อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน
27 เมษายน 2024, 16:37:11 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
"สนับสนุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น"

ผลงานห้อง VIP (งวด 16 เม.ย.67)
อ.apichoke ถูกสามตัวสลับ 589 ถูกตัวกลับเลขท้าย รว.ที่๑ 89 ถูกเลขท้าย๒ตัว 79
ถูกปักหลักสิบเต็มๆ 9 เลขเด่นวันหวยออก ถูกเด่น 5

ออก 598-79
   หน้าแรก   หวยรัฐบาล SUPER VIP หนังสือหวย VIP สมัคร vip ช่วยเหลือ แท็ก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก Register  
ฝากภาพ i-pic
หน้า: 1 ... 313 314 315 316 317 318 319 320 321 322 323 324 325 326 327 [328] 329 330 331 332 333 334 335 336 337 338 339 340 341 342 343 ... 408   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รวมคำโคลง บทกลอน คำประพันธ์หลากหลายรูปแบบ  (อ่าน 3497955 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8175 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2015, 12:47:08 »

   


...ส.ค.ส.ส่งความสุขแด่ทุกท่าน
ให้สุขสันต์สมดั่งใจที่ใฝ่ฝัน
อย่าทุกข์โศกมีโรคภัยให้หายพลัน
ให้สุขสันต์ทั้งปีมีแต่รวย..
..................................
ทั้งลาภยศเงินทองกองเต็มบ้าน
ทั้งการงานรักสดใสไปได้สวย
ทั้งมวลมิตรล้วนชักนำโชคอำนวย
ให้ร่ำรวยทั้งปี....มีแต่เฮง


  สวัสดี รวยๆ รวยๆ รวยๆ รวยๆ สวัสดี

กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า

@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8176 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2015, 12:58:56 »




 ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย
  ด่วน! หลวงพ่อคูณ ละสังขารแล้ว ด้วยวัย 92 ปี




ด่วน! หลวงพ่อคูณ ละสังขารแล้ว ด้วยวัย 92 ปี
หลวง

เวลา  12:20 น. ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า…สิ้นแล้วอีกหนึ่งพระเกจิดัง “หลวงพ่อคูณ” ละสังขารแล้วด้วยวัย 92 ปี หลังเข้ารักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ด้วยอาการเริ่มต้นช็อกหัวใจหยุดเต้น…

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. มีรายงานว่า พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ อายุ 92 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้ละสังขารแล้วหลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ท่ามกลางความโศกเศร้าของคณะแพทย์ที่ทำการรักษาและบรรดาลูกศิษย์ที่ติดตามอาการใกล้ชิด

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา หลวงพ่อคูณช็อกหัวใจหยุดเต้น หลังตื่นนอนในห้องปลอดเชื้อวัดบ้านไร่ ซึ่งแพทย์ที่ไปตรวจอาการใช้ปฏิบัติการฟื้นคืนชีพขั้นสูงยื้อชีวิตไว้ได้ทัน ก่อนนำส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และมีอาการทรุดลงเป็นลำดับ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 16 พ.ค. นพ.สมอาจ ตั้งเจริญ ผอ.โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แถลงอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม ว่า มีปัญหาการแข็งตัวของเลือดที่ไม่ดี ทำให้มีภาวะแทรกซ้อนเพิ่มขึ้นมาจากเมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) รวมถึงการมีเลือดออกในช่องทรวงอก มีผลต่อการทำงานของปอดที่ทำงานได้ไม่ดี จึงดำเนินการทำให้หายใจเพิ่มขึ้น จากปัญหาการทำงานของไตที่ไม่ดี ขณะนี้แพทย์ได้ทำการล้างไต ส่วนการหายใจที่มีปัญหา ทำให้สัญญาณชีพไม่สม่ำเสมอ และการเต้นของหัวใจที่ไม่ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการช่วยในเรื่องการทำงานของหัวใจ เพื่อให้การหายใจให้ดีขึ้น

ส่วนการเพิ่มยาเข้าไปนั้น เป็นยาที่เพิ่มในการแข็งตัวของเลือด ซึ่งทำอย่างเต็มที่แล้ว เพราะปัญหาการแข็งตัวของเลือด ทำให้เกิดเลือดออกในร่างกาย สำหรับแผนการย้ายหลวงพ่อคูณไป รพ.ศิริราช คงไม่มีแล้ว เพราะสภาพโดยทั่วไปถือว่าไม่เหมาะสมที่จะมีการเคลื่อนย้าย แต่ได้มีการประสานกับทางรพ.ศิริราช ในการช่วยกันรักษาตลอด

ทั้งนี้ การปั๊มหัวใจเมื่อช่วงเช้านี้ มีการปั๊มหัวใจเพิ่มตอนประมาณ 05.40 น. โดยปั๊มถึง 2 รอบ เนื่องจากมีเลือดออกในช่องทรวงอก ทำให้การหายใจมีปัญหาขึ้น อย่างไรก็ตาม อาการขณะนี้ถือว่าทรุดลง ซึ่งทรุดลงกว่าเมื่อวานนี้ โดยการประเมินอาการทำอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทีมแพทย์อยู่ในไอซียูตลอดเวลา 24 ชม.

พร้อมกันนั้น โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ออกแถลง เรื่อง อาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ฉบับที่ 3 ว่า คณะแพทย์ผู้ทำการรักษาได้รายงานว่า การเฝ้าตรวจติดตามอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม มีการแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น จากการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ทำให้เลือดออกในช่วงทรวงอก ส่งผลให้ระบบการหายใจล้มเหลว ภาวะหัวใจหยุดเต้น คณะแพทย์ได้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ สำหรับภาวะไตไม่ทำงาน ได้ให้การรักษาโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ขณะนี้อาการโดยรวมทรุดลง.

สำหรับหลวงพ่อคูณ เกิดเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2466 ในบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา อุปสมบทเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2487 นับเป็นอีกหนึ่งพระเกจิดังในภาคอีสาน สร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลได้รับความนิยมมากมาย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ คำพูดคำสั่งสอน “กู-มึง” และการเคาะศีรษะบรรดาลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธา.



กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 พฤษภาคม 2015, 13:25:56 โดย @kannikar@ » บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8177 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2015, 13:10:54 »


 ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย
กราบ


เปิดตำนานหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ วิถีเกจิผู้ยิ่งใหญ่แห่งภาคอีสาน

หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ประวัติพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคอีสาน กับเส้นทางชีวิตตั้งแต่วัยเยาว์ก่อนเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

หลวงพ่อคูณ แห่งวัดบ้านไร่ เป็นชื่อที่ติดหู และได้รับความสนใจของคนไทยมานานหลายสิบปี
ด้วยความที่หลวงพ่อท่านเป็นพระที่มากด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งยอง
หรือการพูดจากภาษพ่อขุนรามคำแหง แต่สิ่งที่นับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้คนมักนึกถึงหลวงพ่อคูณ
คงหนีไม่พ้นเครื่องรางของขลัง และหลักคำสอนแบบตรงไปตรงมาที่แฝงไว้ด้วยหลักธรรมอันลึกซึ้งให้ผู้คนนำ
ไปยึดเป็นแนวทางดำเนินชีวิต และชีวประวัติอันเต็มไปเรื่องราวอันน่าสนใจมากมาย

ประวัติของของพระเทพวิทยาคม (คูณ ปริสุทโธ) แห่งวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
 พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคอีสาน เกิดในครอบครัวชาวนา ที่บ้านไร่ หมู่ที่ 6 ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
 ซึ่งในขณะนั้นนับว่าเป็นพื้นที่ห่างไกลความเจริญ หลวงพ่อคูณ ท่านเกิดเมื่อ 14 ตุลาคม 2466
 (แต่บางตำราว่าวันที่ 4 ตุลาคม) ตรงกับวันแรม 10 ค่ำ เดือน 10 ปีกุน
โดยเป็นบุตรชายคนโตหัวปีของนายบุญ ฉัตรพลกรัง (บิดา) และนางทองขาว ฉัตรพลกรัง (มารดา)
 โดยมีพี่น้อง 2 คน ได้แก่ นายคำมั่ง แจ้งแสงใส และนางทองหล่อ เพ็ญจันทร์

หลวงพ่อคูณ ได้เข้าเรียนหนังสือกับ พระอาจารย์เชื่อม วิรโธ พระอาจารย์ฉาย และพระอาจารย์หลี
ซึ่งได้เรียนทั้งภาษาไทยและภาษาขอม ที่วัดบ้านไร่ ซึ่งเป็นสถานการศึกษาแห่งเดียวในหมู่บ้าน
ตั้งแต่อายุประมาณ 6-7 ขวบ โดยได้ศึกษาภาษาไทยและขอม นอกจากนี้พระอาจารย์ทั้ง 3
 ยังเมตตาสอนวิชาคาถาอาคมป้องกันอันตรายต่าง ๆ ให้แก่หลวงพ่อคูณด้วย
 ด้วยเหตุนี้หลวงพ่อคูณจึงมีความเชี่ยวชาญวิชาอาคมต่าง ๆ มาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก

เมื่ออายุครบ 21 ปีก็ได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดถนนหักใหญ่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
 ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2487 ตรงกับวันศุกร์ เดือน 6 ปีวอก (หนังสือบางแห่งระบุว่าเป็นปี 2486)
โดยมีพระครูวิจารย์ดีกิจ อดีตเจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด เป็นพระอุปัชฌาย์ ส่วนพระกรรมวาจาจารย์
ก็คือพระอาจารย์สุข วัดโคกรักษ์ โดยหลังจากที่อุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้วได้รับฉายาว่า
 "ปริสุทโธ" และฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแดง วัดบ้านหนองโพธิ์ ต.สำนักตะคร้อ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นพระนักปฏิบัติทางด้านคันถธุระและวิปัสสนาอย่างเคร่งครัด
 และทั้งเป็นพระเกจิอาจารย์พระคณาจารย์ที่เรืองวิทยาคมเป็นอย่างยิ่ง จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้คนและมีลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก

จากนั้นหลวงพ่อคูณก็ได้ตั้งใจร่ำเรียนพระธรรมวินัย และอยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อแดงมานานพอสมควร
 ก่อนที่หลวงพ่อแดงจะพาหลวงพ่อคูณไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ "หลวงพ่อคง พุทธสโร"
เนื่องจากทั้งสองรูปเป็นเพื่อนที่มักมีการพบปะแลกเปลี่ยนธรรมะ ตลอดจนวิชาอาคมต่าง ๆ แก่กันเสมอ
 จากนั้นหลวงพ่อคง ผู้ทรงคุณทั้งทางธรรม และทางไสยเวทย์ ก็ได้สอนวิชาต่าง ๆ
ให้กับหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ด้วยความรักใคร่มิได้ปิดบังอำพรางแต่อย่างใด
โดยใช้วิธีการสอนโดยการศึกษาพระธรรมควบคู่กับการปฏิบัติพระกัมมัฏฐาน
 เน้นการมี "สติ" ระลึกรู้ พิจารณาอารมณ์ต่าง ๆ ที่มากระทบและให้เกิดความรู้เท่าทันในอารมณ์นั้น

เปิดตำนานหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ วิถีเกจิผู้ยิ่งใหญ่แห่งภาคอีสาน

พร้อมกับสอนพระกัมฏฐานโดยให้ใช้หมวดอนุสติ ด้วยการกำหนด ความตาย เป็นอารมณ์
 เรียกว่า มรณัสสติ เพื่อให้ เกิดความรู้เท่าทัน ไม่หลงในในอารมณ์ รูป รส กลิ่น เสียง
ไม่ประมาทในความโลภ ความโกรธ และความหลง กระทั่งหลวงพ่อคงเห็นว่า
หลวงพ่อคูณมีความรอบรู้ชำนาญการปฏิบัติธรรมดีแล้ว จึงแนะนำให้ออกธุดงค์จาริกไปตามป่าเขาลำเนาไพร ฝึกปฏิบัติธรรมเบื้องสูงต่อไป

โดยในช่วงแรกหลวงพ่อคูณก็ได้เดินธุดงค์ จาริกอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จากนั้นจึงได้มีการธุดงค์ไกลขึ้นเรื่อย ๆ
ไปจนถึงป่าลึกประเทศลาว และประเทศกัมพูชา เพื่อทำความเพียรให้เกิดสติปัญญา เพื่อการหลุดพ้นจากกิเลส ตัณหา
 และอุปทานทั้งปวง เมื่อพิจารณาเห็นสมควรแก่การปฏิบัติแล้ว หลวงพ่อคูณธุดงค์จากเขมร
 กลับมายังประเทศไทย เดินข้ามเขตด้านจังหวัดสุรินทร์ สู่จังหวัดนครราชสีมา กลับบ้านเกิดที่บ้านไร่

พร้อมกับเริ่มก่อสร้างถาวรวัตถุทางพระพุทธศาสนาต่าง ๆ โดยเริ่มสร้างอุโบสถในปี พ.ศ. 2496
จากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านที่ได้ช่วยกันเข้าป่าตัดไม้ จนสามารถสร้างพระอุโบสถจนสำเร็จ
ซึ่งปัจจุบันอุโบสถหลังดังกล่าวได้ถูกรื้อลงและก่อสร้างหลังใหม่แทนแล้ว นอกจากนี้หลวงพ่อยังได้สร้างโรงเรียน
 กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ รวมทั้งขุดสระน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค ขึ้น เพื่อพัฒนาความเจริญของพื้นที่บ้านไร่
และตามมาด้วยการก่อโรงพยาบาลถึง 3 หลัง และโรงเรียนอื่น ๆ อีกจำนวนมาก พร้อมทั้งยังได้บริจาคเงินทองเพื่อช่วยเหลือสาธารณสุขต่าง ๆ อยู่เสมอ

ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้หลวงพ่อคูณเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้คนและมีลูกศิษย์เป็นจำนวนมากนั้น
 คงหนีไม่พ้นเรื่องการสร้างวัตถุมงคล โดยตามประวัติพบว่าท่านเคยสร้างวัตถุมงคลรุ่นแรกตั้งแต่สมัยบวชได้ประมาณ 7 พรรษา
 โดยเริ่มจากตะกรุดโทน ตะกรุดทองคำ เพื่อฝังที่ใต้ท้องแขน ณ วัดบ้านไร่ ราว พ.ศ. 2493 โดยท่านบอกกับผู้มาขอเสมอว่า
 ใครขอ กูก็ให้ ไม่เลือกยากดีมีจน ปัจจุบันพระเครื่องหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นั้นเป็นที่นิยมและต้องการของลูกศิษย์
และนักสะสมพระเครื่องอย่างมาก หลาย ๆ รุ่นมีราคาแพงมากโดยเฉพาะเหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นแรก
ส่วนเรื่อง "เครื่องรางของขลัง" ของหลวงพ่อคูณคงต้องยกให้ ตะกรุดทองคำหลวงพ่อคูณ
 ซึ่งจะเป็นตะกรุดทองคำฝังแขน ซึ่งท่านจะมีข้อห้าม 2 ข้อ คือ
 1. ห้ามด่าแม่ 2. ห้ามผิดลูกเมียผู้อื่น นับว่าเป็น เครื่องรางของขลังหลวงพ่อคูณ ที่น่าสนใจมาก

อย่างไรก็ดี จากประวัติอันน่าสนใจทั้งเรื่องของความแก่กล้าในวิชาอาคม และความแตกฉาน
ในความรู้ด้านพระพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้ ทำให้ท่านได้รับฉายาว่า "ปราชญ์แห่งที่ราบสูง"
แม้นจะมีท่าทีการแสดงออกที่ตรงไปตรงมาพูดจามึงกู แต่ผู้ใกล่ชิดทุกคนกลับทราบดีว่าหลวงพ่อคูณนั้นมีจิตเมตตาเป็นอย่างยิ่ง
 ไม่เคยมีใครพบเห็นหลวงพ่อคูณกราดเกรี้ยว หรือทุกขเวทนากับเหตุการณ์ต่าง ๆ
 สิ่งที่หลวงพ่อคูณแสดงออกมาทุกครั้งในการให้สัมภาษณ์หรือสนทนาธรรม ได้แสดงให้เห็นว่า ท่านนั้นมีจิตที่แจ่มใส
 หมดสิ้นแล้วซึ่งกิเลส เป็นที่พึ่งทางธรรมให้แก่ญาตโยมทุกคนอย่างแท้จริง

10 คำคม “กูให้มึง”
1. ยิ่งเอามันยิ่งอด ยิ่งสละให้หมดมันยิ่งได้
2. กูให้พวกมึง รู้จักพอเพียง
3. เกิดมาแล้ว…รักความสงบ ให้มีศีลธรรมไว้ประจำใจทุก ๆ คน โลกจะได้อยู่ชุ่มกินเย็น…
4. การทำตัวให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่นั้นง่าย แต่จะสร้างสมบุญให้มีบารมีนั้นเป็นเรื่องยาก… ต้องเป็นผู้ให้ด้วยธรรมอันบริสุทธิ์จริง
5. กูดีใจที่เกิดมาเป็นคนจนเพราะ ได้สร้างทานบารมี ถ้ากูเกิดมาเป็นคนรวยป่านนี้ คำว่า บุญก็ไม่รู้จักกัน
6. เงินเป็นทาสกู กูไม่ยอมเป็นทาสเงิน
7. กูไม่เคยยินดียินร้ายในลาภยศสรรเสริญ
8. กูจะทำให้ชาวบ้าน เพื่อตอบแทนข้าวน้ำ ที่เขาให้กูกินทุกวัน
9. กูทำดี เขาจึงให้ของดีกูมา
10. พระไม่ได้อยู่กับคนชั่ว แต่อยู่กับคนดี ให้นึกว่าพระมากับเราจะทำชั่วไม่ได้
อย่าทำตัวผิดศีลธรรมผิดจารีตประเพณี โดยเฉพาะการทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท


ขอบคุณข้อมูลจาก
1. kapook.com
2. วิหารเทพวิทยาคม วัดบ้านไร่ http://watbaanrai.com/?page_id=172

กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8178 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2015, 14:17:10 »

 


 หลวงพ่อคูณผู้ยิ่งใหญ่แห่งวัดบ้านไร่
 และสถิตย์ในใจของสาธุชนชาวพุทธ
ขอจงไปสู่นิพพาน
สาธุ สาธุ สาธุ

 ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย
<a href="https://www.youtube.com/v/Jivqrbr9Lsw?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color1=660099&amp;amp;color2=9900CC&amp;amp;border=&amp;autoplay=1&amp;loop=1" target="_blank">https://www.youtube.com/v/Jivqrbr9Lsw?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color1=660099&amp;amp;color2=9900CC&amp;amp;border=&amp;autoplay=1&amp;loop=1</a>



เปิดพินัยกรรม หลวงพ่อคูณ พ.ศ.2543
จะบริจาคศพให้คณะแพทย์ม.ขอนแก่น ห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ
 อัฐิอังคารลอยแม่น้ำโขง http://t.co/JVDCMROQsA

คลิกอ่าน
http://www.naewna.com/local/158326
อาตมาหลวงพ่อคูณ อายุ 77 ปี ในขณะนั้น
ถิ่นพำนักวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ลงวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2543
ขอทำพินัยกรรมกำหนดการ เผื่อถึงการมรณภาพ
 เกี่ยวกับเรื่องการจัดงานศพของอาตมา ภายหลังที่อาตมาถึงมรณภาพลง

1.ศพของอาตมา ให้มอบแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่นภายใน 24 ชั่วโมง
 หลังจากละสังขาร เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น มอบให้กับภาควิชากายวิภาคศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปศึกษาค้นคว้าตามวัตถุประสงค์ของภาคต่อไป

2.พิธีกรรมศาสนา การสวดอภิธรรมศพ ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
 ทำพิธีสวด พระอภิธรรมศพ ที่คณะแพทยศาสตร์ 7 วัน

3.การจัดทำพิธีบำเพ็ญกุศล เมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์
 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว ให้จัดงานแบบเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชน์ใดๆ
และห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ โกฏิและพระราชพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษเป็นการเฉพาะ
โดยให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทำพิธีเช่นเดียวกับ
การจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปีร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น
 แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่น

4.เมื่อดำเนินเสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่าน และเศษอังคารทั้งหมด ให้คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม






กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 พฤษภาคม 2015, 14:23:15 โดย @kannikar@ » บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8179 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2015, 14:22:16 »


 ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย
 รับข่าวเศร้าๆร้ายๆแล้ว
สี่โมงเย็นนี้ขอให้ทุกท่านได้รับข่าวดีกันถ้วนหน้าค่ะ
เรื่องร้ายๆย่อมมาก่อนเรื่องดีดีเสมอ

 โชคดี โชคดี โชคดี

กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 พฤษภาคม 2015, 14:25:47 โดย @kannikar@ » บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8180 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2015, 14:35:16 »

สดชื่นยามบ่ายพรุ่งนี้ขอให้รวยๆครับ



 สวัสดี วันนี้ วันหวยออก
จึงขอบอก ผ่านออนไลน์ ในบ่ายนี้
ขอให้พบ ลาภลอย คอยโชคดี
ถูกหวยรวย วันนี้ โชคดีนะคะคุณTEE


 สวัสดีค่ะ  รวยๆ รวยๆ รวยๆ



กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8181 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2015, 14:45:07 »


[/quote]



สวัสดีวันแห่งความร่ำรวยค่ะ
ขอให้โชคดีวันนี้ร่ำรวยๆๆ เงินทอง  เฮงๆ ถูกหวยนับเงินทุกๆท่านนะค่ะ
 รวยๆ รวยๆ รวยๆ 
ขอให้น้อง  พลอย_นี่  มีโชคดี
เป็นเศรษฐี ร่ำรวย ถูกหวยเงินล้าน
งวด 16 พฤษภา พาสำราญ
จิตชื่นบาน รวยความสุข ทุกคืนวัน

 รวยๆ รวยๆ รวยๆ

กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8182 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2015, 15:02:34 »


 หวาน หวาน หวาน
 สวัสดี สวัสดีคุณART ทานข้าว อิ่มหรือยัง
เข้ามาฟัง กรรณิการ์ บ้ากลอนก่อน
เย็นวันนี้ ถูกหวยรวย ขออวยพร
จิบเบียร์เย็น คลายร้อน ก่อนโชคดี

 เซ็ง อิอิ เซ็ง
 รวยๆ รวยๆ รวยๆ





กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8183 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2015, 15:07:05 »

วันนี้เตรียมฉลองถูกหวยรวยนะคะคุณTee
อย่าพึ่งขำเกินไปซะก่อนเด้อ..อิอิ..ว่าตามภาพจร้า

 ดีใจ ดีใจ ดีใจ

กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8184 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2015, 15:09:45 »


 w"| ? w"|
งวดนี้เลขอะไรดี
 แง แง แง แง แง แง

  w"| ? w"|
 *C *C *C
รางวัลที่หนึ่ง งวดประจำวันที่ 16 พฤษภาคม 2558
เลขที่ออก.....
.....
 *C รวยๆ รวยๆ รวยๆ *C
 ||=*) วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง

กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
ART 55
Hero Mb6
*

พลังน้ำใจ: 20937
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,403



« ตอบ #8185 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 07:06:15 »

สวัสดีตอนเช้าครับคงรวยๆกันนะครับ รวยๆ love รวยๆ
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8186 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 07:36:20 »



ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย
 สวัสดีค่ะ

สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ ๑๗ พษภาคม พ.ศ ๒๕๕๘
ตรงกับ แรม ๑๕ ค่ำเดือน ๖ เป็นวันพระ

สวัสดี ยามเช้า เข้าวันพระ
สวดธรรม  ทำสติ อธิษฐาน
พบแต่สุข ไร้ทุกข์ภัย ใจเบิกบาน
แด่ทุกท่าน ที่ได้อ่าน ใจสุขเทอญฯ



กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 พฤษภาคม 2015, 07:40:47 โดย @kannikar@ » บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8187 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 08:02:53 »

สวัสดีตอนเช้าครับคงรวยๆกันนะครับ รวยๆ love รวยๆ
  l@$ ส่งใจ l@$
 สวัสดี คุณART ตื่นแต่เช้า
คงไม่เมา เบียร์เรา  ฝากไว้ให้
ฉลองวัน หวยออก ชอกช้ำใจ
ออกมาได้ 38 ล่าง ช่างน่าอาย

สองงวดก่อน พึ่งออก บอกถูกตรง
งวดนี้งง ออกซ้ำ น้ำตาไหล
ซื้อ21 ข้างล่าง ขึ้นบนไป
ซื้อล็อตรี่  83ไว้  ไม่กลับเลย

 แงๆๆ แงๆๆ
 ยิ้มหวาน */. สู้สู้ สู้สู้ ชัยชนะ
 #%/ ขอให้รวย #%/
  ดอกไม้ให้คุณ สวัสดีวันอาทิตย์ค่ะคุณART
รวยไม่รวยต้องตอบว่ารวยค่ะรวยมากๆไว้ก่อนถือว่าพูดดีเป็นศิริมงคลจร้า
วันหยุดนี้พักผ่อนอย่างมีความสุขค่ะ

 แงๆๆ น้ำตาจิไหล...พระโคไม่ให้โชค.... แงๆๆ แงๆๆ แงๆๆ


กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8188 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 08:21:36 »



วันพระ หรือ วันธรรมสวนะ หรือ วันอุโบสถ
 หมายถึง วันประชุมของพุทธศาสนิกชนเพื่อปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาในพระพุทธศาสนาประจำสัปดาห์
หรือที่เรียกกันทั่วไปอีกคำหนึ่งว่า "วันธรรมสวนะ" อันได้แก่วันถือศีลฟังธรรม
(ธรรมสวนะ หมายถึง การฟังธรรม) โดยวันพระเป็นวันที่มีกำหนดตามปฏิทินจันทรคติ
โดยมีเดือนละ ๔ วัน ได้แก่ วันขึ้น ๘ ค่ำ, วันขึ้น ๑๕ ค่ำ (วันเพ็ญ),
 วันแรม ๘ ค่ำ และวันแรม ๑๕ ค่ำ (หากเดือนใดเป็นเดือนขาด ถือเอาวันแรม ๑๔ ค่ำ)

วันพระนั้นเดิมเป็นธรรมเนียมของปริพาชกอัญญเดียรถีย์
(นักบวชนอกพระพุทธศาสนา) ที่จะประชุมกันแสดงธรรมทุก ๆ วัน ๘ ค่ำ ๑๕ ค่ำ
 ซึ่งในสมัยต้นพุทธกาล พระพุทธเจ้ายังคงไม่ได้ทรงวางระเบียบในเรื่องนี้ไว้
ต่อมาพระเจ้าพิมพิสารได้เข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 และกราบทูลพระราชดำริของพระองค์ว่านักบวชศาสนาอื่น
มีวันประชุมสนทนาเกี่ยวกับหลักธรรมคำสั่งสอนในศาสนาของเขา
 แต่ว่าพุทธศาสนายังไม่มี พระพุทธองค์จึงทรงอนุญาตให้
มีการประชุมพระสงฆ์ในวัน ๘ ค่ำ ๑๕ ค่ำ และอนุญาตให้พระภิกษุสงฆ์
ประชุมสนทนาและแสดงธรรมเทศนาแก่ประชาชนในวันดังกล่าว
โดยตามพระไตรปิฎกเรียกวันพระว่า วันอุโบสถ
 (วัน ๘ ค่ำ) หรือวันลงอุโบสถ (วัน ๑๔ หรือ ๑๕ ค่ำ) แล้วแต่กรณี
หลังจากนั้น พุทธศาสนิกชนจึงถือเอาวันดังกล่าวเป็นวันธรรมสวนะสืบมา
 โดยจะเป็นวันสำคัญที่พุทธศาสนิกชนจะไปประชุมกันฟังพระธรรมเทศนาจากพระสงฆ์ที่วัด
ในประเทศไทยปรากฏหลักฐานว่าได้มีประเพณีวันพระมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย

วันพระในปัจจุบัน คงเหลือธรรมเนียมปฏิบัติอยู่แต่เฉพาะประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาเถรวาท
เช่น ศรีลังกา, พม่า, ไทย, ลาว และเขมร (ในอดีตประเทศเหล่านี้ถือวันพระเป็นวันหยุดราชการ)
โดยพุทธศาสนิกชนเถรวาทนับถือว่าวันนี้เป็นวันสำคัญที่จะถือโอกาสไปวัด
เพื่อทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์และฟังพระธรรมเทศนา
สำหรับผู้ที่เคร่งครัดในพระพุทธศาสนาอาจถือศีลแปดหรือศีลอุโบสถในวันพระด้วย
นอกจากนี้ชาวพุทธยังถือว่าวันพระไม่ควรทำบาปใด ๆ
โดยเชื่อกันว่าการทำบาปหรือไม่ถือศีลห้าในวันพระถือว่าเป็นบาปมากกว่าในวันอื่น

ในประเทศไทย หลังจากวันพระได้ถูกยกเลิกไม่ให้เป็นวันหยุดราชการ
 ทำให้วันพระที่กำหนดวันตามปฏิทินจันทรคติส่วนใหญ่ไม่สอดคล้องกับปฏิทินที่ใช้กันอยู่ทั่วไป
 (เช่น วันพระไปตรงกับวันทำงานปกติ) ซึ่งคือหนึ่งในสาเหตุสำคัญในปัจจุบัน
ที่ทำให้พุทธศาสนิกชนในประเทศไทยห่างจากการเข้าวัดเพื่อทำบุญในวันพระ

นอกจากนี้ ในประเทศไทยยังมีคำเรียกวันก่อนวันพระหนึ่งวันว่า วันโกน
เพราะปกติในวันขึ้น ๑๔ ค่ำปกติ ก่อนวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ
เป็นธรรมเนียมของพระสงฆ์ในประเทศไทยที่จะโกนผมในวันนี้




กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8189 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 08:26:25 »

 คิด? วันนี้ คุณTEE เจ้าของห้อง รวมคำโคลง บทกลอน และคำประพันธ์หาย เซ็ง
คงจะไปฉลองถูกหวยเพลิน
กรรณิการ์ขออนุญาต ใช้ห้องกวีนี้
ทำเป็นห้องธรรม สักวันเพราะ วันนี้คือวันพระ
ในฐานะเราชาวพุทธ และ เมื่อวานเป็นวันที่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธได้ละสังขาร
ในฐานะที่เราเคารพนับถือและบูชาท่านจึงขอนำเรื่องราวของท่านมาโพสต์
เพื่อเผยแผ่ประโยชน์แห่งคุณความดี คำสอน ของท่าน





กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 พฤษภาคม 2015, 08:45:03 โดย @kannikar@ » บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8190 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 08:29:36 »


 ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย

กูไม่มีอะไรมาก
กูไม่มีอะไรจะสอนพวกมึงหรอก
เพราะพวกมึงก็รู้ว่ากูพูดไม่เป็น พูดไม่เก่งเหมือนเขา เทศนาว่ากล่าวอะไรก็ไม่เป็น
กูมีแต่ว่าให้ละชั่ว ทำดีกันเท่านั้น
แหละ บุญบาปมีจริงลูกหลานเอ๊ย ให้เชื่อว่าบุญมีจริง บาปมีจริง
ให้ละชั่ว ทำดี มีศีลธรรมประจำใจ
โยม: หลวงพ่อนั่งวิปัสสนา กัมมัฏฐานแล้วเห็นอะไร ?
หลวงพ่อคูณ : กูไม่เห็นอะไรดอก
ไอ้นาย ก็หลับตาจะเห็นอะไร
ถ้ากูลืมตา กูจึงจะเห็น กูเห็นมึง
ชัดเจนว่า มึงดีหรือชั่ว มึงดำกูก็เห็น มึงขาวกูก็เห็น...
แต่เวลากูนั่งหลับตา นั่นกูทำใจ
สงบนิ่งและสบาย ทำใจให้ผ่องใส แล้วจะเกิดปัญญา
การทำทานนั้น ให้ทำแบบไปถ่าย ถ่ายแล้วลุกหนีไปเลย ไม่ต้องเป็น
ห่วง หรือมัวเสียดาย ให้แล้วอย่าหวัง
และอย่าหวง
ยิ่งเอา มันยิ่งอด
ยิ่งสละให้หมด มันยิ่งได้
"กูจะสร้างความดีไปเรื่อยๆ
กูจะให้ไปเรื่อยๆ จนกว่ากูจะตาย
กูตายแล้ว กูก็ยังมีให้ ไม่เชื่อคอยดู ก็แล้วกันลูกหลานเอ๋ย"
สมเด็จโต วัดระฆัง
ท่านก็สอนทำนองนี้ว่า
"ทำทานแล้ว อย่าเหลียวหลัง
กลับไปดู"
ยิ่งเราเก็บไว้ ถ้าตายไปแล้ว
ก็จบกัน ไม่ได้อะไรเลย
แต่ถ้ายิ่งให้ บุญจากการให้ก็ส่งผล
ทำให้มีเพิ่มขึ้น ทั้งในชาตินี้
และชาติต่อๆ ไป..
หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ

 ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย ขอพรให้รวย

กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8191 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 08:43:31 »

สิบคำคม กู ให้มึง หลวงพ่อคูณ...!!!

1.“ยิ่งเอามันยิ่งอด ยิ่งสละให้หมดมันยิ่งได้”

2.“กูให้พวกมึงรู้จักพอเพียง”

3.“กูทำดีเขาจึงให้ของดีกูมา”

4.“กูไม่เคยยินดียินร้ายในลาภยศสรรเสริญ”

5.“กูดีใจที่เกิดมาเป็นคนจนเพราะได้สร้างทานบารมี
ถ้ากูเกิดมาเป็นคนรวยป่านนี้ คำว่า บุญก็ไม่รู้จักกัน”

6.“เงินเป็นทาสกู กูไม่ยอมเป็นทาสเงิน”

7.“การทำตัวให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่นั้นง่าย แต่จะสร้างสมบุญให้มีบารมีนั้นเป็นเรื่องยาก
…ต้องเป็นผู้ให้ด้วยธรรมอันบริสุทธิ์จริง”

8.“กูจะทำให้ชาวบ้าน เพื่อตอบแทนข้าวน้ำ ที่เขาให้กูกินทุกวัน”

9.“เกิดมาแล้ว…รักความสงบ ให้มีศีลธรรมไว้ประจำใจทุก ๆ คน โลกจะได้อยู่ชุ่มกินเย็น…”

10.“…พระไม่ได้อยู่กับคนชั่วแต่อยู่กับคนดี ให้นึกว่าพระมากับเราจะทำชั่วไม่ได้
อย่าทำตัวผิดศีลธรรม ผิดจารีตประเพณี โดยเฉพาะการทำผิดกฎหมายบ้านเมือง
ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท”

Cr.หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ



กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8192 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 08:50:22 »







กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8193 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 08:53:20 »






กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8194 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 08:58:09 »



 


กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8195 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 09:01:33 »









กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8196 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 09:04:30 »


กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8197 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 09:17:14 »

   สวัสดีค่ะ ขอนำเอารายละเอียดมาลงอีกครั้งขอบคุณที่มาไทยรัฐออนไลน์

อ่านรายละเอียดข่าว หลวงพ่อคูณ

เคลื่อนร่าง'พ่อคูณ'เป็น'อจ.ใหญ่'แพทย์ มข.

คลิก
http://www.thairath.co.th/content/499288


ตามเจตนารมณ์ บำเพ็ญกุศล7วัน ทรงพระราชทาน โกศโถ‘ชั้นธรรม’

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เคลื่อนสรีระสังขาร “หลวงพ่อ คูณ” ไปเป็นอาจารย์ใหญ่ นักศึกษาแพทย์ตามเจตนารมณ์เกจิเทพเจ้าแห่งด่านขุนทด หลังระบุในพินัยกรรมให้ดำเนินการภายใน 24 ชม.หลังมรณภาพ ก่อนนำไปตั้งบำเพ็ญกุศล 7 วัน ให้พุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศกราบไหว้ ด้าน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผย ในหลวงพระราชทานโกศโถชั้นธรรมเป็นกรณีพิเศษ พร้อมทรงรับพิธีศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์

พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ อายุ 92 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้มรณภาพอย่างสงบแล้ว หลังมีอาการอาพาธหัวใจหยุดเต้นเข้ารักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา เป็นการด่วนเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา

ด่วน “พ่อคูณ” ละสังขาร 11.45 น.

ต่อมาเวลา 12.30 น.วันที่ 16 พ.ค. นพ.สมอาจ ตั้งเจริญ ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ คณะแพทย์ คณะกรรมการวัดบ้านไร่ และญาติหลวงพ่อคูณ ร่วมกันแถลงว่า หลวงพ่อคูณได้มรณภาพอย่างสงบแล้วเมื่อเวลา 11.45 น.วันเดียวกัน เนื่องจากการทำงานหลายระบบของท่านล้มเหลว และภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น คณะแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา และจาก รพ.ศิริราช ได้ให้การรักษาอย่างเต็มที่ ส่วนการจัดการกับสังขารของหลวงพ่อคูณจะมีการหารือกันอีกครั้ง เพราะท่านได้บริจาคร่างกายให้แก่ รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

แพทย์แจงมรณภาพตั้งแต่ที่วัด

นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ ประธานคณะกรรมการแพทย์ที่ให้การรักษาพระเทพวิทยาคม กล่าวว่า สาเหตุที่หลวงพ่อมรณภาพก็อย่างที่ทุกคนทราบว่าคือหลวงพ่อคูณหยุดหายใจ สาเหตุคือมีลมรั่วเข้ามาในปอดหรือปอดแตก ทำให้หัวใจหยุดเต้น เนื่องจากว่าเราต้องช่วยปั๊มหัวใจเป็นเวลานาน ปกติสมองขาดออกซิเจน 4 นาทีก็แย่แล้ว แต่กรณีของหลวงพ่อคูณ แพทย์พยายามปั๊มหัวใจนานถึง 1 ชั่วโมง หลังนำท่านมาถึงก็พยายามช่วยกันเต็มที่ เมื่อเช้าก็มีการปั๊มหัวใจเพิ่มประมาณ 05.40 น. ถึง 2 รอบ แต่ท่านมีภาวะเป็นผักแล้วคือไม่รับรู้ใดๆแล้ว คือพูดตรงๆ ท่านจากเราไปตั้งแต่อยู่วัดบ้านไร่แล้ว หลังจากหยุดหายใจหัวใจหยุดเต้นเป็นเวลานานก็พาให้อวัยวะอื่นๆ แย่ตามไปด้วย คือสมองไปตั้งแต่แรก ต่อมาหัวใจเราพยายามยื้อ และต่อมาปอดจนมาที่ไต ผลพวงจากการที่หยุดหายใจและหัวใจหยุดเต้นเป็นเวลานาน ทำให้อวัยวะที่สำคัญหลายอวัยวะของท่านวายตามไปด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หลวงพ่อมรณภาพในที่สุด

ทำพินัยกรรมมอบสังขารให้ รพ.

จากนั้นเวลา 13.30 น. นายบุญยืน คำหงส์ รอง ผวจ.นครราชสีมา ได้เรียกประชุมคณะกรรมการวัดบ้านไร่เข้าประชุมร่วมกับพระราชสีมาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นายสมพงษ์ วิริยะจารุ วัฒธรรมจังหวัดนครราชสีมา และคณะแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา เพื่อหารือเกี่ยวกับพิธีกรรมและการจัดการกับสังขารหลวงพ่อคูณ โดยพระราชสีมาภรณ์กล่าวว่า มติที่ประชุมให้ทำตามพินัยกรรมฉบับสุดท้าย หลวงพ่อคูณระบุไว้ชัดเจนตอนที่มีชีวิตอยู่และมีสติสัมปชัญญะว่าให้บริจาคร่างกายแก่ รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งจะต้องทำตามพินัยกรรมที่ทำไว้

ต่อรองขอศพไปตั้งที่วัดบ้านไร่

รอง ผวจ.นครราชสีมากล่าวอีกว่า ส่วนจะนำศพไปที่วัดบ้านไร่ได้ก่อนหรือไม่ คงต้องรอคณะแพทย์จาก รพ.ศรีนครินทร์มาถึงก่อนว่าจะอนุญาตตามที่ลูกศิษย์ขอว่าให้ตั้งบำเพ็ญกุศล 7 วันก่อน แต่หาก รพ.ศรีนครินทร์จำเป็นต้องนำศพไปก็คงต้องรออีก 2-3 วัน จากนั้นจะคืนศพกลับมาบำเพ็ญกุศลได้ ทั้งนี้ พินัยกรรมฉบับสุดท้ายระบุว่า หากหลวงพ่อหมดลมหายใจให้นำศพไปบำเพ็ญกุศลที่ รพ.ศรีนครินทร์ ภายใน 24 ชั่วโมง ประเด็นนี้ทางลูกศิษย์อยากจะขอไว้ก่อน เพราะหลวงพ่อคูณมีศิษยานุศิษย์เลื่อมใสศรัทธามาก จึงอยากจะตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่วัดก่อนที่จะมอบให้ทาง รพ.ศรีนครินทร์นำไปศึกษา แต่นายบุญยืน ประธานในที่ประชุมแย้งว่าต้องให้เป็นไปตามพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณ ฉะนั้นจึงยังหาข้อยุติไม่ได้คงต้องรอปรึกษาคณะแพทย์จาก รพ.ศรีนครินทร์ก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร

ย้ายไปชั้น 9 เปิดให้ศิษย์กราบไหว้

เวลา 15.30 น. คณะสงฆ์นำโดยพระราชสีมภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ นพ. สมอาจ ตั้งเจริญ ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา และคณะศิษย์ได้เคลื่อนย้ายสรีระพระเทพวิทยาคมจากหอผู้ป่วยหนักอายุรกรรม อาคารการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขึ้นไปตั้งที่ห้องประชุมชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเปิดให้ประชาชนได้ประกอบพิธีวางพวงมาลัยเคารพศพหลวงพ่อคูณ ระหว่างเส้นทางจากอาคารการไฟฟ้าฯถึงชั้น 9 มีญาติโยมยืนรอกราบร่างหลวงพ่อคูณแออัดล้นหลาม เมื่อถึงชั้น 9 มีศิษยานุศิษย์เฝ้ารออยู่หน้าห้องเต็มไปหมด เจ้าหน้าที่ได้ให้คณะสงฆ์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แพทย์พยาบาล บุคลากรของโรงพยาบาล และลูกศิษย์ใกล้ชิดเข้ากราบก่อน จากนั้นเปิดให้ประชาชนเข้าแถวชุดละ 10 คนเข้ากราบร่างหลวงพ่อคูณ

พ่อเมืองโคราชหารือแพทย์ มข.

ส่วนที่ห้องประชุมบุญประสงค์ ติดห้องผู้ป่วยหนักอายุรกรรม นายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา ร่วมประชุมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะสงฆ์ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการเรื่องสรีระหลวงพ่อคูณ นายธงชัยเปิดเผยว่าอยากกราบเรียนประชาชนชาวไทยและต่างประเทศว่าตลอดเวลาที่หลวงพ่อคูณมีชีวิต ท่านสร้างคุณูปการให้กับประชาชนและศาสนาพุทธมากมาย รวมทั้งเป็นผู้ที่นำพระธรรมคำสอนของพุทธองค์มาเผยแผ่ให้ไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง และหลวงพ่อไม่ได้สอนให้งมงายหรือเชื่อในสิ่งที่ไม่ควรเชื่อ หากใครอยู่ใกล้ก็จะสัมผัสได้ แต่หลวงพ่อจะสะท้อนออกมาในแง่ธรรมะทั้งสิ้น ดังนั้นเมื่อหลวงพ่อได้ละสังขาร เราก็ควรจะแสดงกตัญญูกตเวทิตาให้เหมาะสม

ต้องทำตามพินัยกรรมที่ระบุไว้

ผวจ.นครราชสีมากล่าวว่า สุดท้ายแล้วบทสรุปในการหารือกันก็คือให้ยึดการดำเนินการตามพินัยกรรมที่ทำขึ้นที่วัดบ้านไร่เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2543 มีสาระสำคัญคือ สรีระของหลวงพ่อเมื่อถึงแก่มรณภาพแล้วมอบให้กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อนำไปเป็นอาจารย์ใหญ่หรือศึกษาทางแพทย์ 2.กำหนดการฌาปนกิจ มอบให้คณะแพทยศาสตร์ มข. และศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทดและนายอำเภอด่านขุนทดเป็นเจ้าภาพในการฌาปนกิจ รายละเอียดต่างๆนั้นคือให้บำเพ็ญกุศลศพที่คณะแพทยศาสตร์ มข. และให้นำศพไปถึง มข.ภายใน 24 ชั่วโมงซึ่งเขียนไว้ชัดเจน เมื่อถึงแล้วให้ทำการบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 7 วัน ภายใน 7 วันนั้นค่าใช้จ่ายให้นำเงินที่ได้บริจาคไว้จำนวน 300,000 บาทให้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการบำเพ็ญกุศล หากมีผู้มาทำบุญก็ให้นำเงินดังกล่าวไปคืนให้คณะแพทยศาสตร์ที่ให้ไว้ หากยังมีเงินเหลืออีกให้นำเงินไปรักษาสงฆ์อาพาธที่อยู่ รพ.สงฆ์ใน จ.ขอนแก่น

นำอัฐิเถ้าถ่านลอยอังคารน้ำโขง

“พินัยกรรมได้เขียนละเอียดชัดเจน และหากนำสรีระหลวงพ่อคูณไปใช้ศึกษาแล้วซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 1 ปี ให้นำไปฌาปนกิจที่วัดหนองแวง พระอารามหลวง อ.เมืองขอนแก่น จากนั้นให้นำอัฐิ เถ้าถ่าน ไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ฉะนั้นเพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทิตาให้ทำตามเจตนารมณ์ของท่านที่ให้ไว้เพราะท่านต้องการให้ทุกอณูของหลวงพ่อเป็นประโยชน์กับสรรพสัตว์ทั้งหลายในการเรียนรู้วิชาแพทย์และไม่อยากเบียดเบียนใครอีก แม้แต่งานที่เกี่ยวกับพระราชพิธีทั้งหมดก็ให้งด ก็จะเป็นการฌาปนกิจศพเหมือนอาจารย์ใหญ่ทั่วๆไปของทุกคนที่ใช้ในการศึกษาเรียนรู้” นายธงชัยกล่าว

เสร็จแล้วนำศพไปขอนแก่นทันที

ด้าน รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า หลังจากที่เปิดให้ประชาชนที่ศรัทธาได้เข้ากราบนมัสการสรงน้ำศพหลวงพ่อคูณที่ รพ.มหาราชนคร-ราชสีมา เรียบร้อยแล้ว จะขอกราบนำสรีระร่างของหลวงพ่อคูณไปที่ มข. โดยคาดว่าจะเคลื่อนศพได้ช่วง 20.00 น.เพื่อฉีดน้ำยารักษาสรีระของท่านให้พร้อมที่จะเป็นครูใหญ่ต่อไป และหลังจากนั้นจะพักสรีระของท่านไว้ที่ศาลา 25 ปี และวันที่ 17 พ.ค.จะเคลื่อนไปที่หอประชุมกาญจนาภิเษกและจะบำเพ็ญกุศลสรีระท่านเป็นเวลา 7 วัน โดยวันที่ 17 พ.ค.จะเป็นคืนแรก ทั้งนี้ประชาชนสามารถเข้าไปกราบนมัสการท่านได้โดยเจ้าภาพจะเป็นเจ้าภาพร่วมระหว่างคณะทำงานที่ทาง มข.ตั้งขึ้น และทางคณะทำงานของ จ.นครราชสีมาตั้งขึ้น และมีการเชิญส่วนราชการเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพ

ย้ำทำตามเจตนารมณ์หลวงพ่อ

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวด้วยว่า เรามีความตั้งใจที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์เจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณและทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนกระบวนการที่จะนำสรีระร่างท่านไปใช้เพื่อการศึกษาคือจะมีการนำร่างท่านไปดอง 1 ปี เราได้สั่งทำอ่างแก้วเป็นกรณีพิเศษ หากญาติโยมจะเข้าไปกราบก็สามารถเข้ามาได้ จากนั้นจะนำร่างขึ้นมาให้นักศึกษาแพทย์ได้เรียนเป็นระยะเวลา 2 ปีการศึกษา เมื่อครบการศึกษาแล้วก็จะเป็นไปตามเจตนารมณ์ใช้เวลาประมาณ 3 ปี ในปีที่ 3 จะมีการพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษสำหรับครูใหญ่ทุกคนที่ทาง มข.ได้ขอไว้ก่อนหน้านี้ โดยจะมีหลวงพ่อคูณและครูใหญ่ทำพิธีพร้อมกันด้วย

มอบให้คณะแพทย์ใน 24 ชม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพินัยกรรมหลวงพ่อคูณมีเนื้อหาสำคัญ อาตมาหลวงพ่อคูณ อายุ 77 ปี ในขณะนั้น ถิ่นพำนักวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ลงวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2543 ขอทำพินัยกรรมกำหนดการเผื่อถึงการมรณภาพ เกี่ยวกับเรื่องการจัดงานศพของอาตมา ภายหลังที่อาตมาถึงมรณภาพลง 1.ศพของอาตมา ให้มอบแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่นภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากละสังขาร เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น มอบให้กับภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปศึกษาค้นคว้าตามวัตถุประสงค์ของภาคต่อไป 2.พิธีกรรมศาสนา การสวดอภิธรรมศพ ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพที่คณะแพทยศาสตร์ 7 วัน

ห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ

3.การจัดทำพิธีบำเพ็ญกุศล เมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว ให้จัดงานแบบเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชใดๆ และห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ โกศ และพระราชพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษเป็นการเฉพาะ โดยให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปีร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น หรือวัดอื่น และ 4.เมื่อดำเนินเสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่าน และเศษอังคารทั้งหมด ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม

น้องสาววัย 89 ร่ำไห้-ทำใจไม่ได้

ขณะที่บรรดาญาติโยมที่เฝ้ารอดูอาการที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้าหลังทราบข่าวหลวงพ่อคูณมรณภาพถึงกับร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้า โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้อนุญาตให้เฉพาะลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดนำพวงมาลัยเข้าไปเคารพศพในห้องไอซียูและห้ามสื่อมวลชนและประชาชนเข้าไปด้านในอย่างเด็ดขาด โดยนางคำมั่น วงศ์กาญจนรัตน์ อายุ 89 ปี น้องสาวของหลวงพ่อคูณที่มาเฝ้าดูอาการหน้าห้องถึงกับร่ำไห้ไม่หยุด เนื่องจากทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียหลวงพ่อคูณ

วัดบ้านไร่สวดมนต์ต่อชะตา

ส่วนบรรยากาศที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน ก่อนที่หลวงพ่อคูณจะละสังขาร ลูกศิษย์ได้จัดพิธีสวดมนต์ต่อชะตาตวงน้ำ หรือพิธียกครูหลวงปู่คูณให้กับหลวงพ่อคูณใต้ต้นโพธิ์ ซึ่งได้ก่อกองทราย 99 กอง ตวงน้ำ ไม้ค้ำโพธิ์และไทรอย่างละอัน นิมนต์พระสงฆ์จากสำนักสงฆ์ป่าสะเดาที่อยู่ใกล้กับวัดบ้านไร่จำนวน 5 รูป มาทำพิธีสวดมนต์ต่อชะตาตวงน้ำ บริเวณลานหลังศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่ทำต่อกันมาตั้งแต่โบราณโดยนางสุณี หงส์ขุนทด หรือป้านี อายุ 59 ปี กล่าวว่า พิธีดังกล่าวเป็นความเชื่อมาแต่โบราณ ขณะที่พระสงฆ์สวดมนต์ พระสงฆ์ที่เป็นประธานการสวดก็จะทำพิธีตักน้ำใส่บาตรพระไปเรื่อยๆเพื่อให้จำนวนครั้งเกินอายุหลวงพ่อคูณ จบพิธีสวดมนต์พอพระสวดจบ ถ้าได้จำนวนครั้งที่ตักน้ำเกินอายุหลวงพ่อคูณ ถือว่าเป็นเรื่องดีแต่ถ้าขาดถือว่าชะตาไม่ดี และทุกครั้งที่หลวงพ่อคูณเข้า รพ.ตนก็จะทำพิธีแบบนี้ทุกครั้ง และก็จบพิธีด้วยชะตาดีทุกครั้ง คราวนี้ผลการตวงน้ำได้เกินอายุหลวงพ่อคูณอีก12 ขันครึ่ง ถือว่าชะตาหลวงพ่อคูณยังดี

แห่เช่าบูชาพระเครื่องแน่นวัด

ขณะที่ช่วงบ่าย ภายหลังทราบข่าวการมรณภาพของหลวงพ่อคูณ พบว่าบรรยากาศที่วัดบ้านไร่ ได้มีประชาชนเดินทางมาที่วัดเพื่อรอรับศพและกราบไหว้สรีระสังขารของหลวงพ่อเป็นวาระสุดท้าย ทำให้ลานจอดรถภายในวัดแน่นขนัดไปด้วยยวดยานต่างๆ ส่วนบริเวณสถานที่จำหน่ายวัตถุมงคล ปรากฏว่ามีชาวบ้านที่เลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อคูณไปมุงแย่งบูชาพระเครื่องรุ่นต่างๆเพื่อนำไปบูชาเป็นสิริมงคลตามความศรัทธาและเชื่อถือ ส่วนบริเวณศาลาใต้ถุนพระอุโบสถ บรรดาลูกศิษย์ได้ช่วยกันจัดสถานที่และประดับไฟแสงสีเพื่อใช้เป็นที่ตั้งศพ แต่เมื่อรู้ว่าไม่สามารถนำศพมาที่วัดบ้านไร่แน่นอนแล้วจึงยุติลง

นายเลี่ยม เอิบขุนทด อายุ 58 ปี และนางบัวลิม เอิบขุนทอด อายุ 53 ปี สองสามีภรรยา บ้านอยู่ อ.ด่านขุนทด เผยว่า ปกติมากราบหลวงพ่อคุณเป็นประจำ วันนี้รู้ข่าวว่าหลวงพ่อท่านละสังขารก็เลยมาเช่าวัตถุมงคลรุ่นสุคโต และสร้างบารมี 6 องค์ รวมทั้งได้เช่าเหรียญพิเศษเป็นเหรียญเงินฝังเพชรด้วยและจะกลับมาเช่าอีก ส่วนนายอภิสัณห์ เอื้อชัยเลิศกุล อายุ 56 ปี กล่าวว่า เดินทางมาจาก กทม. ตั้งใจมากราบหลวงพ่อคุณ เมื่อท่านละสังขารก็ได้กราบเพียงรูปเหมือนที่ตั้งอยู่ ก่อนเช่าวัตถุมงคลไว้บูชา และเอาไปฝากญาติผู้ใหญ่ด้วย เป็นรุ่นรวยรวย และรุ่นดีจริง 12 องค์

ม.ขอนแก่นจัดสถานที่รอรับศพ

ส่วนที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น มีการจัดสถานที่ศาลา 25 ปี มข. ไว้รอรับสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด และที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 ซึ่งได้มรณภาพช่วงสายที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และตามพินัยกรรมระบุให้นำศพมาอยู่ในความดูแลของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใน 24 ชม. เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำความสะอาดและจัดเตรียมสถานที่รองรับพุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศที่จะเดินทางมาเคารพศพหลวงพ่อคูณเป็นจำนวนมาก

วางสรีระสังขารจากพื้น 1 เมตร

รศ.พิพัฒน์พงษ์ แคนลา รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า การจัดเตรียมสถานที่โดยเฉพาะการจัดวางสรีระสังขารจะสูงจากพื้น 1 เมตร โดยนำรูปแบบการจัดเตรียมสถานที่เช่นเดียวกับในงานพิธีศพของหลวงปู่ศรี มหาวีโร เจ้าอาวาสวัดประชาคมวนาราม จ.ร้อยเอ็ด ถือเป็นการจัดพิธีที่สมเกียรติ ส่วนรอบบริเวณสถานที่จะมีการจัดตั้งโรงทานและเต็นท์กว่า 20 หลังเพื่อต้อนรับคณะศิษยานุศิษย์ที่จะมาร่วมไว้อาลัยทั่วทุกสารทิศ โดยจะดำเนินงานตามเจตนารมณ์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรมทั้งหมด

จัดงาน 7 วัน–นศ.แพทย์เรียน 3 ปี

รศ.พิพัฒน์พงษ์กล่าวว่า ขณะเดียวกันยังคงจัดตั้งจุดรับบริจาคให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมทำบุญกับหลวงพ่อ โดยยอดเงินที่ได้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดพิธีศพและสมทบบริจาคเข้าสู่อาคารสงฆ์อาพาธของ รพ.ศรีนครินทร์ตามที่พินัยกรรมกำหนดไว้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ หลังการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา 7 วันแล้วจะเข้าสู่ขั้นตอนของกระบวนการจัดการเรียนการสอนจะใช้เวลา 3 ปี แยกเป็นการดูแลรักษาศพตามหลักวิทยาศาสตร์ (ดองศพ) 1 ปี และใช้ในการเรียนการสอนตามหลักสูตรนักศึกษาแพทย์แต่ละรายวิชาอีก 2 ปี จากนั้นจะเข้าสู่พิธีการของการพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ต่อไป

ตร.ระดมกำลังรับคลื่นมหาชน

ขณะที่ พ.ต.อ.สุภากร คำสิงห์นอก รอง ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ตำรวจพร้อมอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ โดยเฉพาะตลอดเส้นทางที่ขบวนสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณเข้ามาในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ตำรวจท้องที่และตำรวจทางหลวงจะจัดรถนำขบวนและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับขบวนรถดังกล่าวที่คาดว่าจะมีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะตลอดแนวถนนมิตรภาพตั้งแต่ อ.พล โนนศิลา บ้านไผ่ บ้านแฮด เข้าสู่เขต อ.เมืองขอนแก่น จนถึงสถานที่ของการประกอบพิธีทางศาสนาที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขณะที่ตำรวจจราจรและสายตรวจจะประจำที่สถานที่ประกอบพิธีทั้ง 7 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ศิษยานุศิษย์ในแต่ละวันหลายหมื่นคน


กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8198 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 09:18:52 »

ประวัติ “เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด”

สำหรับประวัติพระเทพวิทยาคม หรือ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ” เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้รับสมญานามว่า “เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด” หลวงพ่อคูณเกิดในสกุล ฉัตรพลกรัง เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2466 ที่บ้านไร่ หมู่ 6 ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด บิดา-มารดา ชื่อนายบุญ และนางทองขาว ฉัตรพลกรัง มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 3 คน ครอบครัวประกอบอาชีพชาวไร่ชาวนาที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ในวัยเยาว์ท่านต้องสูญเสียโยมบิดามารดาในขณะที่ลูกทั้ง 3 คนยังเป็นเด็ก ท่านกับน้องๆจึงอยู่ในความอุปการะของน้าสาว

ฝากตัวเป็นศิษย์ “หลวงพ่อแดง”

เมื่ออายุ 6-7 ขวบ ด.ช.คูณ เข้าเรียนหนังสือกับพระอาจารย์ฉายและพระอาจารย์หลทั้งภาษาไทย และภาษาขอม นอกจากนี้ พระอาจารย์ยังมีเมตตาอบรมสั่งสอนวิทยาคม เพื่อป้องกันอันตรายต่างๆ จนกระทั่งอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดถนนหักใหญ่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2487 ได้รับฉายาว่า ปริสุทฺโธ ภายหลังอุปสมบทเป็นพระ ท่านฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแดง วัดบ้านหนองโพธิ์ ต.สำนักตะคร้อ อ.ด่านขุนทด โดยหลวงพ่อแดงเป็นพระนักปฏิบัติทางด้านคันถธุระและวิปัสสนาธุระอย่างเคร่งครัด อีกทั้งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคมยิ่ง จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้คนและลูกศิษย์เป็นอย่างมาก

ออกธุดงค์จาริกไปฝั่งลาว–เขมร

หลวงพ่อคูณอยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อแดงมานานพอสมควร หลวงพ่อแดงจึงพาหลวงพ่อคูณไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อคง พุทธสโร ซึ่งหลวงพ่อทั้งสองรูปเป็นสหธรรมิกกันต่างให้ความเคารพซึ่งกัน และกัน เมื่อมีโอกาสได้พบปะมักแลกเปลี่ยนธรรมะ ตลอดจนวิทยาคมเสมอ เวลาล่วงเลยผ่านไป กระทั่งหลวงพ่อคงเห็นว่าลูกศิษย์มีความรอบรู้ชำนาญการปฏิบัติธรรมดีแล้ว จึงแนะนำให้ออกธุดงค์จาริกไปตามป่าเขาลำเนาไพร ฝึกปฏิบัติธรรมเบื้องสูงต่อไป ครั้งแรกหลวงพ่อคูณได้ท่องธุดงค์จาริกอยู่ในเขต จ.นครราชสีมา จากนั้นจาริกออกไปไกลถึงประเทศลาวและประเทศเขมร มุ่งเข้าสู่ป่าลึก เพื่อทำความเพียรให้เกิดสติปัญญา เพื่อการหลุดพ้นจากกิเลส ตัณหา และอุปาทานทั้งปวง

กลับแผ่นดินเกิดสร้างวัดบ้านไร่

หลังจากที่พิจารณาเห็นสมควรแก่กาลแล้ว หลวงพ่อคูณจึงออกเดินทางจากประเทศเขมรเดินทางกลับสู่ประเทศไทย เดินข้ามเขตด้าน จ.สุรินทร์ สู่ จ.นครราชสีมา กลับบ้านเกิด จากนั้นเริ่มดำเนินการก่อสร้างวัดบ้านไร่ เพื่อเป็นถาวรวัตถุทางพระพุทธศาสนา เริ่มสร้างอุโบสถ กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ ขุดสระน้ำไว้เพื่ออุปโภคและบริโภค และที่สำคัญยังสร้างโรงเรียนไว้เพื่อเด็กบ้านไร่อีกด้วย ทั้งนี้ หลวงพ่อคูณถือได้ว่าเป็นพระที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับวงการสงฆ์และพัฒนาท้องถิ่นมาโดยตลอด โดยเฉพาะด้านการหาทุนสร้างโรงพยาบาลและโรงเรียน

ทูลเกล้าฯถวายเงิน 72 ล้านบาท

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯมายังวัดบ้านไร่ เพื่อทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่บุษบกเหนือพระอุโบสถวัดบ้านไร่ครั้งนี้มีการจัดสร้างพระยอดธงรุ่นแรก หรือรุ่นทูลเกล้าฯ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทราบว่าชาวด่านขุนทด มีปัญหาขาดแคลนน้ำทุกปีในช่วงหน้าแล้ง จึงทรงมีพระราชดำริ และพระราชทานเงินให้กรมชลประทาน จัดทำโครงการพัฒนาลำน้ำสาขาห้วยสามบาท อันเนื่องมาจากโครงการพระราชดำริ ซึ่งหลวงพ่อคูณ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเงิน 72 ล้านบาทโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

ครั้งนั้นมีเรื่องเล่าขานกันต่อๆมาว่าคำพูดของหลวงพ่อคูณที่ปกติจะใช้คำไทยๆ “กู-มึง” มาตลอด ทำให้เหล่าข้าราชการที่รอรับเสด็จต่างกังวล แต่หลังจากผ่านพ้นวันนั้นแล้ว มีลูกศิษย์ถามหลวงพ่อว่า “ในหลวง” ตรัสอะไรกับหลวงพ่อบ้าง หลวงพ่อคูณตอบมาว่า “มึงรู้ไหม มือพระองค์เป็นมือคนทำงานอย่างก๊ะชาวไร่ชาวนา แข็งกระด้างมากๆ” และเมื่อถูกถามอีกว่า หลวงพ่อใช้คำเรียกพระองค์ว่าอะไร หลวงพ่อก็ตอบว่า พระองค์ตรัสประโยคแรกว่า “หลวงพ่อครับ พูดตามปกตินะครับ ผมเป็นคนไทย”

80 พรรษา–ถวายอีก 100 ล้าน

ต่อมาในปี 2549 หลวงพ่อคูณได้ตั้งใจถวายเงินเพื่อเป็นพระราชกุศลฯ อีกครั้งเป็นเงิน 100 ล้านบาท ในโอกาสครบ 12 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราช ดำเนินมาวัดบ้านไร่ และในหลวงจะทรงเจริญพระ ชนมพรรษา 80 พรรษา และหลวงพ่อคูณจะมีอายุครบ 84 ปี หรือครบ 7 รอบ จึงมีการระดมทุนครั้งใหญ่ และหลวงพ่อคูณเดินทางเข้าน้อมเกล้าฯถวายเงินจำนวนดังกล่าวที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ในปีถัดมา

เลื่อนสมณศักดิ์ชั้นพระเทพ

ส่วนสมณศักดิ์มีดังนี้ วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2535 เป็นพระราชาคณะ ชั้นสามัญที่ พระญาณวิทยาคมเถร 10 มิถุนายน พ.ศ.2539 เป็นพระราชาคณะชั้นราชฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระราชวิทยาคม อุดมกิจจานุกิจจาทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี และ 12 สิงหาคม พ.ศ.2547 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระเทพวิทยาคม อุดมธรรมสุนทร ปสาทกรวรกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

อย่างไรก็ดี ตามหลักเกณฑ์เทียบเกียรติยศพระราชทานแก่พระศพและศพ สำนักพระราชวัง กรณีพระเทพวิทยาคม (คูณ ปริสุทฺโธ) มรณภาพ เบื้องต้นตามสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นเทพ จะได้รับพระราชทานน้ำหลวง หีบทองทึบ เป็นเครื่องเกียรติยศ และได้รับพระราชทานเพลิงหลวง กับรถวอเชิญหีบศพ เป็นเครื่องเกียรติยศในการพระ ราชทานเพลิงศพ

พระราชทานโกศโถชั้นธรรม

นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโกศโถ ฉัตรเบญจา พร้อมเครื่องประกอบสมณศักดิ์ชั้นธรรมในการประกอบพิธีศพหลวงพ่อคูณ ทั้งนี้ ถือว่าเป็นการเลื่อนชั้นสมณศักดิ์ให้กับหลวงพ่อคูณเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากโกศโถ เป็นโกศสำหรับพระราชาคณะชั้นธรรม แต่สมณศักดิ์ปัจจุบันของหลวงพ่อคูณคือชั้นเทพ ซึ่งโดยปกติแล้วจะได้รับพระราชทานหีบทองบรรจุศพ พร้อมกันนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับพิธีศพหลวงพ่อคูณอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วันด้วย


ย้ายศพพ่อคูณไป ม.ขอนแก่น

จากนั้นช่วงเย็น นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เดินทางไปเคารพศพหลวงพ่อคูณ บนชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติ
 และร่วมกับลูกศิษย์ใกล้ชิดเคลื่อนย้ายสรีระสังขารขึ้นรถตู้เบนซ์กู้ชีพของ รพ.มหาราชนครราชสีมา
หมายเลขทะเบียน นก 1669 นครราชสีมา และออกจากโรงพยาบาลเวลา 19.30 น.
ไปยังมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่จัดเตรียมอาคาร 25 ปีเป็นสถานที่รับสรีระสังขารชั่วคราวก่อนย้ายไป
ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก เวลา 14.00-15.00 น. วันที่ 17 พ.ค.
 และจะมีการสวดอภิธรรมศพคืนแรกจนถึงวันที่ 23 พ.ค.

ศพพ่อคูณถึง ม.ขอนแก่นแล้ว

กระทั่งเวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่นำสรีระสังขารหลวงพ่อคูณไปถึงมหาวิทยาลัยขอนแก่น
 โดยมี รศ.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมคณบดีคณะต่างๆ
อาจารย์และนักศึกษา รอต้อนรับ และร่วมกันนำศพหลวงพ่อคูณไปตั้งในโลงเย็นภายใน
 อาคาร 25 ปี และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่เฝ้ารอเป็นจำนวนมากเข้ากราบไหว้
โดยอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า คืนนี้จะตั้งศพไว้เฉยๆ ยังไม่มีพิธีการใดๆ
 ส่วนวันที่ 17 พ.ค. เวลา 14.00- 15.00 น. จะเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษกฯ
และมีพิธีทางศาสนา 7 วัน

กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
@kannikar@
Super Hero7
*

พลังน้ำใจ: 2949
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,376


Night blooming jasmin


« ตอบ #8199 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2015, 09:42:26 »



'ถ้ารักจริง'

ในวโรกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒
 พระราชวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ได้ถวายชัยมงคลและได้ถือโอกาสบรรยายธรรม
แก่สานุศิษย์ผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง ที่วัดบ้านไร่ โดยสอนให้ดูพระราชจริยวัตรเป็นตัวอย่าง

"...เป็นพระเจ้าแผ่นดินก็มีทุกข์เท่าแผ่นดิน เป็นคนธรรมดา เป็นเจ้าของสิ่งใดก็ทุกข์เท่าสิ่งนั้น
 เป็นเจ้าของบ้านก็ทุกข์เท่าบ้าน เป็นเจ้าของนาก็ทุกข์เท่านา เป็นสมภารวัดก็ทุกข์เท่าวัด

ท่านปกครองแผ่นดินมา ท่านก็มีเมตตาแก่ปวงชนทุกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจนโง่หรือฉลาด
พระเจ้าแผ่นดินท่านก็ไม่ทำอคติ ไม่ทำลำเอียง ท่านรักเสมอกันเหมือนพระอาทิตย์
มีพระจันทร์มีแสงฉายไปทุกหย่อมหญ้า ไม่เลือกว่าคนมีคนจน ฉายแสงไปเสมอต้น..ตลอดกาล..ตลอดเวลา...

...ถ้ารักพระเจ้าแผ่นดินเหมือนปากว่า ก็อย่าทำสิ่งชั่วช้าสารเลว
 คนส่วนมากปากว่ารักพระเจ้าแผ่นดิน แต่ว่าไม่ปฏิบัติตามที่พระเจ้าแผ่นดินตรัสออกมา

เราต้องเคารพทั้งต่อหน้าและลับหลัง ท่านตรัสมาอย่างไรก็ทำตามแบบนั้น
เราไม่คิดนอกลู่นอกทาง นี่จึงจะเรียกว่ารักพระเจ้าแผ่นดินจริง..."


คัดจาก นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๒
ขอบคุณภาพจาก รองศาสตราจารย์ ดร. กอบธัม สถิรกุล





ผมเป็นคนไทย……
.
ประมาณปี 35 หรือปี 36 ผมไม่แน่ใจ ตอนนั้นผมยังรับใช้หลวงพ่อคูณที่วัด
 หลวงพ่อจะถวายเงิน 72 ล้านตามอายุของในหลวง ซึ่งก็มี ข้าราชการมาเตรียม
 คำพูด สอน คำราชาศัพท์มากมาย จนวันหนึ่งพระเทพฯ ก็ได้มาหาหลวงพ่อ
 แล้วก็ทรงถามอะไรมากมาย แต่หลวงพ่อคูณไม่ได้ตอบอะไร
จนในที่สุดพระเทพฯท่านก็ทรงถามว่า ทำไม หลวงพ่อ ไม่พูดกับหนูล่ะคะ
 หลวงพ่อคูณก็ตอบ แล้วก็พรางชี้ไปที่ นายอำเภอว่า …………
 ก็ไอ้นี่ มัน ไม่ให้ กู พูดคำว่า กู กับมึง
55555 พระเทพ ขำ น้ำตาซึม

.
แล้วพอ มา ถึงวันงาน ที่ในหลวงเสด็จมา เหล่าบรรดา สส. สว. สจ.
 นายอำเภอ หน้าแหยๆกัน เพราะกล้วว่า หลวงพ่อคูณจะพูด กู มึง กับในหลวง
.
แล้วหลวงพ่อคูณท่านพูดว่า กูก็เคยเรียน ภาษาไทยเนอะ รู้น่า
 ไม่ต้องห่วงด๊อก …ไอ้นาย (หลวงพ่อคูณ พูดกับ ราชการผู้ใหญ่)
.
จนในที่สุด ในหลวงท่านเสด็จมา ผมเองก็มีโอกาสเห็นในหลวง ใกล้ที่สุดๆๆๆๆ ชิด
 พระวรกาย เลย ซึ่งในหลวงท่านถามว่า หากิน ลำบากไหม (ผมน้ำตาไหล พราก)
แล้วพระองค์ก็เดินจากไป คนแน่นวัด ท่านถามแบบบนี้ ทุกคน
 ถามถึงเรื่องการทำมาหากิน และความลำบาก พอท่านเสด็จกลับ….
.
หลวงพ่อคูณท่านก็เข้าวัด ท่านยิ้มแก้มปริ จนเวลาผ่านไป ผมก็ แอบไปถามท่านว่า …
 ตอนที่เดินบนโบสถ์ ผมถามจริงเถอะหลวงพ่อ คุยอะไรเล่าให้ผมฟังหน่อย …
.
แล้วคำแรก ที่หลวงพ่อ กล่าวคือ… มึงรู้ไหม มือพระองค์ เป็นมือ
 คนทำงาน อย่างก๊ะ ชาวไร่ ชาวนา ..แข็งกะด้าง มากๆ

.
แล้วผมก็ถามหลวงพ่อว่า หลวงพ่อใช้คำ เรียกว่าอะไร … หลวงพ่อท่านเงียบ แล้วก็ตอบว่า
.
พระองค์ พูดประโยคแรกว่า …….. “หลวงพ่อครับ พูดตามปกติ นะครับ ผมเป็นคนไทย”

.
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ 1 king 1 heart
#DemocratTH #พรรคประชาธิปัตย์








เมื่อหลวงพ่อคูณถูกห้ามพูดมึง-กู

"มีอยู่ครั้งหนึ่งทางในวังได้มีหนังสือแจ้งมายังผู้ว่าราชการจังหวัด
บอกว่าจะมีเจ้าฟ้าพระองค์หนึ่งเสด็จมานมัสการหลวงพ่อคูณ
ซึ่งตามปกติพอมีหนังสือมาดังนี้ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดก็จะต้องมาเตรียมสถานที่ให้สะอาดสะอ้านตามธรรมเนียม

วันนั้นท่านผู้ว่าฯ ไปยังวัดบ้านไร่แล้วบอกกับหลวงพ่อคูณว่า
วันรุ่งขึ้นจะมีเจ้าฟ้าพระองค์หนึ่งเสด็จมานมัสการหลวงพ่อ
“กระผมเกรงว่าหลวงพ่อจะพูดกู...กับพระองค์ มันจะไม่สุภาพ”
หลวงพ่อคูณก็ถามท่านผู้ว่าฯ ตรงๆ ว่า
“กูถนัดพูดของกูอย่างนี้ ...จะให้กูทำอย่างไร”
ท่านผู้ว่าฯ บอกว่า “ท่านก็นั่งนิ่งๆ ไม่ต้องพูดสิ! ดูสงบเสงี่ยมดีเหมือนกันนะ”
หลวงพ่อคูณท่านก็ไม่ว่าอะไร เพราะเขาก็เป็นถึงผู้ว่าฯ อุตส่าห์มาบอกก็ดีแล้ว
วันรุ่งขึ้นก็ปรากฏว่าเจ้าฟ้าพระองค์นั้นเสด็จมาถึงวัด
เสด็จเดินดูโน่นดูนี่ แล้วรู้สึกชอบวัดนี้เป็นพิเศษที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย และที่สำคัญ

ทำไมหลวงพ่อคูณไม่พูดอะไรเลย ถามอะไรก็เฉย
จนในที่สุดพระองค์ท่านก็ถามหลวงพ่อคูณตรงๆ ว่า
"ทำไมวันนี้หลวงพ่อไม่พูดอะไรเลย?"
หลวงพ่อคูณก็ตอบเจ้าฟ้าพระองค์นั้นไปว่า
“กูจะพูดได้อย่างไร ในเมื่อท่านผู้ว่าฯ มันมาห้ามไม่ให้กูพูดกับ...”
ปรากฏว่าแทนที่เจ้าฟ้าพระองค์นั้นจะกริ้วหลวงพ่อคูณที่พูดกู...กับพระองค์ พระองค์กลับหัวเราะชอบใจ
และอนุญาตให้หลวงพ่อคูณใช้สรรพนาม กู ... กับพระองค์ได้ตามที่ถนัด
เรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องที่ชาวบ้านเล่าขานถึงความมีเอกลักษณ์ของหลวงพ่อคูณ

จาก "คม-ชัด -ลึก" ฉบับวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2557

กรรณิการ์เป็นไม้หอม..ที่จะส่งกลิ่นในยามค่ำคืน
 เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
 เหมาะที่จะปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบริเวณบ้าน
 ในขณะเดียวกันสามารถปลูกทางทิศใต้ได้
บันทึกการเข้า
แท็ก:
หน้า: 1 ... 313 314 315 316 317 318 319 320 321 322 323 324 325 326 327 [328] 329 330 331 332 333 334 335 336 337 338 339 340 341 342 343 ... 408   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค "เว็บมหาชน คนมหาโชค"
 
คติ "กินอยู่อย่างพอเพียง เสี่ยงโชคแต่พอควร"
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย
คำเตือน -ทางเว็บไม่ได้ทราบเป็นการล่วงหน้าว่าหวยทางกองสลากจะออกตัวไหน แต่เราใช้การวิเคราะห์หรือประเมินตามหลักสถิติ
หรือวิธีการอื่นว่า เลขที่มีโอกาสออกมากที่สุดในแต่ละงวดควรจะเป็นเลขอะไรเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ การเล่นหวยถือว่ามีความเสียงมาก
Sitemap | Contact | WAP | xHTML | iMode | WAP 2 | RSS

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines | Sitemap
อภิโชค เลขเด็ด หวยดัง หวยเด็ด เว็บหวยออนไลน์ คำนวณหวยบนดิน ©
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.764 วินาที กับ 23 คำสั่ง
Copyright (c) 2008-2022 apichokeonline.com