อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน
27 เมษายน 2024, 20:27:05 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
"สนับสนุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น"

ผลงานห้อง VIP (งวด 16 เม.ย.67)
อ.apichoke ถูกสามตัวสลับ 589 ถูกตัวกลับเลขท้าย รว.ที่๑ 89 ถูกเลขท้าย๒ตัว 79
ถูกปักหลักสิบเต็มๆ 9 เลขเด่นวันหวยออก ถูกเด่น 5

ออก 598-79
   หน้าแรก   หวยรัฐบาล SUPER VIP หนังสือหวย VIP สมัคร vip ช่วยเหลือ แท็ก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก Register  
ฝากภาพ i-pic
หน้า: 1 ... 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 [19] 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 ... 408   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รวมคำโคลง บทกลอน คำประพันธ์หลากหลายรูปแบบ  (อ่าน 3498254 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #450 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2014, 20:35:29 »

26 มิถุนายน วันสุนทรภู่



สุนทรภู่กวีโลกรำลึก

สุนทรภู่ครูเฒ่านอนเฉาเฉง
หลับตาพริ้มไขว้ขาร้องว่าเพลง
อิฐปาฝาดังเป้งไม่สนใจ
ด้วยอารมณ์สุนทรีที่ล้ำลึก
กำลังนึกเรื่องต่อกลอนอยู่แข็งขัน
ถึงเรื่องราวคราวที่กำลังมัน
จึงมุ่งมั่นแต่งไปไม่มีลุก
ลองสมมุติเรื่องราวท้าวความหลัง
เมื่อครูยังแต่งกลอนแสนสนุก
พระอภัยมณีเรื่องเล่าท่านเคล้าคลุก
ครูล้ำยุคเสกสรรค์ไว้มากมาย



นำวิชาหากินร้องรำเต้น
วิชาเด่นของพระเอกน่าฉงาย
พระอภัยเป่าปี่ฝีมือพราย
ใครได้ฟังใจละลายเคลิ้มหลับพลัน



มีเรื่องการผจญภัยในสมุทร
ในการศึกมีอาวุธแปลกมากหลาย
อีกฝรั่งจีนแขกตั้งมากมาย
ม้ามังกรเงือกพรายน่าตื่นตา



สุนทรภู่จินตนาช่างล้ำเหลือ
ร้อยเรื่องราวไม่น่าเบื่อนะหนูจ๋า
อีกคำสอนมากมายท่านพรรณนา
ต่อยุคหลังยังบ่หาผู้ทัดเทียม



ยี่สิบหกมิถุนามาบรรจบ
ขอน้อมนบสุนทรภู่อย่างเสงี่ยม
พรทั้งหล้ามาลัยหาตระเตรียม
ไม่มีเขียมลำนำเพื่อบูชา
ขอคุณพระไตรรัตน์สิ่งศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งสถิตอยู่ทั่วทุกทิศา
บันดาลดลครูภู่จุ่งนิทรา
อย่างเป็นสุขบนชั้นฟ้าทุกราตรีเอย.

นิกุล ๒๖มิถุนายน ๒๕๕๓

(ลองแต่งแบบกลอนนิทาน หรือแบบเพลงยาว
คือขึ้นด้วยวรรครับ หรือวรรคที่สอง
...ผิดตกอย่างไร หากใครทราบกรุณาชี้แนะด้วยนะคะ)

ต่อด้วยเนื้อเพลงบทประพันธ์ของสุนทรภู่

"คำมั่นสัญญา"


<a href="http://www.youtube.com/v/uDYgvn1qYnA?version=2&amp;hl=en_US&amp;autoplay=1&amp;loop=1&amp;color2=82CAFA&amp;color1=82CAFA" target="_blank">http://www.youtube.com/v/uDYgvn1qYnA?version=2&amp;hl=en_US&amp;autoplay=1&amp;loop=1&amp;color2=82CAFA&amp;color1=82CAFA</a>


กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2014, 19:44:32 โดย kanikar » บันทึกการเข้า

♫♥♪♥ พ ริ ม ♫♥♪♥
สมาชิกกิตติมศักดิ์vip
۞Webmaster۞
ปรมาจารย์ C10

Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 319161
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 572,741


ข่าวหวย ข่าวดังเลขเด็ด


« ตอบ #451 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2014, 21:01:58 »



บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #452 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2014, 21:15:41 »



 t[: 26 มิถุนา มาบรรจบ
ขอเคารพ  รำลึกคุณ พระสุนทรโวหาร
ฉายาท่าน กวีสี่สมัย ในตำนาน
ทางด้านงาน วรรณกรรม กาพย์ โคลง กลอน

มหากวี แห่งกรุง รัตนโกสินทร์
โลกยลยิน สุนทรภู่ ครูอักษร
แต่งนิราศ นิทาน อ่านเป็นกลอน
ชื่อขจร ว่าเชคสเปียร์แห่งเมืองไทย

  กรรณิการ์


<a href="http://www.youtube.com/v/RNzUR5Vu2zs?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color1=aaeed&amp;amp;color2=aaeed&amp;amp;border=1&amp;autoplay=&amp;loop=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/RNzUR5Vu2zs?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color1=aaeed&amp;amp;color2=aaeed&amp;amp;border=1&amp;autoplay=&amp;loop=1</a>
ผลงานสร้างสรรค์ประกอบภาพตัวละครจากเรื่อง­พระอภัยมณี
 จากบทประพันธ์ของ พระสุนทรโวหาร นามเดิม ภู่
หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า สุนทร ภู่ (26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 - พ.ศ. 2398)
ได้รับยกย่องเป็น มหากวีกดฎุมพีแห่งรัตนโกสินทร์
 และบุคคลสำคัญของโลกจากองค์การ UNESCO

กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2014, 14:49:00 โดย kanikar » บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #453 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2014, 21:42:07 »













กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2014, 14:22:36 โดย kanikar » บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #454 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2014, 22:02:53 »

พี่จ๋า..อย่าลืมคอน

  ( ตามหาพี่ ตอนที่ 1 )

เมื่อสิ้นแสง บนฟากฟ้า นภาหม่น
ยามเมฆฝน ครึ้มดำ คร่ำครวญหา
ทางรกชัฎ ลัดเลาะ เสาะสายตา
ซ่อนกายา หลบภัย ยามใกล้ตัว
ทั้งโขดเขา ตอนดึก พฤกษากว้าง
หมดหนทาง ดั้นด้น จะค้นทั่ว
พี่อยู่ไหน พงพนา ล้วนน่ากลัว
จะเอาตัว รอดไหม ในพรุ่งนี้
ทั้งงูใหญ่ นกอินทรี ที่จดจ้อง
ต่างหมายปอง จับน้องกิน ต้องบินหนี
อีกมนุษย์ น้อยใหญ่ ในพงพี
หมายชีวี มีอาวุธ สุดร้าวรอน
โอ้ !พี่จ๋า กลับบ้านเก่า ของเราเถิด
อย่าเตลิด  ทอดทิ้ง ลืมสิงขร
พ่อแม่ร่ำ กินน้ำตา แสนอาวรณ์
อย่าลืมคอน  จะคอยพี่  ตรง...ที่เดิม


                     ***  กางเขนดง ***
ยิ้มหวาน ตอบแทนพี่..บทที่ 1  ยิ้มหวาน
ยินดีต้อนรับ.

เมื่อพายุ เมฆฝน ดั้นด้นผ่าน
เปิดเส้นทาง ฟ้ากว้าง สว่างเพิ่ม
เจ้านกน้อย โผบิน สู่ถิ่นเดิม
เข้ามาเริ่ม ต้นใหม่ ไปด้วยกัน

ณ ที่นี้ ยังมี สิ่งดีให้
อย่าหวั่นไหว ไปตามรอย เจ้าคอยฝัน
มีห้องหวย ต่างๆนานา สาระพัน
มาแบ่งปัน ความถนัด จัดโชว์ไป

หากเหนื่อยนัก พักลง ที่ตรงนี้
ด้วยกวี จรรโลงใจ ให้สดใส
มีทั้งพี่ เพื่อนพ้อง น้องห่วงใย
ไม่มีภัย อันตราย ให้ฝ่าฟัน

ห้องคุณTee  ยินดี เปิดต้อนรับ
มาสดับ วาดอักษร กลอนสร้างสรรค์
**กางเขนดง** หลงป่า พนาวัน
เธอกับฉัน *กรรณิการ์* พารื่นรมย์

 ดอกไม้ให้คุณ love love ดอกไม้ให้คุณ
 ไปด้วยกัน ไปด้วยกัน


กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2014, 14:27:09 โดย kanikar » บันทึกการเข้า
♥$♥ ไพลิน ♥$♥
Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 115223
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 150,040



« ตอบ #455 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2014, 22:46:57 »


กำลัง   l|v  ยามค่ำคืนค่ะ
ค่ำคืนนี้ ขอให้นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ


สนใจรายละเอียด Super VIP คลิ๊ก
www.apichokeonline.com/index.php/topic,216.0.html


www.apichoke.biz/index.php/board
บันทึกการเข้า
leephimp
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 7145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,350



« ตอบ #456 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2014, 22:59:56 »

  ส่งใจ  เกิดเป็นหญิงให้เห็นว่าเป็นหญิง  ส่งใจ
      อย่าทอดทิ้งกริยาอัชญาสัย
  เป็นหญิงครึ่ง ชายครึ่งอย่าพึงใจ
     ใครเขาไมสรรเสริญเมินอารมณ์
  
p*.      p*.        p*.           p*.        p*.     p*.     p*.       p*.
   จากสุภาษัตสอนหญิง
สวัสดี สวัสดีของ.ท่านสุนทรภู่.ค่ะ   สวัสดี สวัสดี            
  
[/color] [/size]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 มิถุนายน 2014, 23:30:15 โดย leephimp » บันทึกการเข้า
♥✿ (เอ๋) ✿♥
สมาชิกกิตติมศักดิ์วีไอพี
✤ Webmaster ✤
ยอดปรมาจารย์ C11

Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 246885
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 370,707



« ตอบ #457 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 06:31:36 »


26 มิถุนา วันสุนทรภู่(วันการใช้ภาษา) สวัสดีวันพระ ธรรมรักษาทุกๆท่านค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2014, 06:43:50 โดย ♥♥@.เอ๋.@♥♥ » บันทึกการเข้า
Tee1
ผู้ช่วยWebmaster
Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 238654
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 224,078


ถ้ามันง่ายไปซะหมด คงไม่เรียกว่า....ชีวิต


« ตอบ #458 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 06:42:54 »


kanikar
Junior Mb2
**

พลังน้ำใจ: 139
[คลิกขอบคุณ]
ออฟไลน์ ออฟไลน์
ขอบคุณมากครับคุณกรรณิการ์สำหรับสิ่งดีดี
เช่นบทโครงกลอนและช่วยเชิญชวน
เพิ่อนมิตรมาร่วมสนุกกันในห้องนี้
ขอให้คุณพบเจอแต่สิ่งดีงามและมีความสุขในทุกช่วงเวลานะครับ

บันทึกการเข้า
leephimp
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 7145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,350



« ตอบ #459 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 08:54:19 »

ขอชีวิตงดงามตามที่ฝัน
ขอทุกวันสานฝันอันสดใส
  ขอทุกก้าวเป็นก้าวที่มั่นใจ
  สู้สู้ สู้สู้|ilขอวันใหมก้าวไกลกว่าเดิม ส่งใจ สู้สู้ สู้สู้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2014, 08:58:02 โดย leephimp » บันทึกการเข้า
leephimp
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 7145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,350



« ตอบ #460 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 09:16:10 »


สุดยอด p*. p*. p*. p*. p*. สุดยอด
บันทึกการเข้า
♫♥♪♥ พ ริ ม ♫♥♪♥
สมาชิกกิตติมศักดิ์vip
۞Webmaster۞
ปรมาจารย์ C10

Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 319161
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 572,741


ข่าวหวย ข่าวดังเลขเด็ด


« ตอบ #461 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 10:51:51 »


หนึ่งกำลัง  h;,  ในวันนี้ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลที่นำมาแบ่งปันกัน
ขอให้โชคดีทั้งผู้ให้ และผู้รับ
ขอบคุณมากๆ น๊าค่ะ
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #462 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 14:14:57 »



พระสุนทรโวหาร นามเดิม ภู่ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า
 สุนทรภู่ (26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 - พ.ศ. 2398)
เป็นกวีชาวไทยที่มีชื่อเสียง ได้รับยกย่องเป็น เชกสเปียร์แห่งประเทศไทย
เกิดหลังจากตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ได้ 4 ปี และได้เข้ารับราชการเป็นกวีราชสำนัก
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
 เมื่อสิ้นรัชกาลได้ออกบวชเป็นเวลาร่วม 20 ปี
ก่อนจะกลับเข้ารับราชการอีกครั้งในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
โดยเป็นอาลักษณ์ในสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ในสมัยรัชกาลที่ 4
ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น พระสุนทรโวหาร เจ้ากรมอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวังบวร
 ซึ่งเป็นตำแหน่งราชการสุดท้ายก่อนสิ้นชีวิต

     สุนทรภู่เป็นกวีที่มีความชำนาญทางด้านกลอน
 ได้สร้างขนบการประพันธ์กลอนนิทานและกลอนนิราศขึ้นใหม่
จนกลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางสืบเนื่องมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
 ผลงานที่มีชื่อเสียงของสุนทรภู่มีมากมายหลายเรื่อง
 เช่น นิราศภูเขาทอง นิราศสุพรรณ เพลงยาวถวายโอวาท
 กาพย์พระไชยสุริยา และ พระอภัยมณี เป็นต้น โดยเฉพาะเรื่อง
 พระอภัยมณี ได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่า
 เป็นยอดของวรรณคดีประเภทกลอนนิทาน และเป็นผลงานที่แสดงถึงทักษะ ความรู้
 และทัศนะของสุนทรภู่อย่างมากที่สุด
งานประพันธ์หลายชิ้นของสุนทรภู่ได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรการ
 เรียนการสอนนับแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน เช่น
กาพย์พระไชยสุริยา นิราศพระบาท และอีกหลายๆเรื่อง


ปี พ.ศ. 2529 ในโอกาสครบรอบ 200 ปีชาตกาล
สุนทรภู่ได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้
 เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านงานวรรณกรรม
ผลงานของสุนทรภู่ยังเป็นที่นิยมในสังคมไทยอย่างต่อเนื่องตลอดมาไม่ขาดสาย
 และมีการนำไปดัดแปลงเป็นสื่อต่างๆ เช่น หนังสือการ์ตูน
 ภาพยนตร์ เพลง รวมถึงละคร มีการก่อสร้างอนุสาวรีย์สุนทรภู่ไว้ที่ตำบลกร่ำ
อำเภอแกลง จังหวัดระยอง บ้านเกิดของบิดาของสุนทรภู่
 และเป็นที่กำเนิดผลงานนิราศเรื่องแรกของท่านคือ
นิราศเมืองแกลง นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์แห่งอื่นๆ อีก
เช่น ที่วัดศรีสุดาราม ที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดนครปฐม
วันเกิดของสุนทรภู่คือวันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี ถือเป็น
 วันสุนทรภู่ ซึ่งเป็นวันสำคัญด้านวรรณกรรมของไทย
มีการจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติคุณ
และส่งเสริมศิลปะการประพันธ์บทกวีจากองค์กรต่างๆ โดยทั่วไป

ต้นตระกูล สุนทรภู่

      บันทึกส่วนใหญ่มักระบุถึงต้นตระกูลของสุนทรภู่เพียงว่า
บิดาเป็นชาวบ้านกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง มารดาเป็นชาวเมืองอื่น
ทั้งนี้เนื่องจากเชื่อถือตามพระนิพนธ์ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
 เรื่อง ชีวิตและงานของสุนทรภู่ ต่อมาในภายหลัง เมื่อมีการค้นพบข้อมูลต่างๆ
 มากยิ่งขึ้น ก็มีแนวคิดเกี่ยวกับต้นตระกูลของสุนทรภู่แตกต่างกันออกไป
นักวิชาการส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า ฝ่ายบิดาเป็นชาวบ้านกร่ำ
 เมืองแกลง จริง เนื่องจากมีปรากฏเนื้อความอยู่ใน
 นิราศเมืองแกลง ถึงวงศ์วานว่านเครือของสุนทรภู่
 แต่ความเห็นเกี่ยวกับตระกูลฝ่ายมารดานี้แตกออกเป็นหลายส่วน
 ส่วนหนึ่งว่าไม่ทราบที่มาแน่ชัด ส่วนหนึ่งว่าเป็นชาวฉะเชิงเทรา
 และส่วนหนึ่งว่าเป็นชาวเมืองเพชร ก.ศ.ร. กุหลาบ
เคยเขียนไว้ในหนังสือ สยามประเภท ว่า
บิดาของสุนทรภู่เป็นข้าราชการแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
ชื่อขุนศรีสังหาร (พลับ) ข้อมูลนี้สอดคล้องกับบทกวีไม่ทราบชื่อผู้แต่งซึ่ง
ปราโมทย์ ทัศนาสุวรรณ พบที่อนุสาวรีย์สุนทรภู่ จ.ระยอง
 ว่าบิดาของสุนทรภู่เป็นชาวบ้านกร่ำ ชื่อพ่อพลับ
 ส่วนมารดาเป็นชาวเมืองฉะเชิงเทรา ชื่อแม่ช้อย
 ทว่าแนวคิดที่ได้รับการยอมรับกันค่อนข้างกว้างขวางคือ
ตระกูลฝ่ายมารดาของสุนทรภู่เป็นชาวเมืองเพชร
 สืบเนื่องจากเนื้อความใน นิราศเมืองเพชร
 ฉบับค้นพบเพิ่มเติมโดย อ.ล้อม เพ็งแก้ว เมื่อ พ.ศ. 2529


วัยเยาว์

      สุนทรภู่ มีชื่อเดิมว่า ภู่ เกิดในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
เมื่อวันจันทร์ เดือน 8 ขึ้น 1 ค่ำ ปีมะเมีย
จุลศักราช 1148 เวลาเช้า 2 โมง (ตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329)
ณ บริเวณด้านเหนือของพระราชวังหลัง
ซึ่งเป็นบริเวณสถานีรถไฟบางกอกน้อยปัจจุบัน นี้
เชื่อว่าหลังจากสุนทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็หย่าร้างกัน
 บิดาออกไปบวชอยู่ที่วัดป่ากร่ำอันเป็นภูมิลำเนาเดิม
ส่วนมารดาได้เข้าไปอยู่ในพระราชวังหลัง
 ถวายตัวเป็นนางนมของพระองค์เจ้าหญิงจงกล
พระธิดาในเจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์
ดังนั้นสุนทรภู่จึงได้อยู่ในพระราชวังหลังกับมารดา
 และได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลัง
 สุนทรภู่ยังมีน้องสาวต่างบิดาอีกสองคน ชื่อฉิมและนิ่ม

      เชื่อกันว่า ในวัยเด็กสุนทรภู่ได้ร่ำเรียนหนังสือกับพระในสำนักวัดชีปะขาว
(ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานนามในรัชกาลที่ 4 ว่า
 วัดศรีสุดาราม อยู่ริมคลองบางกอกน้อย)
ตามเนื้อความส่วนหนึ่งที่ปรากฏใน นิราศสุพรรณ
ต่อมาได้เข้ารับราชการเป็นเสมียนนายระวางกรมพระคลังสวน
ในกรมพระคลังสวน แต่ไม่ชอบทำงานอื่นนอกจากแต่งบทกลอน
 ซึ่งสามารถแต่งได้ดีตั้งแต่ยังรุ่นหนุ่ม จากสำนวนกลอนของสุนทรภู่
เชื่อว่าผลงานที่มีการประพันธ์ขึ้นก่อนสุนทรภู่อายุได้ 20 ปี
(คือก่อนนิราศเมืองแกลง) เห็นจะได้แก่กลอนนิทานเรื่อง โคบุตร

      สุนทรภู่ลอบรักกับนางข้าหลวงในวังหลังคนหนึ่ง ชื่อแม่จัน
 ชะรอยว่าหล่อนจะเป็นบุตรหลานผู้มีตระกูล
จึงถูกกรมพระราชวังหลังกริ้วจนถึงให้โบยและจำคุกคนทั้งสอง
 แต่เมื่อกรมพระราชวังหลังเสด็จทิวงคตในปี พ.ศ. 2349
จึงมีการอภัยโทษแก่ผู้ถูกลงโทษทั้งหมดถวายเป็นพระราชกุศล
หลังจากสุนทรภู่ออกจากคุกก็เดินทางไปหาบิดาที่เมืองแกลง
จังหวัดระยอง การเดินทางครั้งนี้สุนทรภู่ได้แต่ง นิราศเมืองแกลง
 พรรณนาสภาพการเดินทางต่างๆ เอาไว้โดยละเอียด
 และลงท้ายเรื่องว่า แต่งมาให้แก่แม่จัน "เป็นขันหมากมิ่งมิตรพิสมัย"
ในนิราศได้บันทึกสมณศักดิ์ของบิดาของสุนทรภู่ไว้ด้วยว่า เป็น "พระครูธรรมรังษี"
เจ้าอาวาสวัดป่ากร่ำ กลับจากเมืองแกลงคราวนี้ สุนทรภู่จึงได้แม่จันเป็นภรรยา

      แต่กลับจากเมืองแกลงเพียงไม่นาน
 สุนทรภู่ต้องติดตามพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ในฐานะมหาดเล็ก
 ตามเสด็จไปในงานพิธีมาฆบูชา ที่ อ.พระพุทธบาท
 จ.สระบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2350 สุนทรภู่ได้แต่ง
นิราศพระบาท พรรณนาเหตุการณ์ในการเดินทางคราวนี้ด้วย

      สุนทรภู่กับแม่จันมีบุตรด้วยกัน 1 คน ชื่อหนูพัด
 ได้อยู่ในความอุปการะของเจ้าครอกทองอยู่
 ส่วนหนุ่มสาวทั้งสองมีเรื่องระหองระแหงกันเสมอ จนภายหลังก็เลิกรากันไป

      หลังจาก นิราศพระบาท ที่สุนทรภู่แต่งในปี พ.ศ. 2350
ไม่ปรากฏผลงานใดๆ ของสุนทรภู่อีกเลยจนกระทั่งเข้ารับราชการในปี พ.ศ. 2359

กวีราชสำนัก

      สุนทรภู่ได้เข้ารับราชการในกรมพระอาลักษณ์เมื่อ พ.ศ. 2359
 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 2 มูลเหตุในการได้เข้ารับราชการนี้
ไม่ปรากฏแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าอาจแต่งโคลงกลอนได้เป็นที่พอพระทัย
 ทราบถึงพระเนตรพระกรรณจึงทรงเรียกเข้ารับราชการ
 แนวคิดหนึ่งว่าสุนทรภู่เป็นผู้แต่งกลอนในบัตรสนเท่ห์
ซึ่งปรากฏชุกชุมอยู่ในเวลานั้น อีกแนวคิดหนึ่งสืบเนื่องจาก
 "ช่วงเวลาที่หายไป" ของสุนทรภู่ ซึ่งน่าจะใช้วิชากลอน
ทำมาหากินเป็นที่รู้จักเลื่องชื่ออยู่ ชะรอยจะเป็นเหตุให้ถูกเรียกเข้ารับราชการก็ได้

      เมื่อแรกสุนทรภู่รับราชการเป็นอาลักษณ์ปลายแถว
 มีหน้าที่เฝ้าเวลาทรงพระอักษรเพื่อคอยรับใช้
แต่มีเหตุให้ได้แสดงฝีมือกลอนของตัว
เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงแต่งกลอนบทละครในเรื่อง
 "รามเกียรติ์" ติดขัดไม่มีผู้ใดต่อกลอนได้ต้องพระราชหฤทัย
จึงโปรดให้สุนทรภู่ทดลองแต่ง ปรากฏว่าแต่งได้ดีเป็นที่พอพระทัย
จึงทรงพระกรุณาฯ เลื่อนให้เป็น ขุนสุนทรโวหาร
การต่อกลอนของสุนทรภู่คราวนี้เป็นที่รู้จักทั่วไป
เนื่องจากปรากฏรายละเอียดอยู่ในพระนิพนธ์
 ชีวิตและงานของสุนทรภู่ ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
บทกลอนในรามเกียรติ์ที่สุนทรภู่ได้แต่งในคราวนั้นคือ
 ตอนนางสีดาผูกคอตาย และตอนศึกสิบขุนสิบรถ
 ฉากบรรยายรถศึกของทศกัณฐ์ สุนทรภู่ได้เลื่อนยศเป็น
หลวงสุนทรโวหาร ในเวลาต่อมา ได้รับพระราชทานบ้านหลวงอยู่ที่ท่าช้าง
ใกล้กับวังท่าพระ และมีตำแหน่งเข้าเฝ้าเป็นประจำ
คอยถวายความเห็นเกี่ยวกับพระราชนิพนธ์และพระนิพนธ์วรรณคดีเรื่องต่างๆ
รวมถึงได้ร่วมในกิจการฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์
โดยเป็นหนึ่งในคณะร่วมแต่ง ขุนช้างขุนแผน ขึ้นใหม่

      ระหว่างรับราชการ สุนทรภู่ต้องโทษจำคุกเพราะถูกอุทธรณ์ว่าเมาสุรา
ทำร้ายญาติผู้ใหญ่ แต่จำคุกได้ไม่นานก็โปรดพระราชทานอภัยโทษ
 เล่ากันว่าเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงติดขัดบทพระราช
นิพนธ์เรื่องสังข์ทอง ไม่มีใครแต่งได้ต้องพระทัย ภายหลังพ้นโทษ
สุนทรภู่ได้เป็นพระอาจารย์ถวายอักษรสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
 เจ้าฟ้าอาภรณ์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ 2
เชื่อว่าสุนทรภู่แต่งเรื่อง สวัสดิรักษา ในระหว่างเวลานี้

ในระหว่างรับราชการอยู่นี้
 สุนทรภู่แต่งงานใหม่กับแม่นิ่ม มีบุตรด้วยกันหนึ่งคน ชื่อพ่อตาบ

อ่านต่อกระทู้ล่าง



กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2014, 14:24:52 โดย kanikar » บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #463 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 14:24:20 »

<a href="http://www.youtube.com/v/vO2y06fxKuA?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color1=aaeed&amp;amp;color2=aaeed&amp;amp;border=1&amp;autoplay=&amp;loop=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/vO2y06fxKuA?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color1=aaeed&amp;amp;color2=aaeed&amp;amp;border=1&amp;autoplay=&amp;loop=1</a>


ออกบวช (ช่วงตกยาก)
สุนทรภู่รับราชการอยู่เพียง 8 ปี เมื่อถึงปี พ.ศ. 2367
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จสวรรคต
หลังจากนั้นสุนทรภู่ก็ออกบวช
 แต่จะได้ลาออกจากราชการก่อนออกบวชหรือไม่ยังไม่ปรากฏแน่ชัด
 แม้จะไม่ปรากฏโดยตรงว่าสุนทรภู่ได้รับพระบรมราชูปถัมภ์จ
ากราชสำนักใหม่ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
แต่ก็ได้รับพระอุปถัมภ์จากพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่นอยู่เสมอ
 เช่น ปี พ.ศ. 2372 สุนทรภู่ได้เป็นพระอาจารย์ถวายอักษรเจ้าฟ้ากลางและเจ้าฟ้าปิ๋ว
พระโอรสในเจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดี ปรากฏความอยู่ใน
 เพลงยาวถวายโอวาท นอกจากนั้นยังได้
อยู่ในพระอุปถัมภ์ของพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ
 และกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ซึ่งปรากฏเนื้อความในงานเขียนของสุนทรภู่บางเรื่องว่า
 สุนทรภู่แต่งเรื่อง พระอภัยมณี และ สิงหไตรภพ ถวาย

     สุนทรภู่บวชอยู่เป็นเวลา 18 ปี ระหว่างนั้นได้ย้ายไปอยู่วัดต่างๆ
หลายแห่ง เท่าที่พบระบุในงานเขียนของท่านได้แก่ วัดเลียบ
 วัดแจ้ง วัดโพธิ์ วัดมหาธาตุ และวัดเทพธิดาราม
 งานเขียนบางชิ้นสื่อให้ทราบว่า ในบางปี ภิกษุภู่เคยต้องเร่ร่อนไม่มี
ที่จำพรรษาบ้างเหมือนกัน ผลจากการที่ภิกษุภู่เดินทางธุดงค์ไปที่ต่างๆ
ทั่วประเทศ ปรากฏผลงานเป็นนิราศเรื่องต่างๆ มากมาย
 และเชื่อว่าน่าจะยังมีนิราศที่ค้นไม่พบอีกเป็นจำนวนมาก

     งานเขียนชิ้นสุดท้ายที่ภิกษุภู่แต่งไว้ก่อนลาสิกขาบท คือ
รำพันพิลาป โดยแต่งขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม พ.ศ. 2385

ช่วงปลายของชีวิต

     ปี พ.ศ. 2385 ภิกษุภู่จำพรรษาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม
คืนหนึ่งหลับฝันเห็นเทพยดาจะมารับตัวไป เมื่อตื่นขึ้นคิดว่าตนถึงฆาตจะต้องตายแล้ว
จึงประพันธ์เรื่อง รำพันพิลาป พรรณนาถึงความฝันและเล่าเรื่องราวต่างๆ
ที่ได้ประสบมาในชีวิต หลังจากนั้นก็ลาสิกขาบทเพื่อเตรียมตัวจะตาย
ขณะนั้นสุนทรภู่มีอายุได้ 56 ปี

     หลังจากลาสิกขาบท สุนทรภู่ได้รับพระอุปถัมภ์จากเจ้าฟ้าน้อย
 หรือสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์
รับราชการสนองพระเดชพระคุณทางด้านงานวรรณคดี สุนทรภู่แต่ง
 เสภาพระราชพงศาวดาร บทเห่กล่อมพระบรรทม และบทละครเรื่อง
อภัยนุราช ถวาย รวมถึงยังแต่งเรื่อง พระอภัยมณี
ถวายให้กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพด้วย เมื่อถึงปี พ.ศ. 2394
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต
 เจ้าฟ้ามงกุฎเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
 และทรงสถาปนาเจ้าฟ้าน้อยขึ้นเป็น พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
สุนทรภู่จึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้ากรมอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวังบวร
 มีบรรดาศักดิ์เป็น พระสุนทรโวหาร
ช่วงระหว่างเวลานี้สุนทรภู่ได้แต่งนิราศเพิ่มอีก
 2 เรื่อง คือ นิราศพระประธม และ นิราศเมืองเพชร

     สุนทรภู่พำนักอยู่ในเขตพระราชวังเดิม ใกล้หอนั่งของพระยามนเทียรบาล
(บัว) มีห้องส่วนตัวเป็นห้องพักกั้นเฟี้ยมที่เรียกชื่อกันว่า "ห้องสุนทรภู่"
เชื่อว่าสุนทรภู่พำนักอยู่ที่นี่ตราบจนสิ้นชีวิต เมื่อปี พ.ศ. 2398 สิริรวมอายุได้ 69 ปี

รายชื่อผลงาน

งานประพันธ์ของสุนทรภู่เท่าที่มีการค้นพบในปัจจุบันมีปรากฏอยู่เพียง
 จำนวนหนึ่ง และสูญหายไปอีกเป็นจำนวนมาก
 ถึงกระนั้นตามจำนวนเท่าที่ค้นพบก็ถือว่ามีปริมาณค่อนข้างมาก เรียกได้ว่า
 สุนทรภู่เป็น "นักเลงกลอน" ที่สามารถแต่งกลอนได้รวดเร็วหาตัวจับยาก
ผลงานของสุนทรภู่เท่าที่ค้นพบในปัจจุบันมีดังต่อไปนี้

นิราศ

* นิราศเมืองแกลง (พ.ศ. 2349) -
แต่งเมื่อหลังพ้นโทษจากคุก และเดินทางไปหาพ่อที่เมืองแกลง
    * นิราศพระบาท (พ.ศ. 2350) -
แต่งหลังจากกลับจากเมืองแกลง
 และต้องตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ไปนมัสการรอยพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรีในวันมาฆบูชา
    * นิราศภูเขาทอง (ประมาณ พ.ศ. 2371) -
แต่งโดยสมมุติว่า เณรหนูพัด เป็นผู้แต่ง
 ไปนมัสการพระเจดีย์ภูเขาทองที่จังหวัดอยุธยา
    * นิราศสุพรรณ (ประมาณ พ.ศ. 2374) -
แต่งเมื่อครั้งยังบวชอยู่ และไปค้นหายาอายุวัฒนะที่จังหวัดสุพรรณบุรี
 เป็นผลงานเรื่องเดียวของสุนทรภู่ที่แต่งเป็นโคลง
    * นิราศวัดเจ้าฟ้า (ประมาณ พ.ศ. 2375)
 - แต่งเมื่อครั้งยังบวชอยู่ และไปค้นหายาอายุวัฒนะตามลายแทงที่วัดเจ้าฟ้าอากาศ
 (ไม่ปรากฏว่าที่จริงคือวัดใด) ที่จังหวัดอยุธยา
    * นิราศอิเหนา (ไม่ปรากฏ, คาดว่าเป็นสมัยรัชกาลที่ 3) -
แต่งเป็นเนื้อเรื่องอิเหนารำพันถึงนางบุษบา
    * รำพันพิลาป (พ.ศ. 2385) - แต่งเมื่อครั้งจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม
 แล้วเกิดฝันร้ายว่าชะตาขาด จึงบันทึกความฝันพร้อมรำพัน
ความอาภัพของตัวไว้เป็น "รำพันพิลาป" จากนั้นจึงลาสิกขาบท
    * นิราศพระประธม (พ.ศ. 2385)
- เชื่อว่าแต่งเมื่อหลังจากลาสิกขาบทและเข้ารับราชการ
ในพระบาทสมเด็จพระปิ่น เกล้าเจ้าอยู่หัว
ไปนมัสการพระประธมเจดีย์ (หรือพระปฐมเจดีย์) ที่เมืองนครชัยศรี
    * นิราศเมืองเพชร (พ.ศ. 2388)
- แต่งเมื่อเข้ารับราชการในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
 เชื่อว่าไปธุระราชการอย่างใดอย่างหนึ่ง
นิราศเรื่องนี้มีฉบับค้นพบเนื้อหาเพิ่มเติมซึ่ง
อ.ล้อม เพ็งแก้ว เชื่อว่า บรรพบุรุษฝ่ายมารดาของสุนทรภู่เป็นชาวเมืองเพชรบุรี

นิทาน

    * โคบุตร : เชื่อว่าเป็นงานประพันธ์ชิ้นแรกของสุนทรภู่
 เป็นเรื่องราวของ "โคบุตร" ซึ่งเป็นโอรสของพระอาทิตย์กับนางอัปสร
 แต่เติบโตขึ้นมาด้วยการเลี้ยงดูของนางราชสีห์
    * พระอภัยมณี : คาดว่าเริ่มประพันธ์ในสมัยรัชกาลที่ 2
และแต่งๆ หยุดๆ เรื่อยมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 4
เป็นผลงานชิ้นเอกของสุนทรภู่
ได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสรให้เป็นสุดยอดวรรณคดีไทยประเภทกลอนนิทาน
    * พระไชยสุริยา : เป็นนิทานที่สุนทรภู่แต่งด้วยฉันทลักษณ์ประเภทกาพย์หลายชนิด
 ได้แก่ กาพย์ยานี 11 กาพย์ฉบัง 16 และกาพย์สุรางคนางค์ 28
เป็นนิทานสำหรับสอนอ่าน เนื้อหาเรียงลำดับความง่ายไปยาก
 จากแม่ ก กา แม่กน กง กก กด กบ กม และเกย เชื่อว่าแต่งขึ้นประมาณ พ.ศ. 2383 - 2385
    * ลักษณวงศ์ : เป็นนิทานแนวจักรๆ วงศ์ๆ
ที่นำโครงเรื่องมาจากนิทานพื้นบ้าน แต่มีตอนจบที่แตกต่าง
ไปจากนิทานทั่วไปเพราะไม่ได้จบด้วยความสุข
 แต่จบด้วยงานสมโภชศพนางทิพเกสร
 ชายาของลักษณวงศ์ที่สิ้นชีวิตด้วยการสั่งประหารของลักษณวงศ์เอง
    * สิงหไกรภพ : เชื่อว่าเริ่มประพันธ์เมื่อครั้งถวายอักษรแด่เจ้าฟ้าอาภรณ์
ภายหลังจึงแต่งถวายกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ
 และน่าจะหยุดแต่งหลังจากกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพสิ้นพระชนม์
 สิงหไตรภพเป็นตัวละครเอกที่แตกต่างจากตัวพระในเรื่องอื่นๆ
 เนื่องจากเป็นคนรักเดียวใจเดียว


สุภาษิต

    * สวัสดิรักษา : คาดว่าประพันธ์ในสมัยรัชกาลที่ 2
ขณะเป็นพระอาจารย์ถวายอักษรแด่เจ้าฟ้าอาภรณ์
    * เพลงยาวถวายโอวาท : คาดว่าประพันธ์ในสมัยรัชกาลที่ 3
ขณะเป็นพระอาจารย์ถวายอักษรแด่เจ้าฟ้ากลางและเจ้าฟ้าปิ๋ว
    * สุภาษิตสอนหญิง : เป็นหนึ่งในผลงานซึ่งยังเป็นที่เคลือบแคลงว่า
 สุนทรภู่เป็นผู้ประพันธ์จริงหรือไม่

บทละคร

มีการประพันธ์ไว้เพียงเรื่องเดียวคือ อภัยนุราช ซึ่งเขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4
เพื่อถวายพระองค์เจ้าดวงประภา พระธิดาในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
บทเสภา

    * ขุนช้างขุนแผน
    * เสภาพระราชพงศาวดาร

บทเห่กล่อมพระบรรทม

น่าจะแต่งขึ้นสำหรับใช้ขับกล่อมหม่อมเจ้าในพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ
กับพระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เท่าที่พบมี 4 เรื่องคือ

    * เห่เรื่องพระอภัยมณี
    * เห่เรื่องโคบุตร
    * เห่เรื่องจับระบำ
    * เห่เรื่องกากี

ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki

กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2014, 14:26:15 โดย kanikar » บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #464 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 14:45:06 »


เพื่อเป็นการรำลึกถึงสุทรภู่ บรมครูกลอน จึงได้ยกเอาบทกลอน
บางตอนจากเรื่อง พระอภัยมณี มากล่าวอ้าง และเพื่อเป็นการเตือนใจ
ทุกท่านค่ะ


เมื่อสุดสาครถูกชีเปลือยหลอกผลักตกเหว แล้วแย่งชิงเอาไม้เท้า
กับม้ามังกรไปในระหว่างนั้นสุดสาครได้รำลึกถึงพระเจ้าตา
ทันใดนั้น พระเจ้าตาก็ปรากฏกายตามาช่วยไว้ได้




เสียงระฆังหง่างเหง่งวังเวงแว่ว
สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา
เห็นโยคีขี่รุ่งพุ่งออกมา
ประคองพาขึ้นไปบนบรรพต

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

มนุษย์นี้มีรักอยู่สองสถาน
บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน
เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจา

แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ
ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา
รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี

บางตอนของ*พระอภัยมณี*





"ถ้าแม้นแก้วแววตามาด้วยพี่       จะชวนชี้ชมไม้ไพรพฤกษา
คิดพลางเดินพลางตามทางมา      ข้ามท่าเขินเขาลำเนาธาร
แลเห็นเขาเงาเงื้อมชะง่อนชะโงก      เป็นกรวยโกรกน้ำสาดกระเซ็นซ่าน
โครมครึกกึกก้องท้องพนานต์      พลุ่งพล่านมาแต่ยอดศิขรินทร์
เป็นชะวากวุ้งเวิ้งตะเพิงพัก      แง่ชะงักเงื้อมชะง่อนล้วนก้อนหิน
บ้างใสสดหยดย้อยเหมือนพลอยนิล      บ้างเหมือนกลิ่นพู่ร้อยห้อยเรียงราย
ตรงตระพักเพิงผาศิลาเผิน      ชะงักเงิ่นเงื้อมงอกชะแง้หงาย
ที่หุบห้วยเหวหินบิ่นทะลาย      เป็นวุ้งโว้งโพรงพรายดูลายพร้อย
บ้างเป็นยอดกอดก่ายตะเกะตะกะ      ตะขรุตะขระนหักเป็นหินห้อย
ขยุกขยิกหยดหยอดเป็นยอดย้อย      บ้างแหลมลอยเลื่อมสลับระยับยิบ
บ้างงอกเง้าเป็นเงี่ยงบ้างเกลี้ยงกลม      บ้างโปปมเป็นปุ่มกะปุบกะปิบ
บ้างปอดแป้วเป็นพูดูลิบลิบ      โล่งตลิบแลตลอดยอดศิขรินทร์....."


บางตอนจากขุนช้างขุนแผน..พลายงามได้นางศรีมาลา
 love love love



"...แลดูหมู่วิหกนกนา       สาริกาพูดจ้ออยู่จอแจ
คุ่มขาบเขาขันสนั่นป่า      กระสาจับกระสังส่งเสียงแซ่
กระลิงจับกิ่งประโลงแล      คับแคไต่คางริมทางจร
ค้อนทองจับบนต้นกะถิน      แก้วจับแก้วกินแล้วบินร่อน
นกยูงจับยางแผ่หางฟ้อน      กะทุงทองจับกระท้อนทำอ่อนคอ
กระจาบจ้อยโจนจับกระเจาเจ่า      แซงแซวเซาจับสนดูซอมซ่อ
นกกระไนไก่ฟ้าพญาลอ      นกกรอดพลอดจ้ออยู่กิ่งจันทน์
นกเขาจับเงื้อมเขาแล้วเคล้าคู่      จู่หุกกูจู้ฮุกกูเฝ้าคูขัน..."


กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2014, 14:52:56 โดย kanikar » บันทึกการเข้า
♥$♥ ไพลิน ♥$♥
Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 115223
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 150,040



« ตอบ #465 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 15:09:22 »

<a href="http://www.xcwhw.cn/fla/cs/608.swf" target="_blank">http://www.xcwhw.cn/fla/cs/608.swf</a>

ธรรมะสวัสดีค่ะ คุณที คุณกรรณิการ์
คุณเอ๋ คุณดา คุณเกษ และเพื่อนสมาชิก ที่แวะเวียนมาที่ห้องนี้ทุกๆท่าน
ในวันนี้ และทุกๆวันขอให้มีความสุขมากๆนะคะ



สนใจรายละเอียด Super VIP คลิ๊ก
www.apichokeonline.com/index.php/topic,216.0.html


www.apichoke.biz/index.php/board
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #466 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 15:13:33 »



พระสุนทรโวหาร (ภู่) อาลักษณ์ขี้เมา

สำหรับท่านที่ชอบบทกวี
ประวัติท่านสุนทรภู่
โปรดคลิกตามลงค์นี้ไป

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=rattanakosin225&month=29-06-2007&group=1&gblog=33

นิราศภูเขาทอง

นิราศภูเขาทอง ได้รับยกย่องว่าเป็นนิราศเรื่องเยี่ยมที่สุดของท่านสุนทรภู่ ท่านแต่งเรื่องนี้ เมื่อครั้งเดินทางไปนมัสการเจดีย์ภูเขาทอง ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คาดว่าไปในราวปี พ.ศ.๒๓๗๑ หลังจากเกิดมีเรื่องมีราวที่วัดราชบูรณะฯ ขณะนั้นท่าน มีอายุราว ๔๒ ปี

นิราศเรื่องนี้ไม่ยาวนัก แต่พร้อมไปด้วยกระบวนกลอนอันไพเราะ และแง่คิดสำหรับการดำรงชีวิต อาจเป็นด้วยท่านสุนทรภู่ได้บวชมาหลายพรรษาแล้ว และได้ตระหนักถึงความเป็นจริงของชีวิตมากขึ้น เส้นทางเดินทางจะคล้ายกับนิราศ พระบาท เพราะออกจากพระนครทวนแม่น้ำขึ้นไปทางเหนือ ขอให้สังเกตความเปรียบเทียบในนิราศภูเขาทองกับนิราศพระบาท ซึ่งท่านแต่งขึ้นเมื่อรุ่นหนุ่มอายุเพียง ๒๑ ปีว่า ท่านสุนทรภู่คิดเห็นสุขุมขึ้นอย่างไร

นอกจากนี้ แม้ว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จสวรรคตไปหลายปีแล้วก็ตาม แต่ความจงรักภักดีของท่านสุนทรภู่ ในพระองค์ก็มิได้เสื่อมคลายไปแม้แต่น้อย ด้วยท่านยังคร่ำครวญรำพันถึงพระองค์อยู่ตลอดการเดินทางในนิราศเรื่องนี้
 


๏ เดือนสิบเอ็ดเสร็จธุระพระวสา
รับกฐินภิญโญโมทนา   ชุลีลาลงเรือเหลืออาลัย
ออกจากวัดทัศนาดูอาวาส   เมื่อตรุษสารทพระวสาได้อาศัย
สามฤดูอยู่ดีไม่มีภัย   มาจำไกลอารามเมื่อยามเย็น
โอ้อาวาสราชบุรณะพระวิหาร   แต่นี้นานนับทิวาจะมาเห็น
เหลือรำลึกนึกน่าน้ำตากระเด็น   เพราะขุกเข็ญคนพาลมารานทาง
จะยกหยิบธิบดีเป็นที่ตั้ง   ก็ใช้ถังแทนสัดเห็นขัดขวาง
จึ่งจำลาอาวาสนิราศร้าง   มาอ้างว้างวิญญาณ์ในสาครฯ
    
๏ ถึงหน้าวังดังหนึ่งใจจะขาด   คิดถึงบาทบพิตรอดิศร
โอ้ผ่านเกล้าเจ้าประคุณของสุนทร   แต่ปางก่อนเคยเฝ้าทุกเช้าเย็น
พระนิพพานปานประหนึ่งศีรษะขาด   ด้วยไร้ญาติยากแค้นถึงแสนเข็ญ
ทั้งโรคซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น   ไม่เล็งเห็นที่ซึ่งจะพึ่งพา
จะสร้างพรตอตส่าห์ส่งส่วนบุญถวาย   ประพฤติฝ่ายสมถะทั้งวสา
เป็นสิ่งของฉลองคุณมุลิกา   ขอเป็นข้าเคียงพระบาททุกชาติไปฯ


    
๏ ถึงหน้าแพแลเห็นเรือที่นั่ง   คิดถึงครั้งก่อนมาน้ำตาไหล
เคยหมอบรับกับพระจมื่นไวย   แล้วลงในเรือที่นั่งบัลลังก์ทอง
เคยทรงแต่งแปลงบทพจนารถ   เคยรับราชโองการอ่านฉลอง
จนกฐินสิ้นแม่น้ำแลลำคลอง   มิได้ข้องเคืองขัดหัทยา
เคยหมอบใกล้ได้กลิ่นสุคนธ์ตลบ   ละอองอบรสรื่นชื่นนาสา
สิ้นแผ่นดินสิ้นรสสุคนธา   วาสนาเราก็สิ้นเหมือนกลิ่นสุคนธ์ฯ
    
๏ ดูในวังยังเห็นหอพระอัฐิ   ตั้งสติเติมถวายฝ่ายกุศล
ทั้งปิ่นเกล้าเจ้าพิภพจบสกล   ให้ผ่องพ้นภัยสำราญผ่านบุรินทร์ฯ

๏ ถึงอารามนามวัดประโคนปัก   ไม่เห็นหลักลือเล่าว่าเสาหิน
เป็นสำคัญปันแดนในแผ่นดิน   มิรู้สิ้นสุดชื่อที่ลือชา
ขอเดชะพระพุทธคุณช่วย   แม้นมอดม้วยกลับชาติวาสนา
อายุยืนหมื่นเท่าเสาศิลา   อยู่คู่ฟ้าดินได้ดังใจปอง
ไปพ้นวัดทัศนาริมท่าน้ำ   แพประจำจอดรายเขาขายของ
มีแพรผ้าสารพัดสีม่วงตอง   ทั้งสิ่งของขาวเหลืองเครื่องสำเภาฯ
    
๏ ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง   มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา   ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ   สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย
ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย   ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก   สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป   แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืนฯ
    
๏ ถึงบางจากจากวัดพลัดพี่น้อง   มามัวหมองม้วนหน้าไม่ฝ่าฝืน
เพราะรักใคร่ใจจืดไม่ยืดยืน   จึงต้องขืนในพรากมาจากเมือง
ถึงบางพลูคิดถึงคู่เมื่ออยู่ครอง   เคยใส่ซองส่งให้ล้วนใบเหลือง
ถึงบางพลัดเหมือนพี่พลัดมาขัดเคือง   ทั้งพลัดเมืองพลัดสมรมาร้อนรน
ถึงบางโพธิ์โอ้พระศรีมหาโพธิ์   ร่มริโรธรุกขมูลให้พูนผล
ขอเดชะอานุภาพพระทศพล   ให้ผ่องพ้นภัยพาลสำราญกายฯ
    

๏ ถึงบ้านญวนล้วนแต่โรงแลสะพรั่ง   มีข้องขังกุ้งปลาไว้ค้าขาย
ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย   พวกหญิงชายพร้อมเพรียงมาเมียงมอง
จะเหลียวกลับลับเขตประเทศสถาน   ทรมานหม่นไหม้ฤทัยหมอง
ถึงเขมาอารามอร่ามทอง   พึ่งฉลองเลิกงานเมื่อวานซืนฯ
    
๏ โอ้ปางหลังครั้งสมเด็จพระบรมโกศ   มาผูกโบสถ์ก็ได้มาบูชาชื่น
ชมพระพิมพ์ริมผนังยังยั่งยืน   ทั้งแปดหมื่นสี่พันได้วันทา
โอ้ครั้งนี้มิได้เห็นเล่นฉลอง   เพราะตัวต้องตกประดาษวาสนา
เป็นบุญน้อยพลอยนึกโมทนา   พอนาวาติดชลเข้าวนเวียน
ดูน้ำเด่นกลิ้งเชี่ยวเป็นเกลียวกลอก   กลับกระฉอกฉาดฉันฉวัดเฉวียน
บ้างพลุ่งพลุ่งวุ้งวงเหมือนกงเกวียน   ดูเปลี่ยนเปลี่ยนคว้างคว้างเป็นหว่างวน
ทั้งหัวท้ายกรายแจวกระชากจ้วง   ครรไลล่วงเลยทางมากลางหน
โอ้เรือพ้นวนมาในสาชล   ใจยังวนหวังสวาทไม่คลาดคลาฯ
    
๏ ตลาดแก้วแล้วไม่เห็นตลาดตั้ง   สองฟากฝั่งก็แต่ล้วนสวนพฤกษา
โอ้รินรินกลิ่นดอกไม้ใกล้คงคง   เหมือนกลิ่นผ้าแพรดำร่ำมะเกลือ
เห็นโศกใหญ่ใกล้น้ำระกำแฝง   ทั้งรักแซงแซมสวาทประหลาดเหลือ


เหมือนโศกพี่ที่ระกำก็ซ้ำเจือ   เพราะรักเรื้อแรมสวาทมาคลาดคลาย
ถึงแขวงนนท์ชลมารคตลาดขวัญ   มีพ่วงแพแพรพรรณเขาค้าขาย
ทั้งของสวนล้วนแต่เรือเรียงราย   พวกหญิงชายชุมกันทุกวันคืนฯ
    
๏ มาถึงบางธรณีทวีโศก   ยามวิโยคยากใจให้สะอื้น
โอ้สุธาหนาแน่นเป็นแผ่นพื้น   ถึงสี่หมื่นสองแสนทั้งแดนไตร
เมื่อเคราะห์ร้ายกายเราก็เท่านี้   ไม่มีที่พสุธาจะอาศัย
ล้วนหนามเหน็บเจ็บแสบคับแคบใจ   เหมือนนกไร้รังเร่อยู่เอกาฯ
    


๏ ถึงเกร็ดย่านบ้านมอญแต่ก่อนเก่า   ผู้หญิงเกล้ามวยงามตามภาษา
เดี๋ยวนี้มอญถอนไรจุกเหมือนตุ๊กตา   ทั้งผัดหน้าจับเขม่าเหมือนชาวไทย
โอ้สามัญผันแปรไม่แท้เที่ยง   เหมือนอย่างเยี่ยงชายหญิงทิ้งวิสัย
นี่หรือจิตคิดหมายมีหลายใจ   ที่จิตใครจะเป็นหนึ่งอย่าพึงคิดฯ
    
๏ ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์   มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร   จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจาฯ
    
๏ ถึงบ้านใหม่ใจจิตก็คิดอ่าน   จะหาบ้านใหม่มาดเหมือนปรารถนา
ขอให้สมคะเนเถิดเทวา   จะได้ผาสุกสวัสดิ์จำกัดภัย
ถึงบางเดื่อโอ้มะเดื่อเหลือประหลาด   บังเกิดชาติแมลงหวี่มีในไส้
เหมือนคนพาลหวานนอกย่อมขมใน   อุปไมยเหมือนมะเดื่อเหลือระอา
ถึงบางหลวงเชิงรากเหมือนจากรัก   สู้เสียศักดิ์สังวาสพระศาสนา
เป็นล่วงพ้นรนราคราคา   ถึงนางฟ้าจะมาให้ไม่ไยดีฯ
    


๏ ถึงสามโคกโศกถวิลถึงปิ่นเกล้า   พระพุทธเจ้าหลวงบำรุงซึ่งกรุงศรี
ประทานนามสามโคกเป็นเมืองตรี   ชื่อปทุมธานีเพราะมีบัว
โอ้พระคุณสูญลับไม่กลับหลัง   แต่ชื่อตั้งก็ยังอยู่เขารู้ทั่ว
โอ้เรานี้ที่สุนทรประทานตัว   ไม่รอดชั่วเช่นสามโคกยิ่งโศกใจ
สิ้นแผ่นดินสิ้นนามตามเสด็จ   ต้องเที่ยวเตร็ดเตร่หาที่อาศัย
แม้นกำเนิดเกิดชาติใดใด   ขอให้ได้เป็นข้าฝ่าธุลี
สิ้นแผ่นดินขอให้สิ้นชีวิตบ้าง   อย่ารู้ร้างบงกชบทศรี
เหลืออาลัยใจตรมระทมทวี   ทุกวันนี้ก็ซังตายทรงกายมาฯ
    
๏ ถึงบ้านงิ้วเห็นแต่งิ้วละลิ่วสูง   ไม่มีฝูงสัตว์สิงกิ่งพฤกษา
ด้วยหนามดกรกดาษระดะตา   นึกก็น่ากลัวหนามขามขามใจ
งิ้วนรกสิบหกองคุลีแหลม   ดังขวากแซมเสี้ยมแซกแตกไสว
ใครทำชู้คู่ท่านครั้นบรรลัย   ก็ต้องไปปีนต้นน่าขนพอง
เราเกิดมาอายุเพียงนี้แล้ว   ยังคลาดแคล้วครองตัวไม่มัวหมอง
ทุกวันนี้วิปริตผิดทำนอง   เจียนจะต้องปีนบ้างหรืออย่างไรฯ

๏ โอ้คิดมาสารพัดจะตัดขาด   ตัดสวาทตัดรักมิยักไหว
ถวิลหวังนั่งนึกอนาถใจ   ถึงเกาะใหญ่ราชครามพอยามเย็น
ดูห่างย่านบ้านช่องทั้งสองฝั่ง   ระวังทั้งสัตว์น้ำจะทำเข็ญ
เป็นที่อยู่ผู้ร้ายไม่วายเว้น   เที่ยวซ่อนเร้นตีเรือเหลือระอาฯ
    
๏ พระสุริยงลงลับพยับฝน   ดูมัวมนมืดมิดทุกทิศา
ถึงทางลัดตัดทางมากลางนา   ทั้งแฝกคาแขมกกขึ้นรกเรี้ยว
เป็นเงาง้ำน้ำเจิ่งดูเวิ้งว้าง   ทั้งกว้างขวางขวัญหายไม่วายเหลียว
เห็นดุ่มดุ่มหนุ่มสาวเสียงกราวเกรียว   ล้วนเรือเพรียวพร้อมหน้าพวกปลาเลย
เขาถ่อคล่องว่องไวไปเป็นยืด   เรือเราฝืดเฝือมานิจจาเอ๋ย
ต้องถ่อค้ำร่ำไปทั้งไม่เคย   ประเดี๋ยวเสยสวบตรงเข้าพงรก
กลับถอยหลังรั้งรอเฝ้าถ่อถอน   เรือขย่อนโยกโยนกระโถนหก
เงียบสงัดสัตว์ป่าคณานก   น้ำค้างตกพร่างพรายพระพายพัด
ไม่เห็นคลองต้องค้างอยู่กลางทุ่ง   พอหยุดยุงฉู่ชุมมารุมกัด
เป็นกลุ่มกลุ่มกลุ้มกายเหมือนทรายซัด   ต้องนั่งปัดแปะไปมิได้นอนฯ
    

ต่อกระทู้ล่าง

กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2014, 15:22:17 โดย kanikar » บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #467 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 15:19:12 »



๏ แสนวิตกอกเอ๋ยมาอ้างว้าง   ในทุ่งกว้างเห็นแต่แขมแซมสลอน
จนดึกดาวพราวพร่างกลางอัมพร   กาเรียนร่อนร้องก้องเมื่อสองยาม
ทั้งกบเขียดเกรียดกรีดจังหรีดเรื่อย   พระพายเฉื่อยฉิวฉิววะหวิวหวาม
วังเวงจิตคิดคะนึงรำพึงความ   ถึงเมื่อยามยังอุดมโสมนัส
สำรวลกับเพื่อนรักสะพรักพร้อม   อยู่แวดล้อมหลายคนปรนนิบัติ
โอ้ยามเข็ญเห็นอยู่แต่หนูพัด   ช่วยนั่งปัดยุงให้ไม่ไกลกาย
จนเดือนเด่นเห็นกอกระจับจอก   ระดะดอกบัวเผื่อนเมื่อเดือนหงาย
เห็นร่องน้ำลำคลองทั้งสองฝ่าย   ข้างหน้าท้ายถ่อมาในสาคร
จนแจ่มแจ้งแสงตะวันเห็นพันธุ์ผัก   ดูน่ารักบรรจงส่งเกสร
เหล่าบัวเผื่อนแลสล้างริมทางจร   ก้ามกุ้งซ้อนเสียดสาหร่ายใต้คงคา
สายติ่งแกมแซมสลับต้นตับเต่า   เป็นเหล่าเหล่าแลรายทั้งซ้ายขวา
กระจับจอกดอกบัวบานผกา   ดาษดาดูขาวดั่งดาวพราย
โอ้เช่นนี้สีกาได้มาเห็น   จะลงเล่นกลางทุ่งเหมือนมุ่งหมาย
ที่มีเรือน้อยน้อยจะลอยพาย   เที่ยวถอนสายบัวผันสันตวา
ถึงตัวเราเล่าถ้ายังมีโยมหญิง   ไหนจะนิ่งดูดายอายบุปผา
คงจะใช้ให้ศิษย์ที่ติดมา   อุตส่าห์หาเอาไปฝากตามยากจน
นี่จนใจไม่มีเท่าขี้เล็บ   ขี้เกียจเก็บเลยทางมากลางหน
พอรอนรอนอ่อนแสงพระสุริยน   ถึงตำบลกรุงเก่ายิ่งเศร้าใจฯ
    
๏ มาทางท่าหน้าจวนจอมผู้รั้ง   คิดถึงครั้งก่อนมาน้ำตาไหล
จะแวะหาถ้าท่านเหมือนเมื่อเป็นไวย   ก็จะได้รับนิมนต์ขึ้นบนจวน
แต่ยามยากหากว่าถ้าท่านแปลก   อกมิแตกเสียหรือเราเขาจะสรวล
เหมือนเข็ญใจใฝ่สูงไม่สมควร   จะต้องม้วนหน้ากลับอัปประมาณฯ
    


๏ มาจอดท่าหน้าวัดพระเมรุข้าม   ริมอารามเรือเรียงเคียงขนาน
บ้างขึ้นล่องร้องลำเล่นสำราญ   ทั้งเพลงการเกี้ยวแก้กันแซ่เซ็ง
บ้างฉลองผ้าป่าเสภาขับ   ระนาดรับรัวคล้ายกับนายเส็ง
มีโคมรายแลอร่ามเหมือนสำเพ็ง   เมื่อคราวเคร่งก็มิใคร่จะได้ดู
อ้ายลำหนึ่งครึ่งท่อนกลอนมันมาก   ช่างยาวลากเลื้อยเจื้อยจนเหนื่อยหู
ไม่จบบทลดเลี้ยวเหมือนเงี้ยวงู   จนลูกคู่ขอทุเลาว่าหาวนอนฯ
    
๏ ได้ฟังเล่นต่างต่างที่ข้างวัด   จนสงัดเงียบหลับลงกับหมอน
ประมาณสามยามคล้ำในอัมพร   อ้ายโจรจรจู่จ้วงเข้าล้วงเรือ
นาวาเอียงเสียงกุกลุกขึ้นร้อง   มันดำล่องน้ำไปช่างไวเหลือ
ไม่เห็นหน้าสานุศิษย์ที่ชิดเชื้อ   เหมือนเนื้อเบื้อบ้าเคอะดูเซอะซะ
แต่หนูพัดจัดแจงจุดเทียนส่อง   ไม่เสียของขาวเหลืองเครื่องอัฏฐะ
ด้วยเดชะตบะบุญกับคุณพระ   ชัยชนะมารได้ดังใจปองฯ
    


๏ ครั้นรุ่งเช้าเข้าเป็นวันอุโบสถ   เจริญรสธรรมาบูชาฉลอง
ไปเจดีย์ที่ชื่อภูเขาทอง   ดูสูงล่องลอยฟ้านภาลัย
อยู่กลางทุ่งรุ่งโรจน์สันโดษเด่น   เป็นที่เล่นนาวาคงคาใส
ที่พื้นลานฐานบัทม์ถัดบันได   คงคงลัยล้อมรอบเป็นขอบคัน
มีเจดีย์วิหารเป็นลานวัด   ในจังหวัดวงแขวงกำแพงกั้น
ที่องค์ก่อย่อเหลี่ยมสลับกัน   เป็นสามชั้นเชิงชานตระหง่านงาม
บันไดมีสี่ด้านสำราญรื่น   ต่างชมชื่นชวนกันขึ้นชั้นสาม
ประทักษิณจินตนาพยายาม   ได้เสร็จสามรอบคำนับอภิวันท์
มีห้องถ้ำสำหรับจุดเทียนถวาย   ด้วยพระพายพัดเวียนอยู่เหียนหัน
เป็นลมทักขิณาวัฏน่าอัศจรรย์   แต่ทุกวันนี้ชราหนักหนานัก
ทั้งองค์ฐานราญร้าวถึงเก้าแสก   เผลอแยกยอดสุดก็หลุดหัก
โอ้เจดีย์ที่สร้างยังร้างรัก   เสียดายนักนึกน่าน้ำตากระเด็น
กระนี้หรือชื่อเสียงเกียรติยศ   จะมิหมดล่วงหน้าทันตาเห็น
เป็นผู้ดีมีมากแล้วยากเย็น   คิดก็เป็นอนิจจังเสียทั้งนั้นฯ
    
๏ ขอเดชะพระเจดีย์คีรีมาศ   บรรจุธาตุที่ตั้งนรังสรรค์
ข้าอุตส่าห์มาเคารพอภิวันท์   เป็นอนันต์อานิสงส์ดำรงกาย
จะเกิดชาติใดใดในมนุษย์   ให้บริสุทธิ์สมจิตที่คิดหมาย
ทั้งทุกข์โศกโรคภัยอย่าใกล้กราย   แสนสบายบริบูรณ์ประยูรวงศ์
ทั้งโลโภโทโสแลโมหะ   ให้ชนะใจได้อย่าใหลหลง
ขอฟุ้งเฟื่องเรืองวิชาปัญญายง   ทั้งให้ทรงศีลขันธ์ในสันดาน
อีกสองสิ่งหญิงร้ายแลชายชั่ว   อย่าเมามัวหมายรักสมัครสมาน
ขอสมหวังตั้งประโยชน์โพธิญาณ   ตราบนิพพานภาคหน้าให้ถาวรฯ
    
๏ พอกราบพระปะดอกปทุมชาติ   พบพระธาตุสถิตในเกสร
สมถวิลยินดีชุลีกร   ประคองซ้อนเชิญองค์ลงนาวา
กับหนูพัดมัสการสำเร็จแล้ว   ใส่ขวดแก้ววางไว้ใกล้เกศา
มานอนกรุงรุ่งขึ้นจะบูชา   ไม่ปะตาตันอกยิ่งตกใจ
แสนเสียดายหมายจะชมบรมธาตุ   ใจจะขาดคิดมาน้ำตาไหล
โอ้บุญน้อยลอยลับครรไลไกล   เสียน้ำใจเจียนจะดิ้นสิ้นชีวัน
สุดจะอยู่ดูอื่นไม่ฝืนโศก   กำเริบโรคร้อนฤทัยเฝ้าใฝ่ฝัน
พอตรู่ตรู่สุริย์ฉายขึ้นพรายพรรณ   ให้ล่องวันหนึ่งมาถึงธานีฯ
    


๏ ประทับท่าหน้าอรุณอารามหลวง   ค่อยสร่างทรวงทรงศีลพระชินสีห์
นิราศเรื่องเมืองเก่าของเรานี้   ไว้เป็นที่โสมนัสทัศนา
ด้วยได้ไปเคารพพระพุทธรูป   ทั้งสถูปบรมธาตุพระศาสนา
เป็นนิสัยไว้เหมือนเตือนศรัทธา   ตามภาษาไม่สบายพอคลายใจ
ใช่จะมีที่รักสมัครมาด   แรมนิราศร้างมิตรพิสมัย
ซึ่งครวญคร่ำทำทีพิรี้พิไร   ตามนิสัยกาพย์กลอนแต่ก่อนมา
เหมือนแม่ครัวคั่วแกงแพนงผัด   สารพัดเพียญชนังเครื่องมังสา
อันพริกไทยใบผักชีเหมือนสีกา   ต้องโรยน่าเสียสักหน่อยอร่อยใจฯ
    
๏ จงทราบความตามจริงทุกสิ่งสิ้น   อย่านึกนินทาแกล้งแหนงไฉน
นักเลงกลอนนอนเปล่าก็เศร้าใจ   จึงร่ำไรเรื่องร้างเล่นบ้างเอยฯ



กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2014, 15:27:48 โดย kanikar » บันทึกการเข้า
♥$♥ ไพลิน ♥$♥
Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 115223
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 150,040



« ตอบ #468 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 15:21:04 »










สนใจรายละเอียด Super VIP คลิ๊ก
www.apichokeonline.com/index.php/topic,216.0.html


www.apichoke.biz/index.php/board
บันทึกการเข้า
Tee1
ผู้ช่วยWebmaster
Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 238654
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 224,078


ถ้ามันง่ายไปซะหมด คงไม่เรียกว่า....ชีวิต


« ตอบ #469 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 16:10:50 »



กำลังใจดีๆส่งมาให้ครับ
ขอให้มีความสุขสมหวังตลอดวันนะครับ
บันทึกการเข้า
leephimp
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 7145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,350



« ตอบ #470 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 17:33:35 »



 ส่งใจ ส่งใจอย่าเศร้าเพียงเพราะเขาจากไป.. ส่งใจ ส่งใจ

อย่าเสียดายกับอดีต…

อย่าคิดถึงเรื่องที่เป็นไปไม่ได้…

อย่าเก็บเอาไว้ในความทรงจำ..

อย่าทำให้ตัวเองเจ็บ..

จงเก็บเอาไว้เป็นประสบการณ์..

เพื่อเป็นวันวานไว้สอนใจ..

ว่าวันพรุ่งนี้และต่อๆไป..

 Love Love. Love.จะไม่เสียใจให้ใครบางคน.. Love
love love+ หนึ่งกําลังใจค่ะ+ love love
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2014, 17:43:15 โดย leephimp » บันทึกการเข้า
leephimp
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 7145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,350



« ตอบ #471 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 19:25:07 »

เอนกาย พักลงที่ตรงนี้
หลับตานะคนดี จะกล่อมขวัญ
เล่านิทานความรักเป็นพรจากพระจันทร์
รินน้ำฟ้าของความฝัน มาพรมใจ

ได้ยินไหม บทเพลงจากรัตติกาล
พริ้วผ่าน เป็นสายลมหวาน อ่อนไหว
ที่เรืองรองในความมืด คือเจ้าหิ่งห้อยอำไพ
ที่เรียงรายอยู่บนม่านฟ้าไกล คือดวงดาว

ท่ามกลางความมืดที่ซ่อนเร้น
เธอไม่ได้เดียวดายเช่น ในคืนหนาว
บทกวีขับขาน เป็นสายธารทอดยาว
ให้คืนนี้มีเพียงเรา …
 J|[ J|[+~ ไม่มีอื่นใดให้เจ็บร้าว นิจนิรันดร์
+ J|[ J|[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2014, 19:40:19 โดย leephimp » บันทึกการเข้า
♫♥♪♥ พ ริ ม ♫♥♪♥
สมาชิกกิตติมศักดิ์vip
۞Webmaster۞
ปรมาจารย์ C10

Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 319161
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 572,741


ข่าวหวย ข่าวดังเลขเด็ด


« ตอบ #472 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 20:20:34 »


 love ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ  love
ขอให้ทุกท่านสุขสมหวังกับข้อมูลที่ได้รับ
ขอให้โชคดี เฮงๆ รวยๆ ค่ะ
บันทึกการเข้า
♥✿ (เอ๋) ✿♥
สมาชิกกิตติมศักดิ์วีไอพี
✤ Webmaster ✤
ยอดปรมาจารย์ C11

Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 246885
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 370,707



« ตอบ #473 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 21:26:12 »



บันทึกการเข้า
Tee1
ผู้ช่วยWebmaster
Diamond Hero 9
*

พลังน้ำใจ: 238654
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 224,078


ถ้ามันง่ายไปซะหมด คงไม่เรียกว่า....ชีวิต


« ตอบ #474 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2014, 22:19:28 »

เอนกาย พักลงที่ตรงนี้
หลับตานะคนดี จะกล่อมขวัญ
เล่านิทานความรักเป็นพรจากพระจันทร์
รินน้ำฟ้าของความฝัน มาพรมใจ

ได้ยินไหม บทเพลงจากรัตติกาล
พริ้วผ่าน เป็นสายลมหวาน อ่อนไหว
ที่เรืองรองในความมืด คือเจ้าหิ่งห้อยอำไพ
ที่เรียงรายอยู่บนม่านฟ้าไกล คือดวงดาว

ท่ามกลางความมืดที่ซ่อนเร้น
เธอไม่ได้เดียวดายเช่น ในคืนหนาว
บทกวีขับขาน เป็นสายธารทอดยาว
ให้คืนนี้มีเพียงเรา …
 J|[ J|[+~ ไม่มีอื่นใดให้เจ็บร้าว นิจนิรันดร์
+ J|[ J|[
gd: gd: gd:

บันทึกการเข้า
แท็ก:
หน้า: 1 ... 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 [19] 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 ... 408   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค "เว็บมหาชน คนมหาโชค"
 
คติ "กินอยู่อย่างพอเพียง เสี่ยงโชคแต่พอควร"
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย
คำเตือน -ทางเว็บไม่ได้ทราบเป็นการล่วงหน้าว่าหวยทางกองสลากจะออกตัวไหน แต่เราใช้การวิเคราะห์หรือประเมินตามหลักสถิติ
หรือวิธีการอื่นว่า เลขที่มีโอกาสออกมากที่สุดในแต่ละงวดควรจะเป็นเลขอะไรเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ การเล่นหวยถือว่ามีความเสียงมาก
Sitemap | Contact | WAP | xHTML | iMode | WAP 2 | RSS

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines | Sitemap
อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน ©
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.346 วินาที กับ 23 คำสั่ง
Copyright (c) 2008-2022 apichokeonline.com