
Golden Hero 8
*

พลังน้ำใจ: 52701
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 44,899



« ตอบ #236 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2014, 14:13:44 »


 

บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #237 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2014, 14:17:34 »

ตามรอยพ่อ

 

พระอารมณ์ขัน...'ผิดรัฐธรรมนูญนะ'

"...การปกครองสมัยนี้แปลกดี กลับไปเหมือนดังเก่า...
กฎให้ประชาชนรับผิดชอบกัน
 ตอนนี้คนที่เดือดร้อนคือข้าพเจ้าเองเดือดร้อน..
ท่านรองนายกมาบอกว่าทรงเป็นซุปเปอร์ซีอีโอ..
ใช้คำอะไรจำไม่ได้แล้ว..แต่เข้าใจว่าใช้คำว่าซุปเปอร์ซีอีโอ..
แล้วก็ลงท้ายเราก็รับผิดชอบทุกอย่างทั้งหมด
 ประชาชนทั้งประเทศ โยนมาให้พระเจ้าอยู่หัวรับผิดชอบหมด..
ซึ่งผิดรัฐธรรมนูญนะ...
รัฐธรรมนูญบอกไว้ว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่รับผิดชอบอะไร..
นี่ท่านแถวนี้ก็เป็นนักกฎหมาย
นักกฎหมายก็บอกพระเจ้าอยู่หัวไม่รับผิดชอบอะไรเลย...

...ก็เลยทำให้เราเดือดร้อน..ดูแล้ว..รัฐบาล..
รัฐบาลของพระเจ้าอยู่หัว..เขาพูดอย่างนั้น
 เมื่อวานตอนเช้าก็บอกรัฐบาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
..เรารับผิดชอบหมดน่ะ..."

พระราชดำรัสชองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๖






พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 เสด็จไปเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดารบ่อยๆ
 บางครั้งก็เสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อทุ่นเวลา
 และพอดีก็ผ่านที่แห่งหนึ่ง แถวอำเภอเขาวง
 จังหวัดกาฬสินธุ์ เห็นว่าเหมาะสมในการเก็บกักน้ำ
เมื่อลงมาถึงพื้นที่แล้ว ก็รับสั่งบอกเจ้าหน้าที่
 ว่าจะไปตรงนั้นๆ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจทั้งช่างชลประทานไม่แน่ใจ
 จึงเอาชาวบ้านคนหนึ่งมาเป็นมัคคุเทศก์
 ก็นำทางเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา
เข้าไปทางที่เรียกว่าลำลองอย่างมากๆ รับสั่งเล่าว่า.....

“..เป็นทางที่เขาเต้นดิสโก้กัน คือที่เต้น ‘ดิสโก้’ นี่
 เพราะว่ารถมันแกว่งไปมาเหมือนเต้นดิสโก้
 ก็เลยเรียกว่า ‘ทางดิสโก้’ แล่นไปตาม ‘ทางดิสโก้’
 นั้นไกลพอสมควร ประมาณสักสองกิโลเมตร
 ก็ไปถึงที่แห่งหนึ่ง เขาบอกให้หยุดตรงนั้น มืดแล้ว
 เห็นมีแต่นา คนนำทางก็บอก ‘นึกว่าจะมาตรงนี้’
เราบอกว่า ‘ไม่ใช่ อยากจะมาดูตรงที่เป็นทางน้ำ
 ที่เหมาะสมกับการทำโครงการ รูปร่างคล้ายๆเป็นแอ่ง’
เป็นอันว่ากลับ กลับมาดิสโก้อีกสองกิโลเมตร
 แล้วมาที่หมู่บ้านแล่นตรงไป แล้วเดินอีกสองร้อยเมตร
 ก็ไปถึงที่ที่ถูกต้อง
 และช่างชลประทานเขาก็เห็นว่าเหมาะสมสำหรับทำโครงการ...”

ภาพ : รถยนต์พระที่นั่ง เมื่อครั้งเสด็จฯ
บ้านห้วยมงคล เพชรบุรี เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๐๙

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #238 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2014, 14:20:24 »


 
ขวัญเองจ้า
Public Relations
Golden Hero 8
**

พลังน้ำใจ: 40130
[คลิกขอบคุณ]
ออนไลน์ ออนไลน์

กระทู้: 38,723



 

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #239 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2014, 14:31:16 »



สมเด็จแม่แห่งแผ่นดินผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยิ่ง ทรงตรัสว่า....

.
"...เมื่อครั้งตอนไปเยี่ยมราษฎรที่หมู่บ้านก้านเหลืองดงนี่
 สมัยนั้น คุณเปรม เป็นแม่ทัพ พอฉันจะไปก็บอกว่า
 “เสด็จฯไม่ได้” บอกที่นั่นเต็มเลย เป็นดงของเขาละ ฉันบอก
 คุณเปรมต้องให้ฉันไปจนได้ละ
บอกคุณเปรมเป็นแม่ทัพ ๆ กลัวด้วยหรือ...
.
คุณเปรมบอกว่า “อ้าวเสด็จฯ ก็เสด็จฯ”
แต่คุณเปรมสั่งให้ทหารไปคันรถเบ้อเร่อ
 พวกหมวกแดง พอฉันเห็นทหารจะไปเป็นรถกุดัง
 พากันเด่นขึ้นรถใหญ่ ฉันบอกว่า ลงมาเดี๋ยวนี้
 ลงมา ไปอย่างนี้ เขาระเบิดคันเดียว เสียทหารหมด
 ไม่ต้อง ฉันบอกว่า เขาไม่รู้ตัวหรอก
 เขาไม่เตรียมหรอก ทหารก็ลงจากรถ
แล้วพอฉันขึ้น ฮ.ไป พวกทหารก็ขึ้นรถอย่างเต็มกวดไป
 พวกทหารไม่ยอมเลย
 แต่ละคนก็…ฉันได้ยินแล้วปลื้มใจ ทำไมจะไม่ให้รักเขา
 เขาบอก พวกเราตายแทนเสียยังดีกว่า
...
.
ไปกันผู้หญิงทั้งนั้นเลย ก็แต่งตัวธรรมดา ๆ
แล้วไปกับชาวบ้าน ขึ้นรถไป ไปในที่เขาเรียกว่า
กระโซ่ง แหม เบิกบาน เข้ามากอด มาถาม
บุ้ยไปที่น้อย (สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ)
นี่อายุเท่าไหร่ พอบอกว่าลูกสาว ตอนนั้นอายุ ๒๒
 เขาถาม เอาผัวยังบ่ (ทรงพระสรวล)
แม่น้อยอายเชียว บอกว่ายังจ้ะ นั่นเขายังเด็กอยู่
 เขายังไม่เอาผัว เขามองแม่น้อย พลางสั่นหัว
 อึม ไม่เด็กแล้วนา บ่เด็กแล้ว เขากลัวจะขายไม่ออก
เขาบอกว่า ลูกเขาป่านนี้เอาผัวหมดแล้ว ต้องขายออก
 แล้วเขาก็หันมาทางแม่น้อย มาลูบหน้าลูบหลัง
 บอก เอาผัวซะ แล้วยายนี่จะไป ป้าจะไป
 น้าก็จะไป เวลาแต่งงานบอกมาด้วยนะ
 จะไปหมดเลย พอปีหน้าไปเยี่ยมใหม่
 แกก็ถาม เอาผัวยัง วิตกของเขาทุกปีเลย..."






ภาพจากคมชัดลึก




แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 7 (วันที่ 17 ตุลาคม 2557)



Information Division of OHM



ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
 ขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล
ด้วยความจงรักภักดี
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย
 และอานุภาพแห่งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากล
ดวงพระวิญญาณสมเด็จบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์
 ได้โปรดอภิบาลรักษาองค์พ่อและแม่แห่งแผ่นดิน
 ให้ทรงพระสิริสวัสดิ์ หายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน
มีพระพลานามัยที่ดีและแข็งแรง
ทรงพระราชประสงค์ในสิ่งใด
ขอจงสัมฤทธิ์ดังพระราชหฤทัยปรารถนา
 สถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าเหล่าปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
 ตราบชั่วนิรันดร์กาล
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
 กราบแทบพระบาท

ตามรอยพ่อ

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 ตุลาคม 2014, 21:58:41 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #240 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2014, 14:39:21 »



"...ข้าพเจ้ามีหน้าที่ในการสัมภาษณ์ประชาชน
 เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือ
มีผู้ตั้งคำถามว่า ทราบได้อย่างไรว่า
 คนนั้นคนนี้เป็นคนยากจนจริง
 อาจจะมากราบบังคมทูลความเท็จ
 สวมเสื้อผ้าปอนๆ ให้ดูยากจน..

..เราใช้เกณฑ์ว่า สิ่งใดที่เราพอจะช่วยเหลือเขาได้
 โดยไม่สร้างความเดือดร้อนกับคนอื่นเราก็ช่วย
 รายที่ต้องช่วยก่อน คือ รายที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ
 เพราะมองเห็นได้พอสมควร
 ถ้าพอมีประสบการณ์ก็จะทราบว่าคนไหนเจ็บป่วย
..เรื่องนี้แสร้งได้ยาก..."

พระราชดำรัสในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

 




สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเล่าว่า...

ข้อหนึ่งที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงดูแลมากก็คือ
 ด้านพลานามัยและมารยาทการนั่งโต๊ะ สำหรับพลานามัย
หรือการออกกำลังกายนั้น จะทรงมอบหมายให้ทูลกระหม่อมดูแลสนาม
ถอนหญ้าแห้วหมูและคอยตัดต้นข่อยที่ดัดเป็นรูปต่างๆ
 พอตกค่ำ ขึ้นมาเสวย ก็เป็นเวลาที่จะทรงอบรมในเรื่องการนั่งโต๊ะอาหาร

 



"ไม่ต้องมีพระเก้าอี้ที่เลิศหรู"
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
 ทรงฟังบรรยาย โรงเรียนกาสรกสิวิทย์
ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว
 ในโอกาสจะเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์
ทรงนำคณะกรรมการรางวัลนานาชาติ
 มูลนิธิรางวัลสมเด็จฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์
 มาทัศนศึกษาพื้นที่จังหวัดสระแก้ว
 เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2557
(ภาพ จุฑาทิพย์ ขอสุข สำนักงานจังหวัดสระแก้ว))


ขอบคุณข้อมูลจาก Teera Saengsuradej



Democrat Party, Thailand

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #241 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2014, 11:10:26 »




"ลูกของแม่ พ่อของแผ่นดิน"

การปฏิบัติพระองค์ในหน้าที่พระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยรัชกาลปัจจุบัน
 ที่ทรงรับเป็นพระราชภาระที่สำคัญที่สุด และทรงทำด้วยพระหัตถ์มาอย่างสม่ำเสมอ
 ตลอดเวลาอันยาวนานเกือบ ๗๐ ปีที่ผ่านมา ถึงจะต้องทรงผจญภัยจากพายุร้าย
 (ลมปากและการติฉินนินทา) จะต้องทรงพบกับเหตุการณ์อันน่าสลดพระทัย
ตลอดจนพระราชหฤทัยที่บางครั้งก็เศร้าสลดหม่นหมอง
 แต่ก็ยังไม่ทรงหมดกำลังพระทัยที่จะทรงทำต่อไป
ด้วยมีสิ่งหนึ่งที่ทรงยึดมั่นในพระราชหฤทัยตลอดเวลาแห่งพระชนม์ชีพ ก็คือ พระราชดำรัสประโยคที่ว่า

"แม่สอนไว้ให้เป็นคนพูดความจริง และซื่อสัตย์"


(เรียบเรียงจากหนังสือ "ทำเป็นธรรม" โดยท่านผู้หญิง เกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา)

ขอบคุณข้อมูลจากเพจ F Jakkrin Cholkeeree

#DemocratTH #












เชิญชวนร่วมงาน “น้อมรำลึกถึงสมเด็จย่า ณ นิวาสสถานเดิม”
ขอเชิญประชาชนร่วมน้อมรำลึกถึงสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนี
 เนื่องในโอกาสครบ ๑๑๔ ปี วันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนี

 (วันอังคาร ที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗)
ซึ่งอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ได้กำหนดจัดงาน “น้อมรำลึกถึงสมเด็จย่า ณ นิวาสสถานเดิม”
ครั้งที่ ๑๖ ในวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ ระหว่างเวลา ๐๗.๐๐ - ๑๙.๐๐ น.
ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ซอยสมเด็จเจ้าพระยา ๓ (หลังวัดอนงคาราม) เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร

กิจกรรมภายในงานจัดให้มีพิธีทำบุญตักบาตร
 พิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชนนี
 พิธีเปิดงาน และการแสดงต่าง ๆ อาทิ การแสดงดนตรีจากวง
 BSO Light Orchestra การแสดงโขนเด็ก การแสดงดนตรีเฉลิมพระเกียรติ ฯ
 จากสำนักการสังคีตกรมศิลปากร การแสดงดนตรีไทยประยุกต์
 การแสดงนาฏยศาลาหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ การแสดงดนตรีลูกทุ่ง เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีการจำลองบรรยากาศตลาดพื้นบ้านโบราณให้ประชาชนทั่วไปได้เที่ยวชม,
 การสาธิตงานพุทธศิลป์แขนงต่าง ๆ, นิทรรศการและการจำลอง
 “บ้านสมเด็จย่า...แห่งความทรงจำ”, การสาธิตและจำหน่ายอาหารและขนมไทยโบราณ,
 การบริการนวดแผนไทยและโหราศาสตร์จากมูลนิธิคอลฟิลด์เพื่อคนตาบอด
เป็นต้น และในช่วงเย็น ขอเชิญร่วมจุดเทียนน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ โดยพร้อมเพรียงกัน

อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
จัดสร้างขึ้นภายหลังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 มีพระราชดำริให้จัดสร้างเมื่อปี ๒๕๓๖
 เพื่ออนุรักษ์พระนิวาสสถานเดิมของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
 ให้เป็นอุทยานเฉลิมพระเกียรติ
 และเพื่อเป็นการพัฒนาพื้นที่ในบริเวณชุมชนหลังวัดอนงคารามให้เป็นสวนสาธารณะระดับชุมชน
 ดังนั้น อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
 จึงเปรียบประดุจพระราชอนุสรณ์สถานที่รำลึกถึงความรักความผูกพัน
และความกตัญญที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงถวายแด่สมเด็จพระราชมารดาของพระองค์ และยังเป็นสถานที่ศึกษา
ความเป็นมาของชุมชนเก่าแก่ในฝั่งธนบุรี รวมทั้งเป็นสถานที่พักผ่อนของชุมชนใกล้เคียง
 ตลอดจนเป็นสถานที่ศึกษาพระราชประวัติ ฯ
 ซึ่งได้อนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ที่มีมาแต่เดิมอายุกว่า ๑๐๐ ปี
 อาทิ ต้นโพธิ์ ต้นชงโคและต้นไทร ท่ามกลางหมู่อาคารโบราณและศิลปะร่วมสมัย
 ทั้งยังเป็นสถานที่จัดงานรำลึกถึงสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
 ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเดือนพระราชสมภพทุกปี

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 เสด็จพระราชดำเนินไปยังอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เพื่อทอดพระเนตรอาคารพิพิธภัณฑ์
 ซึ่งเป็นส่วนบริเวณอนุรักษ์เป็นอาคารเก่าแก่ที่เคยเป็นเรือนบริวารใน
บ้านของเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาธิบดี (แพ บุญนาค)
อธิบดีกรมพระคลังสินค้า ในสมัยรัชกาลที่ ๕
 และบ้านจำลองที่จำลองพระนิวาสสถานเดิมที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
 เคยประทับเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์

ขอขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ต่าง ๆ



  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #242 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2014, 11:31:19 »

 ตามรอยพ่อ




สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ที่ 23 ทรงต้อนรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
 ณ นครรัฐวาติกัน วันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1960 (พ.ศ.2503)
คลิปวีดีโอหาชมยาก http://www.youtube.com/watch?v=y9e_7330b5A&sns=em


<a href="http://www.youtube.com/v/y9e_7330b5A?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color3=00FFFF&amp;amp;&amp;aborder=&amp;autoplay=&amp;loop=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/y9e_7330b5A?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color3=00FFFF&amp;amp;&amp;aborder=&amp;autoplay=&amp;loop=1</a>


ไม่มีเสียงบรรยาย ภาพในคลิปตามลำดับเหตุการณ์ดังต่อไปนี�เช้าวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2503 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนนครรัฐวาติกันอย่างเป็นทางการ ผู้ตามเสด็จ ในการนี้มีนายถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พระยาศรีวิสารวาจา องคมนตรี นายไพโรจน์ ชัยนาม เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโรม และภริยา พล.อ.หลวงสุรณรงค์ สมุหราชองครักษ์ ม.จ.วิภาวดี รังสิต นางสนองพระโอษฐ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องจอมทัพเรือพร้อมทั้งสวมเครื่องอิสริยาภรณ์ Great Collar of the Pian Order ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาได้ทรงถวาย สมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงฉลองพระองค์ดำทั้งชุดตามประเพณี ทรงสายสะพายราชอิสริยาภรณ์จักรี สมเด็จพระสันตะปาปาทรงมีพระราชปฏิสันถารเป็นภาษาฝรั่งเศส

การเสด็จครั้งนี้ได้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติทุกประการ ทางการนครรัฐวาติกันได้จัดรถยนต์พระที่นั่งและรถพิเศษอีก 5 คัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ ไปรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ ที่ประทับ ขบวนเสด็จฯ มายังลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร เวลา 10.45 น. และได้หยุดชั่วครู่หนึ่ง หลังจากได้ผ่านเข้ามาในเขตพระราชฐานของนครรัฐวาติกันแล้ว ที่นั่นได้มีพิธีการต้อนรับเสด็จอย่างสั้นๆ โดยมีเจ้าชายปาแชลลี (H.E. Prince Don Canlo Pacelli) ที่ปรึกษาทั่วไปของนครรัฐวาติกัน และคอนเตกาเลอัตซีผู้แทนพิเศษของคณะมนตรีแห่งนครรัฐวาติกันเป็นผู้ทูลเชิญเสด็จ ทหารสวิสและตำรวจของพระสันตะปาปาตั้งแถวเป็นกองเกียรติยศ วงดุริยางค์ทหารปาลาติน บรรเลงเพลงถวายพระพร

หลังจากนั้น ขบวนเสด็จเคลื่อนที่เข้าสู่ลานซานดามัสโซ ณ ที่นั้นมีกองเกียรติยศของทหารปาลาตินและตำรวจของพระสันตะปาปา พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายสงฆ์และพลเรือนรอรับเสด็จอยู่ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินตรวจแถวทหารปาลาตินและตำรวจ พร้อมกับพระสมณเลขาธิการของกองพิธีการจากนั้น เสด็จขึ้นสู่พระราชวังวาติกันอันเป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา เสด็จผ่านกองเกียรติยศ ผ่านเจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่ของนครรัฐวาติกัน ซึ่งรอถวายการรับเสด็จจนถึงห้องทรงพระอักษรของพระสันตะปาปา

สมเด็จพระสันตะปาปายอห์นที่ 23 เสด็จออกต้อนรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ ห้องโถง Sala del Tronetto ทรงทูลเชิญทั้งสองพระองค์เข้าสู่ที่ประทับ ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับทั้งสองพระองค์ด้วยพระอัธยาศัยไมตรีเป็นเวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นจึงทรงทูลเชิญทั้งสองพระองค์เสด็จไปยังห้องทรงพระอักษรใกล้ๆ นั้น ณ ที่นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงแนะนำถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต่อพระสันตะปาปา ต่อมาบรรดาผู้ตามเสด็จจึงได้รับการแนะนำเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ที่ 23 จึงทรงปราศรัยต้อนรับเสด็จเป็นภาษาฝรั่งเศส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสตอบอย่างสั้นๆ แล้วทรงถวายของที่ระลึกชุดเครื่องเขียนทองคำแด่พระสันตะปาปา สมเด็จพระสันตะปาปาทรงถวายของที่ระลึกแด่ทั้งสองพระองค์ สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถวายพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมด้วยลายพระหัตถ์ภายในกรอบเงิน เหรียญทองที่ระลึกขนาดใหญ่และหนังสือ “แผนที่โลกของคุณพ่อ ริชชี่” แสดงสภาพโลกในศตวรรษที่ 17 พร้อมทั้งสมุดภาพเกี่ยวกับห้องราฟาแอล สำหรับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระสันตะปาปาทรงถวายรูปโมซาอิกอันมีค่า ทำเป็นภาพกระจาดดอกไม้ ตามแบบโมซาอิกของชาวโรมันสมัยโบราณ พร้อมกับเงินเหรียญวาติกันหนึ่งชุด ต่อจากนั้นทรงมอบเหรียญทองแก่นายถนัด คอมันตร์ และเหรียญเงินแก่ผู้ตามเสด็จทุกท่าน

เมื่อจบพิธีการเสด็จเยี่ยมแล้ว สมเด็จพระสันตะปาปาทรงตามมาส่งเสด็จ และก่อนจะทรงอำลา ได้ทรงฝากพระพรและความปราถนาดีมายังพระเจ้าลูกเธอทั้งสี่พระองค์ ให้ทรงประสบความสำเร็จเต็มที่ในพระชนมชีพ ให้เป็นที่พอพระทัยของพระราชบิดาและพระราชชนนีและเพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทย









การเสด็จพระราชดำเนินต่างประเทศอย่างเป็นทางการ
 จำเป็นที่จะต้องมีผู้ร่วมงานแต่ละฝ่ายที่มีคุณสมบัติพิเศษ
คือนอกจากจะมีความรู้ความสามารถแล้ว
จะต้องเป็นผู้ที่เข้มแข็ง อดทนทั้งกายทั้งใจ
ปรากฎว่าก่อนจะเสด็จต่างประเทศทุกครั้ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมีรับสั่งให้
ทุกคนที่จะตามไปในขบวนเสด็จฯ มาเฝ้าฯ แล้วทรงเตือนว่า
"การไปครั้งนี้ของพวกเรา ทุกคนเปรียบเสมือนผู้แทนคนไทยทั้งชาติ
 ใครมีเรื่องราวทุกข์ร้อนหนักหนาอย่างไร
 ให้หนักเอาเบาสู้ อย่านึกวาดภาพว่าจะได้ไปเที่ยวสนุกสนาน
จะได้ไม่ผิดหวัง.."







2 มีนาคม 2503 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เสด็จพระราชดำเนินเยือนสหภาพพม่า
ณ สนามบินมิงกาลาดอน เมืองย่างกุ้ง ประธานาธิบดี อู วิน หม่อง
พร้อมด้วยพลเอกเนวิน นายกรัฐมนตรีรอรับเสด็จฯ






พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ลานหน้าถ้ำจำลอง 'มหาปาสาณคูหา'
 (Sacred Cave) ซึ่งรัฐบาลพม่าเคยใช้เป็นที่สังคายนาพระไตรปิฎก
 ครั้งที่ ๖ เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๐๓
ครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหภาพพม่าเพื่อกระชับสัมพันธไมตรี






ภาพครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ประทับบนรถไฟสลากกินแบ่งรัฐบาลของนิวยอร์ค
ชุมชนตามรอยพ่อ

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ตุลาคม 2014, 16:06:57 โดย FIRE » บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #243 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2014, 11:37:53 »

ตามรอยพ่อ



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงตระหนักถึงความสําคัญของป่าไม้
 มาตั้งแต่เสด็จข้ึนครองราชย์ พระองค์เสด็จฯ
 ไปเยี่ยมเยียนราษฎร ท่ัวทุกภูมิภาค
 ทรงได้เห็นสภาพป่าไม้ท่ีทรุดโทรมและถูกทําลายมากมาย
 จึงทรงมีพระราชดําริให้มีการอนุรักษ์และฟื้นฟู
 ป่าเพ่ือรักษาสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศทางน้ํา
ดิน และป่าไม้ ทรงมีพระราชดํารัสในเรื่องของการปลูกป่าว่า

“...ควรจะปลูกต้นไม้ในใจคนเสียก่อน
 แล้วคนเหล่านั้นก็จะพากันปลูกต้นไม้ลงบนแผ่นดิน
และรักษาต้นไม้ด้วยตนเอง....”

ภาพ : เสด็จฯ ทอดพระเนตรติดตามผลการดำเนินงาน
ของศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี อ.ปราณบุรี
จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2557








“..การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น
 ต้องสร้างพื้นฐาน คือ ความพอมีพอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เป็น
 เบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและใช้อุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชา
 เมื่อได้พื้นฐานมั่นคงพร้อมพอควรและปฏิบัติได้แล้ว
จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป
 หากมุ่งแต่จะทุ่มเทสร้างความเจริญ ยกเศรษฐกิจขึ้นให้รวดเร็วแต่ประการเดียว
 โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการ สัมพันธ์กับสภาวะของประเทศ
และของประชาชนโดยสอดคล้องด้วย
 ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่างๆ ขึ้น
 ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด..”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพัฒนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยได้เข้าถึงทางสายกลางของชีวิตและเพื่อคงไว้
ซึ่งทฤษฏีของการพัฒนาที่ยั่งยืน
 ทฤษฎีนี้เป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิตซึ่งอยู่ระหว่าง
สังคมระดับท้องถิ่นและตลาดระดับสากล
 จุดเด่นของแนวปรัชญานี้คือ แนวทางที่สมดุล
 โดยประเทศชาติสามารถทันสมัย และก้าวสู่ความเป็นสากลได้
โดยปราศจากการต่อต้านกระแสโลกาภิวัฒน์

ทรงมีพระราชดำริว่า ไม่ได้มีความจำเป็น
ที่เราจะกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ (NIC)
โดยทรงอธิบายว่า ความพอเพียงและการพึ่งตนเอง
 คือ ทางสายกลางที่จะป้องกันการเปลี่ยนแปลงความไม่มั่นคงของประเทศได้




 


"...เมื่อตั้งโรงสี ปลูกข้าวเองบ้าง
 และไปซื้อข้าวจากเกษตรกรบ้าง
 นำมาสีและขายในราคาที่เหมาะสม เป็นไปในรูปสหกรณ์
ที่ทำที่สวนจิตรฯ นี้ ไม่ได้ใช้ข้าวที่ปลูกในสวนจิตรฯ
 เพราะว่าข้าวที่ปลูกในสวนจิตรฯ เอาไปเข้าพิธีแรกนาขวัญ

ข้าวที่โรงสีนี้ เป็นข้าวที่ไปซื้อจากเกษตรกรโดยตรง
 โดยให้ราคาที่เหมาะสม เกษตรกรก็มีความสุข
 เพราะขายข้าวในราคาที่เหมาะสม
 และผู้บริโภคก็ซื้อได้ในราคาถูก
 เพราะว่าไม่ต้องมีการขนส่งมากเกินไป ไม่ต้องมีคนกลางมากเกินไป

..ตกลงทั้งผู้ผลิตทั้งผู้บริโภคก็มีความสุข..."


พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๐

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #244 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2014, 11:52:59 »

ตามรอยพ่อ


 

'จับโครงเรื่อง-มองรายละเอียด-เห็นประเด็น
-หาเหตุและผล-ดูความเกี่ยวเนื่อง-จดจำ-นำไปใช้'


"...เราจะต้องขวนขวายเปิดตาเปิดใจให้เรียนรู้อยู่เสมอ ทั้งโดยทางกว้างและทางลึก คือเมื่อจะศึกษาเรื่องใด ก็ให้พยายามจับเค้าโครงเรื่องนั้นให้ได้ก่อน แล้วจึงพยายามมองลงไปในส่วนละเอียดทีละส่วน ให้เห็นชัดโดยถ้วนถี่

เมื่อรู้แล้ว ก็นำมาคิดพิจารณาให้เห็นประเด็น ให้เห็นส่วนที่เป็นเหตุ ส่วนที่เป็นผล ให้เห็นลำดับความเกาะเกี่ยวต่อเนื่องแห่งเหตุและผลนั้นๆ ไปจนตลอด ให้เข้าใจโดยชัดเจนแน่นอน เพื่อให้สามารถสำเหนียกกำหนดและจดจำไว้ได้ ทั้งส่วนที่เป็นหลักเป็นทฤษฎี ทั้งส่วนเรื่องราวหรือรายละเอียด จักได้สามารถนำไปสั่งสอนผู้อื่น และนำไปเทียบเคียงใช้ให้เป็นประโยชน์ในการงาน หรือคิดอ่านแก้ไขปัญหาต่างๆ ในชีวิตต่อไป..."

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๒๓










พระบรมราโชวาทเมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๖
 เกียวกับทศพิธราชธรรมข้อที่ ๖ (ความเพียรหรือความวิริยะ) คือ ตบะ





  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #245 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2014, 09:52:37 »



" วันที่ 21 ตุลาคม
 วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี "



พลเอกหญิง พลเรือเอกหญิง พลอากาศเอกหญิง พลตำรวจเอกหญิง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พระนามเดิม: สังวาลย์ ตะละภัฏ; พระราชสมภพ: 21 ตุลาคม พ.ศ. 2443 ณ จังหวัดนนทบุรี — สวรรคต: 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ณ กรุงเทพมหานคร) เป็นพระชายาในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และพระราชชนนีในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์, พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน
พระองค์มีพระนามที่นิยมเรียกกันว่า สมเด็จย่า และพระองค์ยังมีพระสมัญญานามว่า แม่ฟ้าหลวง ที่ชาวไทยภูเขาจากภาคเหนือถวายแด่พระองค์ เนื่องจากทรงเยี่ยมราษฎรชาวไทยภูเขาที่อาศัยในถิ่นทุรกันดาร และได้พระราชทานความช่วยเหลือผ่านทางเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เปรียบเสมือนพระองค์เสด็จมาจากฟากฟ้าช่วยให้พวกเขามีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น
วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีมีพระอาการทรุดลง เนื่องด้วยมีพระอาการแทรกซ้อนทางพระยกนะ (ตับ) และพระวักกะ (ไต) ไม่ทำงาน พระหทัย (หัวใจ) ทำงานไม่ปกติ ความดันพระโลหิตต่ำทำให้เกิดภาวะเป็นกรดในพระโลหิต คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาความผิดปกติของระบบต่าง ๆ รวมทั้งการฟอกพระโลหิตด้วยเครื่องไตเทียมและกรองสารพิษซึ่งเกิดจากภาวะผิดปกติของพระยกนะ แต่พระอาการคงอยู่ในภาวะวิกฤต จนกระทั่ง เวลา 21.17 น. สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จสวรรคต สิริพระชนมายุ 94 พรรษา
พระราชประวัติ
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงมีพระนามเดิมว่า สังวาลย์ ตะละภัฏ พระราชสมภพเมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๓ ทรงเป็นบุตรคนที่ ๓ ใน พระชนกชู และ พระชนนีคำ ทรงมีพระภคินี และพระเชษฐา ๒ คนซึ่งได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่เยาว์วัย คงเหลือแต่พระอนุชาอ่อนกว่าพระองค์ ๒ ปี คือ คุณถมยา
ต่อมาเมื่อพระองค์ถูกส่งไปศึกษาที่โรงเรียนสตรีวิทยา โดยประทับอยู่บ้าน คุณหวน หงสกุล เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๖ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงตัดสินพระทัยเข้าโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์ และหญิงพยาบาลแห่งศิริราช ตามคำชักชวนจากพระยาดำรงแพทยกุล หลังจากสำเร็จการศึกษา ทรงได้รับการคัดเลือกให้ไปทรงศึกษาวิชาพยาบาลต่อที่ โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดสหรัฐอเมริกา พร้อมกับนางสาวอุบล ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา และ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์
ขณะที่กำลังทรงศึกษาวิชาแพทย์ปีที่ ๑ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์ ทรงพบและพอพระทัยกับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ด้วยมีพระสิริโฉมงดงาม พระอุปนิสัย และพระคุณสมบัติอื่นๆ ดังนั้นสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์จึงทรงมีลายพระหัตถ์กราบบังคมทูลสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระราชมารดาขอพระราชทานพระราชานุญาตหมั้นกับ นางสาวสังวาลย์ และเมื่อถึงวันศุกร์ที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๓ ได้มีพิธีอภิเษกสมรสที่วังสระปทุม และหลังจากได้อภิเษกสมรสแล้ว ทั้ง ๒ พระองค์ได้ตามเสด็จด้วยกันไปประพาสเมืองต่างๆ ในทวีปยุโรป และ สหรัฐอเมริกา เพื่อทรงไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และสถาบันเอ็มไอที เมืองบอสตัน ส่วนสมเด็จพระบรมราชชนนี ทรงเรียนหลักสูตรเตรียมพยาบาลที่วิทยาลัยซิมมอนส์ เมืองบอสตัน
หลังจากทั้ง ๒ พระองค์ทรงจบการศึกษาแล้ว จึงทรงเสด็จไปที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งสมเด็จพระบรมราชชนนี ได้ประสูติพระราชธิดาพระองค์แรก เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามว่า หม่อมเจ้ากัลยาณิวัฒนา มหิดล ซึ่งภายหลังทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เป็นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ในเดือน ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ ทั้ง ๒ พระองค์ได้เสด็จกลับเมืองไทยพร้อมด้วยพระราชธิดา เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมราชชนกทรงดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมมหาวิทยาลัย ประทับอยู่ได้ประมาณ ๒๐ เดือน ก็ทรงประชวร แพทย์จึงถวายคำแนะนำให้ประทับในที่อากาศเย็น ที่เมือง ไฮเดลเบอร์ก ประเทศเยอรมนี สมเด็จพระบรมราชชนนี และพระราชธิดาจึงได้ตามเสด็จไปประทับด้วย
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ประสูติพระราชโอรสพระองค์แรก เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๘ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระนามว่า หม่อมเจ้าอานันทมหิดล
ในวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๘ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคต ทั้ง ๒ สมเด็จพระบรมราชชนกจึงทรงต้องเสด็จกลับกรุงเทพฯ เพียงพระองค์เดียว เพื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพ และประทับอยู่จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๖๙
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ประสูติพระราชโอรสองค์ที่สองที่ โรงพยาบาลเมาท์ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ สหรัฐอเมริกา ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช
ขณะที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงศึกษาวิชาแพทย์ปีสุดท้ายอยู่ที่เมืองบอสตัน ทรงประชวรโรคพระวักกะกำเริบ และพระโรคหวัด แต่ก็ยังทรงสามารถสอบได้ปริญญาแพทยศาสตร์ขั้นเกียรตินิยม แต่หลังจากสอบเสร็จ และประชวรพระโรคไส้ติ่งอักเสบ ทั้งสองพระองค์ได้พาพระราชโอรสธิดาเดินทางกลับประเทศไทย โดยประทับที่พระตำหนักใหม่สร้างขึ้นในวังสระปทุม ถนนพญาไท
เมื่อเดือน เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๒ สมเด็จพระบรมราชชนกทรงรับเชิญเป็นแพทย์ประจำบ้าน จากโรงพยาบาลแมคคอร์มิก จังหวัดเชียงใหม่ และในเดือนต่อมาก็ทรงเสด็จกลับกรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นก็ทรงพระประชวรอยู่ เป็นระยะเวลาประมาณ ๔ เดือนก็สิ้นพระชนม์ เมื่อ วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๒ ที่พระตำหนักใหม่ วังสระปทุม ในขณะที่สมเด็จพระบรมราชชนกสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระบรมราชชนนีทรงมีพระชนมายุเพียง ๒๙ พรรษา ทรงต้องรับหน้าที่อบรมเลี้ยงดูพระราชโอรสธิดาทั้งสามพระองค์ตามลำพัง
เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๑ คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ประกาศสถาปนา พระอิสริยยศสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเป็น สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ นอกจากนั้นพระองค์ยังพระราชทานเงินส่วนพระองค์สร้างโรงพยาบาลอานันทมหิดล จังหวัดลพบุรี สร้างสุขศาลา จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๑
พระราชกรณียกิจ
พระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีต่อชาวไทยและประเทศชาตินั้นใหญ่หลวงมาก เพราะตั้งแต่ทรงเษกสมรสกับสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ ทรงมีพระอุตสาหวิริยะสูงในการทรงงาน เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ตั้งแต่เหนือสุด จรดใต้
การแพทย์ พยาบาล การสาธารณสุข และการศึกษา
สมเด็จย่าทรงจัดตั้งหน่วยและมูลนิธิที่สำคัญขึ้น ดังนี้
- หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี(พอ.สว.) เป็นหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ที่เดินไปในถิ่นทุรกันดาร ประกอบด้วย แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และสมาชิกสมทบอีกคณะหนึ่ง ซึ่งไม่ได้รับสิ่งตอบแทน และ เบี้ยเลี้ยง เงินเดือน - มูลนิธิขาเทียม จัดตั้งเมื่อ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ - มูลนิธิถันยรักษ์ ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ เพื่อใช้เป็นสถานที่ตรวจวินิจฉัยเต้านม - ทรงบริจาคเงินเพื่อสร้างโรงเรียนกว่า ๑๘๕ โรงเรียน และทรงรับเอาโครงการของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนไว้ในพระราชูปถัมภ์
การอนุรักษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเป็นพระราชวงศ์ที่โปรดธรรมชาติมาก ทรงสร้างพระตำหนักดอยตุง ขึ้นบริเวณดอยตุง เนื้อที่ ๒๙ ไร่ ๓ งาน ที่บ้านอีก้อป่ากล้วย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เอง ในพื้นที่เช่าของกรมป่าไม้เป็นเวลานาน ๓๐ ปี มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ ๑๐๐๐ เมตร โดยทรงเรียกพระตำหนักนี้ว่า บ้านที่ดอยตุง ทรงพัฒนาดอยตุง และส่งเสริมงานให้ชาวเขาอีกด้วย ดังนี้
- โครงการพัฒนาดอยตุง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๑
- ทรงพระราชทานกล้าไม้แก่ผู้ตามเสด็จ และทรงปลูกป่าด้วยพระองค์เอง
- ทรงนำเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิกา และไม้ดอกมาปลูก
- โครงการขยายพันธุ์โดยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อหน่อไม้ฝรั่ง กล้วย กล้วยไม้ เห็ดหลินจือ สตรอเบอร์รี่
- จัดตั้งศูนย์บำบัด และฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ที่บ้านผาหมี ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
จากพระราชอุตสาหะดังกล่าว และโครงการที่ยังมิได้นำเสนอขึ้นมาข้างต้นนี้ ยอดดอยที่เคยหัวโล้นด้วยการถางป่า ทำไร่เลื่อนลอยปลูกฝิ่น จึงได้กลับกลายมาเป็นดอยที่เต็มไปด้วยป่าไม้ตามเดิม ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงได้รับขนานนามว่า สมเด็จย่าแม่ฟ้าหลวง จากชาวไทย ของชาวไทย
ในวันอังคารที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงได้เสด็จสวรรคต แต่พระเกียรติคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงปรารถนาให้ชาวไทยมีความสุข ยังคงสถิตถาวรอยู่ในความทรงจำของพสกนิกรทั่วไทยตลอดกาล และในวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพครบรอบ ๑๐๐ ปี องค์การวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ได้เฉลิมพระเกียรติยกย่องให้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเป็น “บุคคลสำคัญของโลก”
(ขอบคุณข้อมูลจากเฟสคุณ มนัสนันท์ เดชบดีณีรวรรณ)


oh=b0d682da6952495c8546b1713fa1dc44&oe=54B58625

ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #246 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2014, 09:58:02 »



“ในครอบครัวเรา ความรับผิดชอบเป็นของที่ไม่ต้องคิด เป็นธรรมชาติ
 สิ่งที่สอนกันมาอันดับแรกคือ เราจะทำอะไรให้เมืองไทย”


เฉลิมขวัญกัลยาณิวัฒนา หนังสือกตัญญูกตเวที มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย

พระราชปณิธานในครอบครัวราชสกุลมหิดล
 เริ่มต้นขึ้นจากพระราชหฤทัยอันแน่วแน่ขององค์พระผู้นำครอบครัว
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
ที่ทรงมุ่งมั่นจะสร้างประโยชน์สุขแก่ปวงชนชาวไทย
 โดยเฉพาะในด้านการแพทย์ การสาธารณสุข
 และการศึกษา แม้เมื่อเสด็จสวรรคตแล้ว
 พระราชปณิธานนั้นยังคงได้รับการสืบสานโดย
ผ่านสมเด็จพระบรมราชชนนีไปยังพระราชโอรสธิดาทุกพระองค์

ที่มา : หนังสือราชสกุลมหิดล
information Deivision of OHM






  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #247 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2014, 10:04:06 »

วันนี้ในอดีต

 
"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2536 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ
 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมผู้นำศาสนาอิสลาม
และราษฎร จังหวัดปัตตานี ณ มัสยิดกลาง จังหวัดปัตตานี





"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2517 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย ผ้าพระกฐินต้น
 ณ วัดสันติการาม อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี
 แล้วทรงเยี่ยมราษฎรผู้มาเฝ้า ฯ อยู่เป็นจำนวนมาก








ศาสตราจารย์เซอร์เจฟฟรีย์ สเลนี
ประธานของราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งอังกฤษ
 ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายประกาศนียบัตรสมาชิกกิตติมศักดิ์
 ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เมื่อวันจันทร์ ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๒๗



"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2527 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์เซอร์เจฟฟรีย์ สเลนี
ประธานของราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งอังกฤษ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
กราบบังคมทูลเชิญให้ทรงดำรงตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ของราชวิทยาลัย ฯ
 เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและแสดงถึงความสัมพันธ์
ของวงการศัลยแพทย์ระหว่างประเทศอังกฤษกับประเทศไทย
 ที่ดำเนินด้วยดีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
และเพื่อเป็นเกียรติแก่วิทยาลัย ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท



ประกาศนียบัตรสมาชิกกิตติมศักดิ์
ที่ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งอังกฤษทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย




ทรงฉลองพระองค์ครุยที่ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งอังกฤษทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย



  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #248 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2014, 10:07:30 »


"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2518 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ
 ทรงพระราชปฏิสันถารเกี่ยวกับภารกิจของทหาร
 ณ ฐานปฏิบัติการบ้านโคก ตำบลบ้านโคก
 กิ่งอำเภอ สุวรรณคูหา จังหวัดอุดรธานี




"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันอังคารที่ 14 ตุลาคม 2518 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงประกอบพิธีเปิดโรงเรียนร่มเกล้า
ซึ่งราษฎรและทหารช่างกองทัพภาคที่ 2
 ร่วมมือกันสร้างขึ้นสนองพระราชดำริที่จะให้มีโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา
 ณ บริเวณบ้านโคก ตำบลตองโขบ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร








"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ และเงินช่วยเหลือของมูลนิธิช่วยครูอาวุโส
ในพระบรมราชูปถัมภ์ แก่ครูอาวุโสประจำปีพุทธศักราช 2519 ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
FIRE
Spacial Mb5
*

พลังน้ำใจ: 216
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ


« ตอบ #249 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2014, 10:10:34 »



"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2523 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงพระราชปฏิสันถารกับเจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้
และเจ้าหน้าที่กิ่งอำเภอสุคิริน เกี่ยวกับเส้นทางคมนาคม
และการทำมาหาเลี้ยงชีพของสมาชิกนิคมสร้างตนเอง ฯ
 กิ่งอำเภอสุคิริน อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส





"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2511 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตร
วุฒิบัตร ประกาศนียบัตร และเข็มวิทยฐานะ
 แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
 โรงเรียนเสนาธิการทหาร, วิทยาลัยการทัพบก, โรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ.
 โรงเรียนนายช่างกลชั้นสูง, วิทยาลัยการทัพอากาศ
และโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ
 ณ ห้องรับรองกองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม

  อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
 ธงชาติ ชีวิตนี้ พลีเพื่อชาติ  ธงชาติ
บันทึกการเข้า
แท็ก:
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 [10] 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค "เว็บมหาชน คนมหาโชค"
 
คติ "กินอยู่อย่างพอเพียง เสี่ยงโชคแต่พอควร"
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย
คำเตือน -ทางเว็บไม่ได้ทราบเป็นการล่วงหน้าว่าหวยทางกองสลากจะออกตัวไหน แต่เราใช้การวิเคราะห์หรือประเมินตามหลักสถิติ
หรือวิธีการอื่นว่า เลขที่มีโอกาสออกมากที่สุดในแต่ละงวดควรจะเป็นเลขอะไรเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ การเล่นหวยถือว่ามีความเสียงมาก
Sitemap | Contact | WAP | xHTML | iMode | WAP 2 | RSS

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines | Sitemap
อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน ©
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.789 วินาที กับ 24 คำสั่ง
Copyright (c) 2008-2022 apichokeonline.com